02 จุดเริ่มต้น (02)
02 จุดเริ่มต้น (02)
@บริษัทจางเหว่ยกรุ๊ป
“นายครับ มีคนมาขอพบ”
เสียงลูกน้องคนสนิทดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาละสายตาจากกองเอกสาร คิ้วดำดกพาดยาวดั่งคันศรขมวดเข้าหากัน ใบหน้าหล่อสลักเรียวยาวได้รูป จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากหยักสุดเซ็กซี่ ผิวของเขาขาวเนียนละเอียดผิดแผกชายไทยเพราะไปอยู่ต่างประเทศมานาน
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาออกแนวดุดันค่อยๆเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารที่นั่งเซ็นมาทั้งวัน ก่อนจะเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบน่าเกรงขาม
“ใคร”
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ เธอบอกว่ามีเรื่องด่วนอย่างจะคุยกับนาย”
“ถ้าไม่ใช่คนสำคัญของฉันก็ไม่ต้องเรียกมา” เขาตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจและกำลังจะก้มเซ็นเอกสารต่อ
“แต่เธอบอกว่าถ้าวันนี้ไม่ได้คุยกับนาย เธอจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”
“กล้าดียังไงมาทำตัวแบบนี้ที่บริษัทของฉัน”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอไปพกเอาความกล้ามาจากไหน พวกมนุษย์ป้าก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ”
“มนุษย์ป้างั้นหรอ?” เขาเผยอริมฝีปากทวนคำถามเบาๆ
“ครับ น่าจะเป็นพวกมนุษย์ป้ามีปัญหาทางจิต ตอนนี้เธอโวยวายใหญ่เลยครับ ไล่เท่าไหร่ก็ไม่ไป”
“...” เขานั่งนิ่ง ใช้ความคิด
“เอาไงดีครับนาย ถ้าพ่อเลี้ยงจางเหว่ยมาเห็นนายต้องแย่แน่ๆ”
“ไปเรียกขึ้นมา”
“นะ...นายจะเรียกมาพบจริงๆใช่ไหมครับ ทำไมไม่ให้คนของไล่กลับไป”
“ไปพาตัวขึ้นมา ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่ามันเป็นใคร กล้าดียังไงถึงมาทำกิริยาต่ำๆที่บริษัทของฉัน”
“ครับนาย เดี๋ยวผมจะไปพาเธอขึ้นมาตอนนี้แหละ”
ลูกน้องคนสนิทรับคำแล้วรีบไปพาตัวมนุษย์ป้าคนนั้นขึ้นมา
ชายหนุ่มโยนปากกาทิ้งลงบนโต๊ะด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะเอนกายพิงพนักเก้าอี้รอ
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงเคาะประตูอีกรอบก่อนที่ลูกน้องจะนำร่างของหญิงคนนั้นเข้ามา เขานั่งไขว้ห้าง กอดอกมองด้วยแววตาเยือกเย็น
“ผมพาตัวเธอมาแล้วครับ”
“อืม ออกไปได้” เขาหันไปสั่งลูกน้อง ก่อนจะตวัดดวงตาดุจัดมองไปที่ร่างของผู้หญิงคนนั้น หล่อนสะดุ้งเฮือก แล้วยกมือสวัสดี
“สะ...สวัสดีจ้ะเหนือ อะ...เอ่อ...จำน้าได้หรือเปล่า”
“...” ดวงตาคมเข้มจ้องมองหน้าของหล่อนอย่างพิจารณา ก่อนจะเอื้อยเอ่ยออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ เหมือนไม่ได้อยากเสวนาด้วย “ไม่รู้จัก”
“ทำไมจะไม่รู้จัก นี่น้าแก้วไง เหนือจำน้าแก้วไม่ได้หรอ”
“บอกว่าไม่รู้จักก็คือไม่รู้จักไง!” เสียงของเขาเริ่มดังขึ้น ทำให้แก้วกัลยาสะดุ้งโกยงตกใจด้วยความตกใจ
แต่หล่อนจะไม่มีวันหันหลังกลับเด็ดขาด เพราะตอนนี้มีแค่เหนือเมฆเท่านั้นที่จะช่วยหล่อนได้
“นะ...เหนือเคยอยู่บ้านข้างๆน้าไง จำไม่ได้จริงๆหรอ”
“…” เขานิ่งไปสักพัก พร้อมกับพ่นลมหายใจออกทางจมูกเหมือนกำลังหงุดหงิด นิ้วเรียวยาวเคาะขอบโต๊ะเป็นจังหวะ “....ผมไม่รู้จักคุณ”
“เป็นไปไม่ได้ เมื่อก่อนเหนือยังไปทานข้าวที่บ้านน้าอยู่เลย ทำไมจะจำน้าไม่ได้” แก้วกัลยาไม่รอช้า เพราะดูท่าเหนือเมฆคงแกล้งทำเป็นว่าจำตนไม่ได้ หล่อนค่อยๆย่อเข่าลง คลานเข้าไปหาเหนือเมฆ “เรื่องนั้นช่างมันเถอะ แต่น้าอยากมาขอร้องให้เหนือช่วย”
“ทำไมผมต้องช่วย”
“คืองี้จ้ะ ตอนนี้น้าติดหนี้เสี่ยอ้วนอยู่ พอดีสามีของน้าต้องผ่าตัดกะทันหัน น้าเลยเอาบ้าน เอาที่ดินไปจำนอง แต่ก็ไม่พอ น้าก็เลยตัดสินใจกู้หนี้นอกระบบ ตอนนี้เจ้าหนี้มันกำลังตามตัวน้าอยู่ ถ้าน้าไม่รีบเอาเงินไปคืนมันภายในสามวัน มันจะมายึดบ้านยึดของที่น้า ได้โปรด....ช่วยน้าด้วย” แก้วกัลยายกมือไหว้อ้อนวอน ร้องขอความเห็นใจจากชายหนุ่มรุ่นลูก แต่เขาก็ยังทำท่าทีเมินเฉยเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร แถมไม่ปรายตามองสักนิด
“ทำไมผมต้องช่วย นั่นมันเรื่องของพวกคุณ”
“ก็ถ้าเหนือไม่ช่วย น้ากับลูกสาวอาจจะไม่มีที่อยู่เลยก็ได้” แก้วกัลยางัดไม้เด็ด หยิบรูปของทานตะวันออกมาแล้วยื่นให้เหนือเมฆ ชายหนุ่มปรายตามองครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนหน้าหนีเหมือนไม่ได้สนใจ “จำตะวันได้ไหม น้องเคยไปหาเหนือที่บ้านบ่อยๆ”
“ผมไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้”
“น้าไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเหนือไม่รู้จักตะวัน เหนือหลอกตัวเองไม่ได้หรอก”
“คุณมีธุระกับผมแค่นี้ใช่ไหม” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเตรียมทำท่าจะเดินออกไป แต่แก้วกัลยาก็ไม่วายคลานเข้ามากอดรั้งขาของเขาเอาไว้
“เหนืออย่าเพิ่งไป ช่วยน้าก่อน น้าไม่มีที่ไปจริงๆ”
“ปล่อย!”
“น้าขอร้อง ช่วยพวกเราสองแม่ลูกเถอะนะ แล้วหลังจากนั้นน้าจะไม่มายุ่งวุ่นวายกับเหนืออีกเลย”
“ผมบอกให้ปล่อย!”
เขาสะบัดขาทิ้งจนหน้าของแก้วกัลยาเกือบกระแทกพื้น
“ผมไม่รู้จักพวกคุณ อย่ามาหาผมอีกถ้าไม่อยากเจ็บตัว!”
“น้าไม่เชื่อว่าเหนือจำพวกเราไม่ได้! เหนือกำลังหลอกตัวเอง”
“ผมไม่ได้หลอกตัวเอง แต่ผมไม่รู้จักพวกคุณ” เหนือเมฆปรายตามองรูปของหญิงสาวรายหนึ่งที่หล่นอยู่บนพื้น เขาหยิบมันขึ้นมาแล้วปาใส่หน้าแก้วกัลยา “และผมก็ไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน ถ้าคุณยังตามมารังควานผมอีกล่ะก็....เราได้เห็นดีกันแน่!”
“เดี๋ยวก่อนสิเหนือ….เหนือ! มาคุยกับน้าก่อน!!” แก้วกัลยากำหมัดแน่นอย่างโกรธจัด
ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าเหนือเมฆจะจำหล่อนกับทานตะวันไม่ได้ เมื่อก่อนทานตะวันชอบไปหาเหนือเมฆที่บ้านบ่อยๆ ถึงขั้นแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันก็เคยทำมาแล้ว
ในเมื่อมาคนเดียวแล้วเหนือเมฆจำไม่ได้ งั้นหล่อนคงต้องไปเอาตัวทานตะวันมาด้วย ทีนี้แหละเมฆยังจะปากแข็งอีกหรือเปล่าว่าจำไม่ได้
“ฉันไม่มีทางเชื่อเด็ดขาดว่าแกจำพวกเราไม่ได้....ไอ้เหนือเมฆ!”