2 แรกพบ
ชายร่างผอมย้ำพร้อมพุ่งตัวเข้าไปหวังจะทำร้ายหญิงสาวด้วยความโกรธจัด ที่เธอเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แพรไหมใช้พลังที่มีวิ่งจนหมดแรงตอนนี้ทำได้เพียงยกกระเป๋าขึ้นมาบังหน้าเอาตัวเองเอาไว้ หมายจะให้กระเป๋าใบนั้นช่วยขวางกั้นสิ่งที่คนร้ายโจมตีเข้ามา เพราะเวลานี้เธอไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะหนีอีกต่อไปแล้ว
“หยุดนะ! ถ้าทำร้ายเธอฉันจะโทรเรียกตำรวจเดี๋ยวนี้ ไปซะไปตอนนี้ แล้วฉันจะไม่เอาเรื่อง”
เสียงเข้มของชายเจ้าของกระเป๋าเอ่ยขึ้นเมื่อวิ่งมาถึงเห็นคนร้ายกำลังจะเดินตรงเข้ามาทำร้ายหญิงสาว ชายคนเดิมได้ยินเช่นนั้นจึงหยุดการกระทำนั้นลงทันที ก่อนรีบวิ่งหนีไป เพราะตอนนี้มีกลุ่มคนที่เดินตามเสียงตะโกนของหญิงสาวมา เริ่มมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ
“คุณผู้หญิงคุณโอเคใช่ไหม” พลเมืองดีที่พึ่งมาถึง เอ่ยถามหญิงสาวที่ทรุดตัวลงนั่งหอบเหนื่อยอยู่ที่พื้น
“ฉันไม่เป็นอะไรคนร้ายหนีไปแล้ว ขอบคุณที่คุณมา” เธอกล่าวบอกพลเมืองดี ที่เดินเข้ามาช่วยอย่างรู้สึกขอบคุณ
“ถ้าอย่างนั้นก็ดี” พลเมืองดีบอก เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่เป็นอะไรแล้วจึงขอตัวเดินจากไป
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มเจ้าของกระเป๋าถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ค่ะฉันไม่เป็นอะไร”
หญิงสาวตอบขณะที่มือยังกำและกอดกระเป๋าของเขาเอาไว้แน่น ราวกับกลัวว่ามันจะหลุดมือหายไปอย่างนั้นแหละ ส่วนคนอื่นที่เดินตามเสียงมาเห็นว่าหญิงสาวไม่เป็นอะไร ก็ต่างพากันแยกย้ายไป เหลือไว้เพียงสองหนุ่มสาวที่นั่งพักจากอาการเหนื่อยหอบไม่ต่างกัน
“เห็นตัวเล็กๆ คุณวิ่งอึดมากเลยนะครับรู้ตัวมั้ย ยังไงผมต้องขอบคุณ คุณมากที่คุณช่วยเอากระเป๋ากลับมาให้”
เขาถามคนที่ยังกอดกระเป๋าของเขาไว้กับตัวแน่น ในขณะที่นั่งพักเหนื่อยอยู่บนพื้นฟุตบาทในสวนสาธารณะด้วยอาการหมดแรงอย่างเห็นได้ชัด โดยทั้งสองพูดคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ
“วิ่งอึดอะไรเล่า ขาของฉันตอนนี้เนี่ย มันสั่นไปหมดแล้ว”
ใบหน้าสวยฝืนยิ้มให้ชายตรงหน้า พร้อมกับบ่นเป็นภาษาไทยคิดว่าเขาคงฟังไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูด ก่อนจะยื่นกระเป๋าคืนให้กับชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทางที่หมดแรง ปากและใบหน้าเธอขาวซีดแทบไม่เห็นเลือดฝาดจนเขาเห็นชัดเจน
“นี่กระเป๋าของคุณ”
เธอบอกเป็นภาษาอังกฤษขณะยื่นกระเป๋าส่งคืนเจ้าของ เขารีบรับมันมาเปิดดูของด้านใน เห็นว่าของสำคัญยังคงอยู่ดี จึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“ขอบคุณมากนะครับ มันสำคัญกับผมมาก” เขาขอบคุณเธอเป็นภาษาอังกฤษกลับเช่นกัน
“ด้วยความยินดีค่ะ มันคือสิ่งที่ฉันควรทำ” หญิงสาวตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
“ว่าแต่คุณไม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหนใช่มั้ย”
เมื่อนึกขึ้นมาได้จึงรีบถามหญิงสาวตรงหน้าในทันที ระหว่างที่เขาวิ่งตามเธอมาไม่ทัน คนร้ายได้ทำอะไรกับเธอก่อนที่เขาจะมาถึงหรือไม่
“ไม่ มันยังไม่ทันได้ทำอะไรฉัน แต่ถ้าคุณตามมาช้ากว่านี้ก็ไม่แน่”
“อย่างนั้นก็ดีครับ งั้นพวกเราไปจากตรงนี้กันก่อนดีกว่า เผื่อว่ามันจะไปตามพวกแล้วย้อนกลับมา”
“คุณไปก่อนเลยฉันเดินไม่ไหวแล้ว ฉันใช้พลังงานทั้งหมดไปกับการวิ่ง ตอนนี้ฉันไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นยืน”
“ถ้างั้นผมจะนั่งรอเป็นเพื่อน จนกว่าคุณจะหายเหนื่อยแล้วเราไปจากที่นี่พร้อมกัน”
“คุณไปก่อนเถอะฉันขอนั่งพักแป๊บเดียว เดี๋ยวก็จะตามไปแล้ว”
หญิงสาวตอบโดยไม่หันไปมองหน้าเขาด้วยซ้ำ เธอยังคงนั่งก้มหน้าปล่อยแขนและขาลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ด้วยความเหนื่อยล้า จนไม่อยากจะเอาอะไรแล้ว หากเป็นไปได้เธออยากจะทิ้งตัวลงนอนมันซะตรงนี้เลย
จากคำตอบของเธอทำชายหนุ่มยิ้มเจื่อนเธออุตส่าห์ช่วยเขาไว้ แล้วจะให้เขาทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร
“จะทำอย่างนั้นได้ยังไงละครับ คุณช่วยผมเอาไว้ จะให้ผมทิ้งคุณไว้ที่นี่คนเดียวได้อย่างไร ถ้าชายคนนั้นมันกลับมาคุณก็จะตกอยู่ในอันตรายน่ะสิ”
เขาบอกพร้อมกับเดินไปหยิบรองเท้ามาสวมใส่ให้เธออย่างไม่รังเกียจ
-ฉันจะตายเพราะนายเอาแต่ถามเซ้าซี้ฉันอยู่นี่แหละ ไม่เข้าใจหรือไงว่าคนมันเหนื่อย คนมันหมดแรงหายใจไม่ทันอะ ถามอยู่นั่น -