อย่าจากผมไป
หลังจากที่พรลภัสกลับไปแล้ว มาร์คัสก็กดโทรศัพท์ออกไปหาคนรักของเขาทันที
"ว่าไงคะพี่มาร์ค"
"ทำอะไรอยู่เหรอ"
"ฉันพึ่งคุยกับคุณแม่ของพี่ไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ หากคุณแม่ไม่โทรมาบอกฉัน พี่ก็จะไม่ยอมบอกเรื่องนี้กับฉันเหมือนกันใช่มั้ยคะ" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่งอน
"พี่ไม่ได้คิดแบบนั้น เพียงแต่เรื่องมันยังไม่เกิดขึ้นเท่านั้นเอง แล้วเธอคิดว่ายังไงล่ะ"
"ก็เอาตามที่คุณแม่ต้องการเถอะค่ะ ท่านอยากอุ้มหลานเต็มทีแล้ว ส่วนฉันก็ยังไม่อยากมีลูก ฉันคิดว่าอยากจะมีลูกตอนอายุ 30 ปี ดังนั้นเวลา 5 ปีที่เหลือนี้ ให้ฉันได้ใช้มันให้เต็มที่ก่อนนะคะ"
"เธอไม่โกรธพี่ใช่มั้ย"
"ไม่ค่ะ ดีเสียอีก หากพี่มีลูกแล้ว คุณแม่ก็จะไม่มาตอแยพี่ให้เร่งแต่งงานกับฉันและรีบมีลูกอีก เพียงแต่พี่อย่าไปตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นก็แล้วกัน"
"พี่รักเธอ จะไปตกหลุมรักคนอื่นอีกได้ไง"
"ค่ะ ฉันเชื่อพี่ ดังนั้นพี่ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะโกรธ ขอเพียงทำให้แม่ของพี่มีความสุขก็พอแล้วค่ะ ถึงแม้เด็กจะไม่ใช่ลูกที่ฉันต้องอุ้มท้องเอง แต่ฉันจะรักเขาให้เหมือนกับลูกของฉันเองแน่นอนค่ะ"
"ขอบใจนะครับ งั้นพี่ทำงานก่อนนะ"
"ค่ะ เอาไว้ช่วงไหนที่พี่ไม่มีงานก็มาเที่ยวหาฉันบ้างนะคะ"
"ครับ"
เฮเลน่าเป็นผู้หญิงที่ชอบอิสระ เธอไม่ชอบให้ใครมาบงการ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก เธอกับมาร์คัสรักกันและเติบโตมาด้วยกัน ดังนั้นความรักของทั้งสองคนจึงเกิดขึ้นอย่างที่ไม่รู้ตัว
เฮเลน่าคอยตามติดชายหนุ่มไม่ห่าง ถึงแม้อายุจะห่างกัน 5 ปี แต่เวลาไปที่ไหนก็จะไปด้วยกันตลอด เรียนที่เดียวกัน แถมยังนั่งรถไปโรงเรียนด้วยกันอีก วันไหนที่ไปเที่ยวเธอก็จะไปกับเขาด้วย จนแทบจะเป็นคนในครอบครัวแล้วด้วยซ้ำ จนช่อผกาต้องยกห้องรับแขกให้เป็นห้องของเธอไปเลย
หลังจากที่มาร์คัสเรียนจบก่อนเธอ แล้วเขาต้องไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ หญิงสาวก็ขอย้ายไปเรียนตามที่ต่างประเทศด้วยเหมือนกัน จนวันหนึ่งที่มาร์คัสเมาและเกิดความสัมพันธ์กับเธอ หลังจากนั้นทั้งคู่จึงตกลงคบหากัน
เฮเลน่าเป็นลูกสาวของเพื่อนรักช่อผกาเอง ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเฮเลน่ากับมาร์คัสจึงสนิทกันมากจนเกิดเป็นความรักและความผูกพัน
หลังจากเซ็นสัญญาแล้ว มาร์คัสได้ให้เงินก้อนแรกกับพรลภัสไปก่อน 1 ล้านบาทตามที่เธอขอไว้ หญิงสาวเอาไปจ่ายค่าเช่าบ้านทันที แถมยังจ่ายล่วงหน้าไปอีกหนึ่งปี เธอโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของน้องชายเธอสองแสนบาท และของแม่เลี้ยงเธออีกหนึ่งแสนบาท
ระหว่างทางก่อนที่จะกลับถึงบ้าน พรลภัสให้คราเวนจอดให้เธอลงที่หน้าวัดแห่งหนึ่งใกล้บ้านของเธอ
"จอดให้ฉันตรงนี้เถอะค่ะ"
"แต่มันยังไม่ถึงบ้านของคุณเลยนะครับ"
"ไปเป็นไรค่ะ ฉันลงตรงนี้แหละ มีธุระต้องไปทำต่อค่ะ"
คราเวนจึงจอดรถให้เธอลงก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในวัด
คราเวนหาที่จอดรถแล้วแอบตามดูเธอ เขาอยากรู้ว่าพรลภัสมาทำอะไรที่วัดนี้ เขาอยากรู้จักเธอให้มากขึ้น
พรลภัสนั่งอยู่หน้าอัฐิสถาน เธอกำลังร้องไห้และพูดคุยอยู่กับพ่อและแม่ผู้ล่วงลับของเธอ
"พ่อกับแม่ได้ไปอยู่ด้วยกันแล้วมีความสุขดีใช่มั้ยคะ อยู่ทางนั้นสบายดีหรือเปล่า หนูคิดพ่อกับแม่เหลือเกิน" เธอพูดทั้งน้ำตา "พ่อคะ หนูจะออกไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียวแล้วนะคะ หนูจะไม่อยู่กับน้าผกาและแทนคุณแล้ว ในเมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว หนูก็ไม่อยากอยู่กับพวกเขาอีก พ่อคงไม่โกรธหนูใช่มั้ยคะที่หนูไม่ได้อยู่ดูแลน้องแล้ว"
แทนคุณเป็นลูกชายที่พ่อของเธอรักและเป็นห่วงมาก ดังนั้นก่อนตายจึงได้ฝากฝังให้พรลภัสช่วยดูแลแทนคุณจนกว่าเขาจะเรียนจบ แต่ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ดูแลแทนคุณอย่างใกล้ชิด แต่เธอจะส่งเสียให้เขาได้เรียนจนจบเหมือนที่พ่อของเธอเคยขอไว้ก่อนตายนั่นแหละ
"แต่พ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ สิ่งที่พ่อเคยขอหนูไว้ หนูยังจะทำตามค่ะ หนูจะส่งเสียให้น้องได้เรียนจนจบ ส่วนภรรยาใหม่ของพ่อหนูจะให้เงินเธอไปก้อนหนึ่ง หลังจากนี้หนูกับเธอจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก"
พรลภัสยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตาออกก่อนที่จะลุกขึ้นยืน
"หนูไปก่อนนะคะ ขอให้พ่อกับแม่มีความสุขมาก ๆ หนูอยู่ทางนี้จะดูแลตัวเองให้ดี พ่อกับแม่ไม่ต้องเป็นห่วง"
คราเวนที่แอบมองดูหญิงสาวอยู่ใกล้ ๆ เขาฟังสิ่งที่เธอไม่ออก แต่ดูจากอาการและท่าทางของเธอแล้ว เธอกำลังร้องไห้เสียใจอยู่ คราเวนจึงหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดอัดคลิปวิดีโอไว้ เพื่อส่งให้เจ้านายของเขาดู
หลังจากที่กลับไปถึงบ้าน เธอก็เจอแทนคุณกับแม่เลี้ยงของเธอนั่งคุยกันอยู่หน้าบ้าน พวกเขากำลังคุยถึงเรื่องเงินที่จู่ ๆ ก็มีโอนเข้าบัญชีมา
"เจ้มาก็ดีแล้ว ไม่รู้ว่าใครโอนเงินมาเข้าบัญชีให้ผมกับแม่ เจ้มีได้รับด้วยไหม หรือว่าจะเป็นทรัพย์สินของพ่อหรือเปล่า พ่อแอบไปจ้างทนายที่ไหนจัดการเรื่องมรดกไว้หรือเปล่า" แทนคุณพูดไม่หยุด
"ไม่มีสมบัติอะไรของพ่อทั้งนั้น เงินสองแสนของนายกับหนึ่งแสนของแม่นาย ฉันเป็นคนโอนให้เอง"
"เจ้ไปเอาเงินมาจากไหนมากมาย"
"ใช่ เธอไปเอาเงินมาจากไหนมากมาย คงไม่ได้ไปขโมยหรือหรอกของใครมาใช่ไหม"
"คุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องนั้นหรอก ส่วนนายหากอยากอยู่หอก็ได้ แต่ไม่ต้องไปทำงานพิเศษ ตั้งใจเรียนให้จบก็พอ ฉันจะโอนเงินให้นายทุกเดือน เดือนละห้าพันบาท ส่วนเงินสองแสนนั้นก็เก็บเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินก็แล้วกัน"
"เจ้พูดแบบนี้หมายความว่าไง"
"ใช่ เธอหมายความว่าไง พูดเหมือนกับว่าจะไม่อยู่กับพวกเราอีกแล้วนั่นแหละ"
ทั้งสองแม่ลูกจ้องหน้าเธอเพื่อรอคำตอบ สีหน้าของแทนคุณก็เหมือนอยากจะร้องไห้ เขารักพี่สาวคนนี้มาก ถึงแม้เธอจะเย็นชาใส่เขาและไม่ค่อยพูดดีด้วย แต่เธอก็คอยดูแลและปกป้องเขามาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต แทนคุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าพี่สาวก็รักเขามากเหมือนกัน เพียงแต่ไม่แสดงออกเท่านั้น
"ฉันจะไปจากที่นี่ พวกเราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก บ้านหลังนี้ฉันจ่ายค่าเช่าล่วงหน้าให้แล้วหนึ่งปี"
"เจ้จะไปไหน จะทิ้งผมไปจริง ๆ เหรอ" แทนคุณเอ่ยทั้งน้ำตาแล้วกอดหญิงสาวเอาไว้
"ฉันจะจ่ายเงินให้นายทุกเดือนแน่นอนจนกว่านายจะเรียนจบ ฉันจะทำตามที่พ่อขอไว้แน่ นายไม่ต้องห่วง"
"จะไม่ให้ห่วงได้ไง เธอจะไปจากเราสองคนแม่ลูก แล้วไปใช้ชีวิตอยู่สบายคนเดียวใช่มั้ย เธอมันเห็นแก่ตัว" ผกาเอ่ยน้ำดวงตาที่แดงก่ำ เธอกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา
"คุณมีสิทธอะไรมาว่าฉันเห็นแก่ตัว ทุกวันนี้ฉันก็เป็นคนหาเงินมาเลี้ยงพวกคุณ แถมก่อนไปก็จ่ายค่าเช่าบ้านให้แล้ว ให้เงินคุณอีกหนึ่งก้อน หากคุณมีหัวคิดที่ดีก็ใช้ประโยชน์จากเงินก้อนนี้ให้ดีแล้วกัน"
พรลภัสผลักตัวแทนคุณที่กอดเธออยู่ออกไปเบา ๆ ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อไปเก็บของ
แทนคุณเดินตามเธอเข้ามาในห้อง หญิงสาวกำลังเก็บของอยู่ เธอมองรูปที่ถ่ายไว้กับพ่อแม่แล้วเอาเก็บเข้าใส่กระเป๋า
"เจ้จะไปจากพวกเราจริง ๆ เหรอ" เขาเอ่ยทั้งน้ำตา
"ใช่"
"เจ้ไม่ไปได้มั้ย หากปัญหามันอยู่ที่เงิน งั้นผมไม่เรียนต่อก็ได้ ผมจะทำงานช่วยเจ้หาเงิน"
"อย่าโง่ สิ่งที่พ่อหวังเอาไว้ก็คือนายต้องเรียนให้จบปริญญาตรี"
"แต่ผมไม่อยากให้เจ้ไปไหนนิ"
"นั่นมันก็เรื่องของนาย แต่ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่กับพวกนายอีกแล้ว"
"ไม่จริง ผมรู้ว่าเจ้รักและเป็นห่วงผมมาก ที่เจ้อยากออกไปอยู่คนเดียวก็เพราะจะไปหาเงินใช่ไหม เจ้ไปเอาเงินที่ไหนมามากมายขนาดนั้น หรือเจ้ไปกู้เงินใครมาหรือเปล่า แล้วที่เจ้ต้องออกไปจากพวกเราก็เพราะเจ้ต้องไปทำงานใช้หนี้ใช่ไหม ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ เจ้ก็เอาเงินไปคืนเขาเถอะ ผมไม่เรียนหนังสือแล้วก็ได้"