ตีครั้งที่ 2
หลังจากให้กำลังใจตัวเองเสร็จ มุมปากของเซี่ยเหยียนก็ปรากฏลักยิ้มจางๆ “องค์รัชทายาทเองหรอกหรือ”
การเคลื่อนไหวสมบูรณ์แบบ บุคลิกสมบูรณ์แบบ คำพูดคำจาสมบูรณ์แบบ อืม สถานการณ์อยู่ในเกณฑ์ดี เซี่ยเหยียนค่อนข้างจะพอใจ
หนานเหอกลับปรายตามองเขาอย่างเย็นชา “เจ้าอยากจะให้ผู้อื่นเห็นสภาพดูไม่ได้ของเจ้าตอนถูกต่อยหรือ”
เซี่ยเหยียนบ่นอยู่ในใจ แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับไม่เปลี่ยนแปลง “องค์รัชทายาทชล้อเล่นแล้ว ทั้งแดนสวรรค์ต่างก็รู้ดีว่าองค์รัชทายาทนั้นปรีชาสามารถ จะไม่ทำร้ายใครโดยไร้เหตุผล ครั้งนี้ข้าไม่ได้ทำให้ท่านไม่พอใจ” ความหมายก็คือเจ้าต่อยข้าไม่ได้
แถมความแค้นที่โดนต่อยคราวที่แล้วเขายังไม่ได้ชำระเลย
“เปล่าเช่นนั้นหรือ” หนานเหอยิ้มออกมา พลางหักนิ้วเสียงดัง “กล้าเลือกองค์รัชทายาทเป็นผู้รับใช้ เกรงว่าเจ้าจะเป็นคนแรก”
เซี่ยเหยียนสะดุ้ง รีบอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาท จะทรงโทษกระหม่อมไม่ได้ กระหม่อมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ จะว่าไป เหตุใดพระองค์ถึงได้ไปอยู่ที่แดนมนุษย์เล่า” ถ้าเขารู้ว่าองค์รัชทายาทอยู่ที่แดนมนุษย์ละก็ เขาคงไม่ลงไปเลือกผู้รับใช้ตอนนี้หรอก
“ฝ่าด่านเคราะห์ไม่ได้หรือ”
“ได้ ได้แน่นอน” เซี่ยเหยียนรีบพูดขึ้นทันที ครุ่นคิดครู่หนึ่งก็พูดขึ้นอีก “องค์รัชทายาท ตอนนี้ท่านก็ได้บรรลุขั้นแล้ว สัญญาการเป็นผู้รับใช้ก็ถือว่าสิ้นสุด” ไปได้แล้ว เซี่ยเหยียนรีบไล่ เขาไม่อยากโดนต่อยนักหรอก
สีหน้าของหนานเหอบึ้งตึงกว่าเดิม “ใครว่าสิ้นสุด”
เซี่ยเหยียนมีลางสังหรณ์ไม่ดี “ทรงหมายความว่าอย่างไร”
สัญญาระหว่างผู้รับใช้และเทพผู้เป็นนายจะสิ้นสุดลงเองในตอนที่ผู้รับใช้บรรลุหรือเลื่อนขั้น ถ้าอยากจะคงพันธสัญญานั้นไว้ ก็ต้องทำสัญญากันใหม่
หนานเหอแค่นหัวเราะ “เป็นเพราะเจ้า ข้าฝ่าด่านเคราะห์ยังไม่เสร็จ ก็ถูกบังคับให้บรรลุขึ้นมา สัญญายังคงอยู่”
หรือก็คือองค์รัชทายาทยังคงเป็นผู้รับใช้ของเซี่ยเหยียนอยู่
“เจ้าว่าเจ้าควรโดนต่อยหรือไม่”
เซี่ยเหยียน “......”
เงียบไปสักพัก เซี่ยเหยียนจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง ดึงแขนเสื้อให้ตรง หันตัวด้านข้าง จากนั้นก็ทำสัญญาณมือเป็นการเชิญ “องค์รัชทายาท เชิญพ่ะย่ะค่ะ” กลีบดอกไม้บนหัวไหล่ถูกสะบัดร่วงลงมาอีกครั้ง แล้วลื่นไหลลงมาตามอาภรณ์นุ่มลื่นลงมาที่พื้น กลีบดอกไม้หมุนกลิ้งไปบนพื้นดูราวกับได้รับความไม่เป็นธรรม จากนั้นก็ปลิวกลับไปบนไหล่ของเซี่ยเหยียนอีกครั้ง
ทั้งสองเดินตามกันเข้าตำหนักเทพของเซี่ยเหยียน
จากนั้นเหล่าเทพเซียนที่ดูอยู่นานก็พากันมุงเข้ามา ที่แท้หลังจากที่พวกเขาทำทีแยกย้ายไปก็แอบกลับมาอีก แม้แต่อู๋เฟิงก็เช่นกัน
เฮ้อ ข่าวใหญ่! เทพแห่งการรักษาเลือกองค์รัชทายาทเป็นผู้รับใช้
ข่าวใหญ่! เทพแห่งการรักษาจะโดนต่อยอีกแล้ว
ตำหนักเทพของเซี่ยเหยียนไม่ใหญ่แต่ประณีตมาก มีกลิ่นอายความสง่างามเลอค่าเหมือนอาภรณ์ของเขา
เซี่ยเหยียนให้องค์รัชทายาทประทับก่อน จึงเลือกนั่งลงในตำแหน่งที่ไกลจากเขาสักหน่อย หลังเขาตรงแน่วแสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่กลัวองค์รัชทายาทแม้แต่น้อย จากนั้นก็เอ่ยขึ้น “องค์รัชทายาท เมื่อครู่กระหม่อมตรวจสอบมาแล้ว ผู้รับใช้ที่พลังวิญญาณของกระหม่อมหล่อเลี้ยงมีเพียงผู้เดียว”
เซี่ยเหยียนมีผู้รับใช้อยู่แล้วหนึ่งคน นั่นก็คือหลินอิ่ง ที่ติดตามเขามาเกือบสองปีแล้ว เขาพอสัมผัสได้ว่าหลินอิ่งใกล้จะบรรลุแล้ว ถึงได้ลงไปเลือกผู้รับใช้คนใหม่ที่แดนมนุษย์ นึกไม่ถึงว่าจะไปเลือกถูกองค์รัชทายาทที่ลงไปผ่านด่านเคราะห์ยังแดนมนุษย์เข้า ช่างเป็น...ชะตาความซวยที่ยากจะพรรณนา
หนานเหอเลิกคิ้ว “เจ้ากำลังจะบอกว่าข้าโกหกเช่นนั้นหรือ”
“แน่นอนว่าไม่ใช่ เพียงแต่สงสัยก็เท่านั้น” เซี่ยเหยียนพูดด้วยความนิ่งเฉย แต่ในใจกลับคิด โกหกเช่นนั้นหรือ ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
หนานเหอขมวดคิ้ว “ข้าเองก็ไม่รู้ บนตัวข้ามีสัญญาผู้รับใช้ของเจ้าอยู่จริงๆ และยังได้รับบัญชาสวรรค์ว่าต้องติดตามเจ้าอีกด้วย”
ลิขิตสวรรค์เป็นกฎสูงสุดของผู้บำเพ็ญเซียน แล้วยังเป็นวัฏจักรเวียนว่ายตายเกิด และกฎแห่งกรรม
เซี่ยเหยียน “......” ให้ตายสิ ข้าก็ไม่ได้ยั่วยุบัญชาสวรรค์เสียหน่อย ทำไมจะต้องกัดไม่ปล่อยด้วย เซี่ยเหยียนอกสั่นขวัญแขวนอยู่ในใจ
แต่ภายนอกกลับยังดูสงบนิ่ง แถมในมือยังถือขนมอยู่ด้วยซ้ำ “ฝ่าบาท ครั้งนี้เป็นการเข้าใจผิดจริงๆ เรื่องสัญญาผู้รับใช้อะไรนั่นก็อย่าใส่ใจ ต่างคนต่างทำสิ่งที่ตัวเองต้องทำ อย่างไรก็ไม่มีผลอะไร” ให้องค์รัชทายาทมาเป็นผู้รับใช้จริงๆ เนี่ยนะ ตลกสิ้นดี เห็นเง็กเซียนกับหวังหมู่เหนียงเหนียงเป็นหัวหลักหัวตอหรืออย่างไร อีกอย่างตัวองค์รัชทายาทเองก็ไม่ใช่เจ้านายที่จะล่วงเกินได้ เซี่ยเหยียนไม่ได้อยากจะโดนต่อยทุกวันหรอกนะ
มุมปากของหนานเหอยกขึ้น “เช่นนั้นหรือ ตอนนี้ข้าก็อยากต่อยเจ้า”
ในใจเซี่ยเหยียนสะดุ้ง แต่ภายนอกยังคงยิ้มอย่างอบอุ่น “ฝ่าบาท อย่าทรงล้อเล่นสิพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ได้ล้อเล่น” พูดจบหนานเหอก็มาโผล่อยู่ตรงหน้าเซี่ยเหยียน
เซี่ยเหยียนเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว รองเท้าสีดำปักเลื่อมสีทองเข้มกระทืบใส่พื้น คนและเก้าอี้ถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว แต่หนานเหอกลับไวกว่า เขาเอื้อมมือคว้าแขนของเซี่ยเหยียนไว้ได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะต่อยลงไปเต็มแรงหนึ่งที
พอได้ยินความเคลื่อนไหวภายในตำหนักเทพ เหล่าเซียนที่มามุงดูต่างพาวิพากษ์วิจารณ์ เผือกวันนี้ทั้งสนุกทั้งอร่อยมากจริงๆ และจากไปด้วยความพอใจ
เซี่ยเหยียนกุมก้นล้ำค่าของตัวเองก่อนบ่นออกมา “ทำไมต้องต่อยตรงนี้ทุกครั้งด้วย เปลี่ยนที่อื่นบ้างไม่ได้หรือ”
“สัมผัสดี” องค์รัชทายาทนั่งด้วยท่าทีน่าเกรงขาม หยิบขนมชิ้นหนึ่งขึ้นมา และค่อยๆ ละเมียดลิ้มรสอย่างอารมณ์ดี
เซี่ยเหยียน “......”
“อีกอย่างท่านก็ไม่ได้เป็นผู้รับใช้ของท่านจริงๆ เสียหน่อย เหตุใดยังต้องต่อยข้าด้วย” เซี่ยเหยียนถาม
“แต่ในความเป็นจริง ข้าก็คือผู้รับใช้ของเจ้า”
ก็ได้ ถือว่าความแค้นเล็กๆ นี้ได้ชำระเสียที