๑.๓ How deep is your love?
“พี่ก็บอกเสมอว่าพี่คิดจริงจังกับเรา ไม่เคยคิดจะทำอะไรเล่นๆ มีแต่หนูดีนั่นแหละที่ไม่ยอมเข้าใจเสียที เอาแต่หนี เอาแต่งอนอยู่ตลอด”
“ไปบอกเลิกสาวๆ ให้หมดก่อนสิคะ หนูดีถึงจะเชื่อ”
“โอเคถ้าหนูดีต้องการแบบนั้น ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปพี่จะโละสาวๆ ในสต๊อกออกให้หมด แล้วหลังจากนั้นจะมีแค่หนูดีคนเดียว ถ้าพี่ทำได้ หนูดีจะยกทั้งตัวและหัวใจให้พี่ใช่ไหม”
“ถ้าพี่เตทำได้ หนูดีก็จะยอมยกให้”
มือใหญ่สะอาดทั้งสองข้างจับที่หัวไหล่กลมกลึง หมุนร่างบางให้หันหน้ากลับมาหา ก่อนจะละมือข้างหนึ่งไปแตะที่ปลายคางมน แล้วบังคับให้เงยหน้าขึ้น ตาคู่คมจ้องมองตาคู่สวยนิ่งนาน พร้อมกับเอ่ยถ้อยคำที่ทำเอาคนฟังแก้มร้อนมากกว่าเดิม
“พี่ทำได้อยู่แล้ว กลัวแต่หนูดีเถอะอย่าลืมที่รับปากกับพี่ไว้ก็แล้วกัน เพราะพี่ลงทุนเทหน้าตักขนาดนี้ พี่จะไม่ยอมให้หนูดีบิดพลิ้วหรือปั่นหัวพี่เล่นแน่ๆ”
ประกายตาคู่นั้นคมกล้า บ่งบอกความรู้สึกและความปรารถนาของตนออกมาอย่างชัดเจน แถมใบหน้าก็โน้มลงมาใกล้เหมือนกับจะจูบเธอ ทำเอาคนที่เรียกร้องต่างๆ นานาเริ่มไปไม่เป็น จึงได้แต่ปัดมือเขาออกเบาๆ แล้วเบี่ยงตัวจากสัมผัสอันชิดใกล้และชวนให้วาบหวามนั้น
“พี่เตปล่อยก่อนค่ะ หนูดีหิวน้ำ พี่เตมีน้ำให้กินไหมคะ”
ริมฝีปากหยักที่อนุรดีรู้ดีว่าเร่าร้อนแค่ไหนคลี่ยิ้มออกมา คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างล้อเลียน เมื่อคำถามของเธอชวนให้คิดลึก
“มีสิ มีมากด้วย พร้อมจะให้หนูดีกินเสมอ”
“พี่เต! หนูดีไม่ได้หมายถึงแบบนั้น” คนถูกล้อเลียนค้อนขวับหน้าคว่ำ พลางนึกโมโหตัวเองที่พูดอะไรแบบไม่คิด กับคนอื่นอาจไม่ต้องระวังขนาดนี้ แต่กับเตชินท์มันเป็นข้อยกเว้นไปเสียทุกเรื่อง
“แล้วหนูดีคิดว่าพี่หมายถึงอะไร”
“ก็...”
“หือ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นอีกรอบเป็นเชิงรอคำตอบ เมื่อเธอไม่พูดออกมาให้จบ
“พี่เตก็รู้ อย่ามาทำหน้าตายแบบนี้นะคะ”
“พี่ก็แค่เลียนแบบหนูดี หนูดีชอบทำแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ไม่อยากเถียงด้วยแล้วค่ะ ตกลงน้ำอยู่ไหนคะ”
“น้ำอยู่ในตู้เย็นครับเด็กดี”
โอย...ทำไมจู่ๆ พี่เตก็เปลี่ยนโหมดเป็นพูดหวานๆ ชวนให้แข้งขาสั่นและใจละลายแบบนี้ด้วย รู้ไหมว่าเธอไม่ชิน รู้ไหมว่าเธอวาบหวามแค่ไหน หรือเขาชอบพูดแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนเวลาที่เขา ‘อยาก’ ได้
“พี่เตจะดื่มด้วยไหมคะ หนูดีจะได้หยิบมาเผื่อ” อนุรดีได้แต่ถามแก้อาการเขินอายของตัวเอง ไม่อยากให้เขารู้ว่าตอนนี้เธอหวั่นไหวมากแค่ไหน
“ก็ดี พี่ขอเบียร์นะ”
บอกสิ่งที่ตัวเองต้องการเสร็จ ร่างสูงก็เดินไปนั่งไขว่ห้างรอที่โซฟาสีเบจตัวยาว โดยตายังจ้องมองร่างบางซึ่งตอนนี้กำลังเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำมาเทใส่แก้วดื่ม หลังจากนั้นเธอก็จัดการเทนมใส่แก้วอีกใบ แล้วเดินมาหาเขาที่โซฟา พร้อมกับยื่นแก้วบรรจุของเหลวสีขาวให้
“นมค่ะพี่เต”
“พี่บอกว่าอยากดื่มเบียร์ไม่ใช่เหรอ” เตชินท์ถามกลับ ขณะมองหน้าคนที่กำลังยื่นแก้วนมมาให้ โดยไม่ยอมยื่นมือไปรับแก้วจากเธอแต่อย่างใด
“แต่นมดีต่อสุขภาพมากกว่าเบียร์ เพราะฉะนั้นพี่เตควรดื่มนมค่ะ”
“โอเค ดื่มก็ดื่ม หนูดีอุตส่าห์เอามาให้แล้วนี่ แต่พี่มีข้อแม้นะ”
“ข้อแม้อะไรคะ...อุ๊ย!”
ปากที่กำลังเอื้อนเอ่ยวาจากลายเป็นเปล่งเสียงอุทานออกมาแทน เมื่อเตชินท์ยื่นมือมารวบร่างเล็กที่อยู่ในชุดนักศึกษาลงไปนั่งบนตักของเขา
“พี่เตเล่นอะไรก็ไม่รู้ ดูสิคะนมหกหมดแล้ว ปล่อยก่อนค่ะ เดี๋ยวหนูดีไปเอามาให้ใหม่”
อนุรดีดิ้นรนออกจากอ้อมแขนแกร่ง สีหน้าบึ้งตึงแบบกึ่งงอนกึ่งเขิน แต่เตชินท์ไม่คิดจะยอมปล่อยง่ายๆ ตาคมหลุบมองตำแหน่งที่ของเหลวสีขาวข้นนั้นหกใส่ จะเรียกได้ว่านมหกใส่นมก็ไม่ผิดนัก และความเปียกชื้นนั้นทำให้เห็นลายลูกไม้ของบราเซียร์สีหวานที่โอบประคองสองเต้าสาวพอวับแวม
“เดี๋ยวค่อยไป หนูดีนั่งนิ่งๆ ก่อน เสื้อเลอะน่ะ”
“งั้นหนูดีไปหาทิชชูเช็ดก่อนนะคะ”
“ไม่ต้องไป เดี๋ยวพี่เช็ดให้”
“แต่ที่โต๊ะไม่มีทิชชูนี่คะ”
“ไม่จำเป็นต้องใช้ทิชชูหรอก”
“แล้วพี่เตจะใช้อะไรเช็ด”
“ก็ใช้...”
ตาคู่สวยช้อนขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างสงสัย ก่อนที่ความสงสัยนั้นจะแปรเปลี่ยนเป็นคลื่นอารมณ์ซ่านสยิวที่ซัดซ่าๆ เข้าสู่ท้องน้อย เมื่อเตชินท์ตอบคำถามของเธอด้วยการกระทำ