บทที่ 5 คนตกปลา
ความทรงจำทบทวนประติดประต่อเหตุการณ์รวดเร็วและเท้าเร่งความเร็วมากกว่าเดิม ยิ่งวิ่งยิ่งรู้สึกเย็นยะเยือกจับหัวใจ หล่อนจะหนีทันไหม จะไปทางไหนดี ใครจะช่วยหล่อนได้บ้าง เท้าวิ่ง ใจลำดับหาคนช่วยแต่ไม่มีชื่อใครโผล่เข้ามาสักคน
“ช่วยหนูด้วยค่ะอาจารย์หมอ หนูตายไม่ได้ หนูต้องเอาตัวคนที่มันสั่งฆ่าอาจารย์หมอเข้าคุก ช่วยหนูด้วยค่ะ”
เท้าเปลี่ยนเส้นทางตรง เป็นเฉลียงไปทางซ้ายมือ ถนนอยู่ไม่ไกลเท่าไร เร่งความเร็วเท่าที่จะเร่งได้ แสงไฟหน้ารถแล่นใกล้เข้ามา หญิงสาวตัดสินใจวิ่งข้ามถนน คน 3 คนวิ่งตามมาติด ๆ แต่ต้องชะงักเพราะรถแล่นมาถึง
“ปรี๊นนนนน ๆ ๆ”
เสียงแตรรถดังติดต่อกันยาว ไม่มีเวลาเหลียวหลังกลับไปมอง หล่อนต้องรอดชีวิตเท่านั้นในค่ำคืนนี้ แสงไฟวับแวมอยู่ข้างหน้า มีคนอยู่ที่นั่น ความคิดเร็วกว่าเท้ามุ่งตรงไปยังแสงเล็ก ๆ ข้างหน้า...
สายเอ็นถูกดึงจนมือรู้สึก มือหมุนรอกม้วนสายเอ็นเข้าที่ แรงดึงสายเอ็นหนักมือ ปลาตัวใหญ่แน่นอน วันนี้มาไม่เสียเวลาเปล่า รอยยิ้มคลี่กระจายบนใบหน้าแต่พลันต้องหุบลงฉับพลัน
“ช่วยด้วยค่ะ”
ร่างเพรียววูบเข้ามาและถลาตกลงด้านล่าง ไม่ได้ยินเสียงร้องมีแต่เสียงตุ้บเท่านั้น เสียงฝีเท้าหลายเท้าดังมาทางนี้ มือยังคงหมุนรอกเพื่อดึงปลาขึ้นมาดูแต่เท้าก็ไวเขี่ยกระป๋องน้ำเข้าบังตรงร่างเพรียวหล่นลง เจ้าของฝีเท้าถึงตัวพอดี
“มีอะไรเหรอครับ”
ปากถามแต่มือยังหมุนรอกไม่หยุดและตัวปลาก็โผล่พ้นน้ำ สีขาวหมุนฝ่าความมืดสลัวเข้ามาเฉียดหน้าคนที่เพิ่งมาถึง พวกมันหลบแทบไม่ทัน
“ตกตั้งนาน เพิ่งได้ ตัวใหญ่ด้วยแฮะ”
คำถามที่เพิ่งถามไป ยังไม่ได้คำตอบ คนถามกลับมาสนใจตัวปลาลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
“เห็นคนวิ่งมาทางนี้มั้ยครับ”
“ไม่เห็นนะ ไปถามเพื่อนผมทางโน้นดูสิครับ เอ่อ.ใครหนีมาเหรอครับ”
“ผู้หญิ..เอ่อ.คนร้ายครับ กระชากกระเป๋า เฮ้ย. ไปทางโน้น ยังไงต้องเจอ”
หนึ่งในสามตอบและผละไปทันทีเมื่อสิ่งที่ต้องการไม่อยู่ที่นี่และมันทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่มีอะไรร้ายแรงอย่างกริยาของพวกมัน คนตกปลาจับตัวปลาปลดจากเหยื่อล่อลงกระป๋อง เสียงขลุกขลักดังครู่หนึ่งก็เงียบ
บุคคลปริศนาหนึ่งคนอยู่ด้านล่างสะพานปูน ยื่นออกจากฝั่งสำหรับคนแวะมานั่งรับลมชมวิว กลางคืน นักตกปลาทั้งสมัครเล่นและอาชีพ ใช้สถานที่นี้เป็นจุดนัดรวมกลุ่ม เมื่อครู่ใหญ่ มีคนนั่งตกอยู่สองสามคน เพิ่งแยกออกไปอีกด้านและเขานั่งอยู่เพียงลำพัง
บุคคลปริศนาอีก 3 คน เดินห่างคนตกปลาสองคนอีกด้านหนึ่งไปแล้วและวิ่งไกลออกไป เขาจึงเก็บคันเบ็ดเตรียมกลับบ้าน
“ออกมาได้แล้ว พวกนั้นไปแล้ว”
เสียงทุ้มดังแทรกเสียงคลื่นสาดกระทบฝั่ง ร่างเพรียวค่อย ๆ โผล่พ้นหลืบสะพานปูน โชคดีตรงจุดที่หล่นลงไปเป็นทราย หากเป็นน้ำคงลอยคออยู่ตรงนั้น
“มันไปกันแน่นะคะ” ถามอย่างไม่มั่นใจนักและไม่แน่ใจว่าคนที่เรียกหล่อนขึ้นมานั้น จะช่วยหล่อน
“ไม่แน่ก็อยู่ตรงนั้นแหละ ฉันจะกลับแล้ว”
“รอด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย”
เวลานี้ต้องเสี่ยง หากพวกมันย้อนกลับมาตรงนี้ หล่อนจะพบกับอะไรไม่อยากคิด อย่างน้อย ได้อยู่กับใครสักคนก็อุ่นใจและใครคนนั้นคือเขา คนตกปลาคนนี้นี่แหละ
“ฉันขึ้นไม่ได้ ช่วยหน่อยค่ะ” ไม่มีคำพูดจากปากคนตกปลา นอกจากมือยื่นลงมาคว้ามือของหล่อนทั้งสองข้างดึงขึ้นด้านบน
“ไม่เบาเลยนี่” พึมพำเมื่อปล่อยมือหล่อน ผู้หญิงร่างบางในความมืด หุ่นเพรียวในความสลัวไม่เบาอย่างที่คิด
“ขอบคุณค่ะที่ช่วยฉัน” แม้ไม่เห็นหน้าเขาชัดเพราะอยู่ในความสลัว แสงไฟจากหัวสะพานส่องไม่ถึงใบหน้าของคนกำลังก้มเก็บของ เตรียมกลับบ้าน อย่างที่เขาบอกหล่อน
“กระชากกระเป๋าใครมาล่ะ ไหน อยู่ไหน ฉันขอส่วนแบ่งด้วย ไม่งั้นฉันจะเรียกมันมาจับเธอ”
“เปล่าค่ะ ฉันไม่ได้ขโมยอะไรใคร..ฉันกำลังจะถูกเก็บ..” คำพูดดังเบามาก เมื่อประโยคสุดท้ายหลุดออกจากริมฝีปากแต่เขาได้ยินชัด คำว่าถูกเก็บ แทบกลืนหายไปในลำคอของหญิงสาว
“ตามมา”
เขาก้าวยาวและเร็ว หากหล่อนมัวลังเล อันตรายที่เพิ่งผ่านมาไม่ถึง 5 นาที อาจกลับมาอีกครั้งและคราวนี้ ใครจะช่วยปกป้องหล่อน ..ปกป้องอย่างนั้นหรือ หล่อนมีคนปกป้องแล้วสินะ เท้าวิ่งอีกครั้งแต่เป็นการวิ่งตามคนตกปลา
ห้องชุดในคอนโดมิเนียมราคาเกิน 4 ล้าน ไม่ใช่มีไว้พักผ่อนชั่วคราวได้เท่านั้นแต่สามารถเป็นบ้านพักอาศัยไปตลอดชีวิตของคนซื้อ ตึกสูง 10 ชั้น มีห้องตามจำนวนคนซื้อแค่นั้น ไม่มีไว้ให้เช่า ยกเว้นคนซื้อปล่อยให้ฝรั่งหรือแขกต่างบ้านต่างเมืองเช่าอยู่ขณะมาเที่ยวเมืองไทยซึ่งคนปล่อยให้เช่ามีบ้านเป็นของตัวเองอยู่แล้ว
สำหรับธัญยธรณ์ ที่นี่คือบ้านของเขา บ้านเดี่ยวราคาหลายล้านบาทเป็นของพ่อแม่ซึ่งพ่อกับแม่ไม่อยู่เมืองไทย บ้านหลังใหญ่ลุงกับป้าขอซื้อต่อโดยให้เขาเข้าไปอยู่ในฐานะเจ้าของบ้านได้เช่นเดิม เขาขอเรียนรู้งานและท่องเที่ยวอยู่ต่างประเทศต่อ หลังจากเรียนจบ ไม่มีใครรู้ว่าเขากลับเมืองไทยแล้ว นอกจากกิตติทัต เพื่อนรักคนเดียวของเขา
“เล่ามาให้หมดก่อนที่ฉันจะส่งตัวเธอให้ตำรวจ”
จากการแต่งตัวและกริยาเหลียวหลัง เหลียวข้างอย่างหวาดระแวงระคนกลัวพร้อมคำพูดบางคำของหญิงสาวหน้าตาเรียบ ๆ คนนี้ ทำให้ธัญยธรณ์อยากรู้เรื่องของหล่อนทุกเรื่อง กระทั่งการถูกตามล่าเมื่อไม่กี่นาทีนี้ด้วย
“พาฉันไปหาตำรวจก็ได้..แต่.อย่าเพิ่งเลย ถ้าตำรวจเป็นพวกเดียวกับเขา ฉันไม่รอดแน่ ยังไงฉันต้องรอด คุณเป็นคนดีรึเปล่า”
“ถามปัญญาอ่อน ใครจะบอกเธอว่าไม่ใช่คนดี ตกลงจะเล่ามั้ย ถ้าไม่เล่าก็ลงจากรถฉัน ฉันจะกลับบ้านนอน ง่วงจะตายอยู่แล้ว”
เครื่องยนต์ทำงานเมื่อเจ้าของรถสตาร์ทเครื่อง เพียงเข้าเกียร์รถเคลื่อนออกจากที่จอดทันที แสงไฟหน้ารถพุ่งตรงไปข้างหน้าและคนสามคนเดินผ่านแสงไฟ ช่วยเร่งให้หญิงสาวตอบคำถามของชายตกปลาเร็วกว่าที่คิด
“ฉันรู้ความลับของพวกเขา เขาสั่งคนเก็บฉัน ฉันจะเล่ารายละเอียดทั้งหมดแต่คุณต้องพาฉันหนีพวกนั้นก่อน”