3
Chapter 3
หลังจากพูดคุยกับคุณตาเรียบร้อยแล้ว หาญก็ไปนั่งเขียนจดหมายถึงคู่หมั้น ชายหนุ่มวัยยี่สิบหยิบกระดาษกับปากกาขึ้นมาจากลิ้นชักของโต๊ะไม้ในห้องนอน โต๊ะตัวนี้ทำจากไม้เนื้อดี เป็นของเก่าแก่ที่คุณตายกให้เพราะมารดาบอกว่าเขาชอบเขียนหนังสือและอ่านหนังสือ ที่อยู่ของสุทธิดานั้นเขาจำมันได้ดี อยากโทร.ไปคุยแต่ต้องเข้าเมืองไปไกล ที่นี่มีไปรษณีย์มารับจดหมาย จะสะดวกมากกว่าการใช้โทรศัพท์ เพราะสัญญาณโทรศัพท์ไม่มี เขาเคยโทร.ไปแต่สุทธิดาไม่อยู่ จึงไม่ได้คุยกัน เลยคิดว่าการเขียนจดหมายมันดีกว่า
หาญเขียนบรรยายอะไรหลายๆ อย่างให้คนที่รักฟัง และหาญเองก็คิดว่าการเขียนจดหมายเป็นการทดสอบอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าสุทธิดายังมั่นคงต่อเขา จะต้องตอบจดหมายของเขาทุกฉบับ เขาคาดหวังว่าสุทธิดาจะเป็นภรรยาที่ดี เป็นผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดในชีวิตนอกจากมารดา เขาไม่มีวันทำให้ผู้หญิงที่รักต้องผิดหวังอย่างแน่นอน เป้าหมายที่แน่วแน่ของชายหนุ่มมันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความมุ่งมั่น
ถึงน้องสองที่รักของพี่
พี่มาถึงหนองบัวไผ่เรียบร้อยแล้ว ที่นี่อุดมสมบูรณ์มาก แต่ค่อนข้างอยู่ห่างไกลความเจริญ การเขียนจดหมายน่าจะเป็นทางออกเดียวที่ทำให้เราได้ติดต่อกัน แถมยังมีสิ่งแทนใจเอาไว้ดูต่างหน้ายามคิดถึง เวลาที่พี่ไม่สามารถออกไปโทรศัพท์หาสองได้ จะได้เอาจดหมายของเราขึ้นมาอ่านให้หายคิดถึง เพราะสัญญาณโทรศัพท์ที่นี่ย่ำแย่มาก อีกทั้งยังไกลเป็นร้อยกิโลกว่าจะเข้าเมืองไปโทรศัพท์ได้ คุณตาของพี่ใจดีมาก ท่านยกที่ดินให้พี่ทำกิน พี่จะพลิกฟื้นที่ดินผืนนี้ให้เจริญรุ่งเรือง จะทำงานให้หนักเพื่อสองจะได้สุขสบายไม่ต้องอายใครในวันข้างหน้า อยากเขียนอะไรอีกมากมาย แต่พี่ต้องไปทำงานแล้วครับ น้องสองตอบจดหมายพี่ด้วยนะครับ พี่จะรอนะคนดี เอาไว้พี่จะเขียนไปเล่าเรื่องที่นี่ไปให้ฟังอีก
พี่หาญ
“จดหมายจากพี่หาญจ้ะสอง” หนึ่งธิดายื่นจดหมายให้น้องสาวต่างมารดา ในขณะที่อีกฝ่ายมองเมิน ทำหน้าเมื่อยและรำคาญอย่างชัดเจน
“แล้วไง” สุทธิดาเลิกคิ้วขึ้นมอง ท่าทีเบื่อหน่าย
“ถามออกมาได้ว่าแล้วไง พี่หาญเขียนจดหมายมาหาเธอนะสอง”
“เขียนมาหาฉัน แต่ฉันไม่อยากอ่าน พี่จะทำไมเหรอ จะตบฉันหรือไง” คนถามเลิกคิ้วขึ้นทำท่ายียวนกวนประสาท
“เธอนี่มัน!” หนึ่งธิดาไม่คิดเลยว่าน้องสาวจะเป็นคนแบบนี้ไปได้
“ชอบพี่หาญไม่ใช่เหรอ อยากอ่านจดหมายของเขาก็อ่านไปสิ ฉันทำทานให้ แต่อ่านแล้วทำใจหน่อยนะ เขาเขียนถึงฉัน เขารักฉัน ไม่ใช่พี่ พี่ก็คงเป็นได้แค่อะไรดีนะ พวกที่ชอบแอบมองคนที่เขาไม่รักไม่สนใจตัวเอง พวกมีปมด้อยในชีวิต ไม่มีใครเอา” สุทธิดาเหยียดปาก นั่งตะไบเล็บไปมาอย่างไม่ทุกข์ร้อน เหลือบสายตาขึ้นมองอย่างดูถูกดูแคลน
“สอง!”
“นั่นแกขึ้นเสียงกับลูกสาวฉันรึนังหนึ่ง” ปานดาวตรงเข้ามาผลักลูกเลี้ยงออกห่างจากลูกสาวด้วยสีหน้าเกรี้ยวกราด
“มีอะไรกันลูก” นางหันไปถามลูกสาวสุดที่รัก กอดเอาไว้อย่างปกป้อง ตวัดสายตาไปมองลูกเลี้ยงอย่างเกลียดชัง หนึ่งธิดาเม้มปากเล็กน้อย เธอยังเด็กนัก ถึงจะไม่ชอบปานดาวแค่ไหน แต่ยังไม่มีปัญญาจะไปสู้รบตบมือกับอีกฝ่าย
“พี่หนึ่งน่ะสิคะคุณแม่ จะให้สองอ่านจดหมายพี่หาญท่าเดียว คนอะไรก็ไม่รู้ตื๊อเสียจริง ไปอยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนโทรศัพท์ก็ใช้ไม่ได้ ต้องเขียนจดหมายแบบนี้ โบร๊าณโบราณจริงๆ แค่คิดก็ขนลุกแล้วค่ะคุณแม่”
สุทธิดาทำท่าขนลุกขนพองขยะแขยงความยากจนของคู่หมั้นหนุ่มในยามนี้หนักหนา วันนั้นถ้าเธอบอกมารดาไปว่าถอนหมั้นกับหาญก็คงดี ต้องมามีสัมพันธ์กันอยู่แบบนี้เหมือนมีบ่วงผูกคอ ต้องรักษาคำมั่นสัญญากับอีกฝ่ายเอาไว้
แม้มารดาจะบอกว่าเผื่อหาญรวยขึ้นมาในอนาคตจะได้เกาะเขาได้แต่เธอคิดว่าไม่มีทางเสียหรอก หาญไม่เคยลำบากมาก่อน เกิดมาร่ำรวยคาบช้อนเงินช้อนทองออกมาจากท้องแม่ แล้วให้ไปทำไร่ไถนา แค่คิดก็เหนื่อยแทนดีไม่ดีท้อตั้งแต่ยังไม่ได้ทำเสียด้วยซ้ำ
“ลูกฉันไม่ตอบจดหมายและไม่อ่านด้วย เดี๋ยวมันก็เลิกส่งมาเองนั่นแหละ แกไสหัวไปเลยนะนังหนึ่ง จะไปไหนก็ไป รำคาญจริงเชียว”
ท่าทีรำคาญของมารดาเลี้ยงและคำไล่ส่งทำให้หนึ่งธิดาเดินหนีออกมา ไม่เช่นนั้นอาจจะโดนสองแม่ลูกรังแกเอาได้ เธอมองจดหมายของหาญอย่างชั่งใจ รู้สึกสงสารเขาจับใจ
จากที่เธออ่านจดหมายของเขา หาญต้องการกำลังใจในการที่จะดำเนินชีวิตครั้งนี้เป็นที่สุด ถ้าเขาไม่ได้รับจดหมายก็คงจะท้อแท้สิ้นหวัง หาญคงรอคอยจดหมายจากคู่หมั้นของตนแบบใจจดใจจ่อ
หนึ่งธิดากลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกฝืดเคืองสุทธิดาพูดดีต่อหน้า แต่ลับหลังกลับทำอีกอย่าง
น้องสาวของเธอแสบสันต์ พูดจาหวานหูจ๊ะจ๋าแต่เนื้อแท้นั้นร้ายกาจ หาญจะรู้ไหมว่าคนบางคนหน้าไหว้หลังหลอกขนาดไหน
ถึงพี่หาญที่รัก
ตอนนี้น้องสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง ห่วงแต่พี่หาญไปอยู่ห่างไกลในป่าในเขาแบบนั้นจะลำบากสักแค่ไหนกัน น้องขอเป็นกำลังใจให้พี่หาญประสบความสำเร็จในชีวิตทุกๆ ด้านนะคะ ขอให้พี่ฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปได้ บุกเบิกไร่ของตัวเองได้เป็นผลสำเร็จ น้องเชื่อเสมอว่าพี่หาญจะต้องทำได้อย่างแน่นอนค่ะ ไม่ต้องกลัวเรื่องสัญญาณโทรศัพท์นะคะ เพราะน้องจะตอบจดหมายของพี่ทุกฉบับ น้องขอสัญญา
รักพี่หาญเสมอ
หนึ่งธิดาแทนตัวเองว่าน้องแทนที่จะแทนตัวเองว่าสอง เพราะเธอทำใจไม่ได้ที่ต้องแอบอ้างชื่อคนอื่น แค่แอบตอบจดหมายของน้องสาวก็คิดว่าตัวเองแย่มากพอแล้ว แต่ถ้าไม่ตอบเธอก็สงสารหาญ เขาอาจจะท้อถอยคิดว่าคู่หมั้นคู่หมายของตัวเองรังเกียจ และคำลงท้ายเธอก็เลือกที่จะลงท้ายเช่นนี้ เพราะเธอรักหาญเสมอไม่เคยแปรเปลี่ยน แม้ว่าใจของเขาจะไปรักคนอื่นแล้วก็ตาม
หาญได้อ่านจดหมายของคู่หมั้นสาวแล้วมีกำลังใจในการใช้ชีวิตมากขึ้น เขาเป็นคนแสวงหาความรู้และชอบอ่านหนังสือ เลยลองผิดลองถูก วาดแปลนขึ้นมาจากพื้นที่นับพันไร่ หาข้อมูลต่างๆ มากมายว่าจะทำการเกษตรแบบไหนดี ที่จะทำให้เขามีรายได้ตลอดปีและยั่งยืน
ภูผาเป็นเด็กหนุ่มวัยไล่เลี่ยกับหาญ ไม่ได้เรียนหนังสือ แต่เป็นคนขยัน อีกฝ่ายเข้ากับหาญได้ดี เรียกว่าตามติดเป็นลูกไล่ในเวลาไม่นาน ภูผาชื่นชมหาญเป็นอันมากเพราะเป็นคนที่มีแนวคิดทันสมัย หัวก้าวหน้า แถมยังมีความรู้รอบด้านไม่ถือตัวและเป็นกันเอง
คุณตาเป็นคนแก่ที่สุขภาพแข็งแรงเพราะอยู่ในที่ที่อากาศดี ชอบบริโภคผักผลไม้ปลอดสารพิษและปลาเป็นอาหาร ท่านออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และเป็นคนจิตใจผ่องใส
“ค่อยๆ ทำไปนะหาญ ตายกที่ดินผืนนี้ให้หาญแล้ว เชื่อมั่นว่าหาญจะต้องทำมันได้ดี ตาแก่แล้ว ทำไม่ไหวแล้วละ หาญเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง คงมีแนวคิดก้าวไกลกว่าตา การทำเกษตรน่ะ เราได้อยู่กับธรรมชาติ อาหารน่ะ คนต้องบริโภคอยู่ตลอด มันมีจุดขายตรงนี้แหละ” คุณตานั้นถึงจะเป็นคนชนบท แต่ก็พอมีความรู้อยู่บ้าง หาญชอบคุยกับท่านเพราะหลายอย่างท่านก็แนะนำมาอย่างดี ทำให้เขาได้ไอเดียใหม่ๆ มากมาย
ภูผามีเพื่อนวัยไล่เลี่ยกันที่ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่มีงานทำ เลยชวนกันมาช่วยหาญบุกเบิกไร่ เด็กหนุ่มพวกนี้ใช้แรงงานเก่ง คุณตามีเงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง จึงให้หลานไปลงทุน ท่านเป็นคนไม่หวงสมบัติ เพราะชรามากแล้ว กิจวัตรประจำวันคือการนั่งสมาธิ ไปทำบุญที่วัดป่า และออกกำลังกายเบาๆ ตามประสาคนสูงอายุ