บทที่ 4
โรมวิสุทธิ์อดทนรอเมื่อพาเธอมาส่งที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อให้หมอเย็บแผลที่กลางฝ่ามือบางของเธอ แต่ทว่าเขารอเธออยู่หน้าห้องที่เธอหายเข้าไปกว่าชั่วโมงเธอก็ยังไม่ออกมาสักที
เขาเดินวนไปวนมาอีกครู่เหมือนนึกอะไรออกจึงผลักประตูเข้าไปในห้องนั้นปรากฏว่า ในห้องนั้นไม่มีใครอยู่สักคนเดียว ทำให้เขารู้ได้ในวินาทีนั้นเองว่า เธอหนีเขาไปแล้ว
เร็วเท่าความคิด โรมก้าวออกมาจากโรงพยาบาลแห่งนั้นแล้วเลี้ยวรถออกจากที่ แต่แล้วสายตาคมของเขาก็เร็วพอที่จะมองผ่านไปยังร่างของใครคนหนึ่งที่แอบนั่งรวมอยู่กับกลุ่มของญาติคนไข้ที่มาดูแลคนป่วย
ทำให้เขารีบขับรถออกไปจากโรงพยาบาลแล้วจอดเอาไว้ข้างทางก่อนจะกลับมาที่โรงพยาบาลแล้วมองไปยังกลุ่มคนที่เขาเห็นเธอ แต่ทว่ากลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ
“อาลีญา..”
เขากำมือแน่นเมื่อรู้ว่าเธอแอบหนีออกไปหลังจากที่รอจนมั่นใจว่าเขาขับรถออกจากโรงพยาบาล เพราะถ้าหากเธอขืนบุ่มบ่ามหนีออกไปในขณะที่เขายังอยู่ในโรงพยาบาล เขาอาจจะตามเธอทัน ดังนั้นเธอจึงรอจนแน่ใจว่าเขาต้องไม่หวนกลับมาที่นี่อีก จึงรีบไปพบหมอให้ทำการเย็บแผลให้เธออย่างเร่งด่วน
หลังจากนั้นก็คิดว่าจะต้องหนีไปให้ไกลที่สุด แต่ทว่าทันทีที่เธอรับยาและจ่ายเงินเสร็จ ข้อมือบางกลับถูกรวบเอาไว้อย่างแน่นด้วยฝ่ามือใหญ่ที่แข็งแรงของเขา
“คุณพี่!..”
ใบหน้าหวานซีดเผือดราวกับแผ่นกระดาษเมื่อมองเห็นเขา
“ตกใจหรืออาลีญา..ฉันไม่นึกว่าเธอจะร้ายกาจขนาดนี้..”
เธอพยายามสะบัดมือแล้วมองหาหมายจะให้คนช่วย
“ช่วยด้วย..”
เขายกมือปิดปากเธอแทบทันทีพร้อมกับโน้มใบหน้าต่ำลงมา
“ถ้าแหกปากร้องฉันจะจูบเธอ แล้วบอกใคร ๆ ว่าเธอเป็นเมียฉัน..”
“คุณพี่ไม่กล้าหรอกค่ะ..”
“ลองดูสิ..”
เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของเธอที่สูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วก็มองไปที่กลุ่มคนที่มาเฝ้าญาติของตนเองและบางคนที่พาคนป่วยเข้ามารับการรักษา
“ช่วยด้วย ช่วยด้วย..”
เธอตัดสินใจตะโกนก้องทำให้ผู้คนต่างหันมาจ้องหน้าเธอและมองดูเขา แต่ทว่าเธอก็มีโอกาสร้องได้เพียงเท่านั้นเมื่อโรมโน้มใบหน้าลงมาหาเธอ แล้วฉกกลีบปากบางของเธออย่างรวดเร็วและหนักหน่วงด้วยริมฝีปากรุมร้อน
เขาสอดวงแขนกอดกระฉับรัดร่างบางอรชรของเธอพร้อมกับบดเคล้ากลีบปากหวานของเธอ ที่เขาเองก็ได้ลิ้มรสและรู้สึกกำซาบอย่างไม่อยากจะถอนออก แต่การจู่โจมของเขากลับทำให้เธออับอายและแค้นเคืองใจอย่างยิ่งยวด
เมื่อเขาถอนริมฝีปากออกมาจากลีบปากบางของเธอก็ส่งยิ้มแจกจ่ายไปทั่วทุกสายตาของผู้คนพร้อมกับกอดกระชับรัดเอวกลึงของเธอเข้ามาหาร่างของเขาแล้วกึ่งตะกองกึ่งจิกปลายนิ้วขยุ้มมาที่เอวกลึงของเธอให้รีบเดินเคียงข้างไปกับเขา
“ภรรยาของผมเป็นคนบ้าจี้ครับ ต้องจูบถึงจะหยุดอาการของเธอได้..ขอโทษนะครับที่ทำให้ตกใจ..”
เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มที่น่าฟังเมื่อกอดเอวกลึงของเธอก้าวผ่านทุกสายตาออกไปจากโรงพยาบาล จนเดินมาถึงรถ
เขาก็เหวี่ยงร่างบางของเธอเข้าไปในเบาะหลังพร้อมกับก้าวเข้าประจำที่คนขับแล้วกดล็อคประตูทุกด้านเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“คุณพี่ทำเกินไปแล้วนะคะ ..”
“ฉันทำอะไร...”