บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เธอเหงา

ตกค่ำ รอบคฤหาสน์เงียบสงบ มีแค่แสงไฟสลัวสีเหลืองนวลจากจุดต่างๆ ทั้งรอบกำแพง และจุดสำคัญที่ต้องการให้เด่นต่อคนเห็นที่ผ่านมา เปรียบความตระการตาเสมือนรับโล่ได้ ทว่า บรรยากาศต่างกันโดยสิ้นเชิง

ใช่ คงไม่มีอีกแล้วเสียงเด็กกำพร้าเหล่านั้น ที่หัวเราะร่วนยามหยอกล้อกันเองอย่างสนุกสนาน แว่วลอยมาปะทะหูเธอ ในสมัยยังอยู่ที่เก่า มุมโปรดเวลาอ่านหนังสือ ถึงจะจับใจความไม่ได้ แต่มันทำให้เธอไม่เหงา และรู้ซึ้งเสมอว่าไม่ได้มีตัวคนเดียว ความเงียบคืบคลานเข้ามาถึงในห้อง เอมิเลียนั่งกอดเข่าตัวเอง ไม่กล้าหยิบจับอะไรมาอ่านทั้งนั้น ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดไฟให้สว่างไสว อาศัยเพียงไฟจากข้างนอก ที่เล็ดลอดผ่านช่องหน้าต่างเข้ามา พร้อมกับสายลมโชยบางเบา

เสียงเคาะประตูดังขึ้นแค่สามครั้ง พลางประตูถูกเปิดออก ไม่ทันให้เวลาหญิงสาวได้เตรียมตัว เธอผงกหัวที่แนบเข่าขึ้นมองหน้า ตกใจเล็กน้อยในวินาทีแรก ก่อนจะถอนหายใจเฮือกนึง เมื่อเห็นว่าเป็นซีอาร์

"ทำไมถึงอยู่มืดๆ แบบนี้ละคะคุณ"

พรึ่บ!

หล่อนถือวิสาสะเปิดไฟให้ ยกถาดอาหารมาวางกลางโต๊ะ

"อาหารเย็นค่ะ"

เอมิเลีย หย่อนเท้าลงพื้น มองกับข้าวสลับกับหล่อน

"เอ่อ..."

"มีคำสั่งจากคุณ​ท่านค่ะ ว่าคุณหนูจะต้องทานข้าวที่นี่"

"คุณหนู? "

เอมิเลียชะงัก ชี้อกตัวเอง ซีอาร์​ยิ้มกว้าง

"เป็นน้องสาวบุญธรรมของนายท่านแล้วนะคะ ลืมไปแล้วหรือ.."

"น้องสาว?"

"ใช่ค่ะ คุณท่านออกตัวเองเลยนะคะ คุณ​หนู​อาจจะยังไม่คุ้นเคย แต่ไม่เป็นไรค่ะ ประเดี๋ยวก็คงชินไปเอง ตอนนี้ทานข้าวก่อนดีกว่านะคะ"

ความสังสัยไม่ได้มีเพียงแค่นั้น ทั้งหัวของเอมิเลียเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม ทว่า เธอเลือกที่จะนั่งนิ่ง ถามตัวเองในใจ มากกว่าถามหล่อน

"ขอบคุณค่ะ"

เธอยิ้มบางให้กับซีอาร์ จนกระทั่งหล่อนออกไป และไม่วายโค้งคำนับให้เธอ

ทางด้านของครูซัส หลังเดินทางมาถึงที่หมาย ก็รีบดับเครื่อง เร่งฝีเท้าฝ่าผู้คนไปยังเธอ

มิเชล นางแบบสวยหุ่นสูงฉลูดนั่งเท้าคางหมุนหลอดในแก้วน้ำดื่มอยู่ที่โต๊ะ นับหนึ่งถึงร้อยหวังสยบความร้อนภายในใจให้เย็นลง หลังรอแฟนหนุ่มเป็นชั่วโมง แต่ยังไม่เห็นเขา จนกระทั่งเขามาถึง ครูซัสนั่งลงตรงข้ามกันกับเธอ โดยไม่่พูดไม่จา

"อีกแล้วนะคะครูซ ฉันรู้ คุณลืม.."

มิเชลบ่นอุบ พลางสะบัดหน้าไปทางอื่น หวังให้เขาง้อ

"ไม่เอาน่า คุณก็รู้ ผมงานยุ่ง"

"ยุ่งตลอดล่ะค่ะ จะยุ่งแบบนี้ ไปจนถึงวันแต่งงานของเราหรือเปล่าคะ"

"เงียบซะมิเชล แล้วสั่งอาหารให้ผม"

แต่เหมือนไม่เป็นผล เมื่อชายหนุ่มเสียงทำขรึมใส่ หล่อนหันกลับมา จำใจต้องเป็นฝ่ายยอมเอง เพราะไม่อยากให้เขาอารมณ์​เสีย นึกจะลุกก็ลุก อย่างเช่นวันก่อนๆที่เขาเคยทำอีก

ตลอดในช่วงดินเนอร์ มิเชลนับครั้งการช้อนตามองจากแฟนหนุ่มได้เลย เขาดูพิถีพิถัน ตั้งใจทานสเต็กตรงหน้า จนหล่อนรู้สึกถึงความผิดปกติได้ เขาไม่สนใจหล่อนและพูดน้อยกว่าที่เคย คนรู้นิสัยเขาดีอย่างมิเชล ย่อมมองออก

"คุณมีความลับกับฉัน "

มันไม่ใช่คำถาม แต่มันคือการเค้นให้เขาพูด ครูซัสวางช้อนกระทบจาน มองหน้าหล่อนนิ่ง รอเคี้ยวเนื้อคำสุดท้ายในปากให้หมด แล้วกระดกน้ำตามก่อน จึงจะเริ่มพูด

"แล้วยังไง?"

"คุณโกหกฉันไม่ได้หรอก"

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว เลือกที่จะไม่หลบตา และตอบประโยคเดิม

"บิ๊กครูซ ... คุณก็รู้ฉันเป็นใคร แฟนคุณนะ"

"แล้วไง"

"ก็ไม่แล้วไง แค่ฉันจะรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณ "

หล่อนยักไหล่ ครูซัสละสายตา ตัดความหงุดหงิด เบือนหน้าไปทางอื่นแทน ก่อนมิเชลจะเบิกตาอ้าปาก เมื่อนึกขึ้นได้ และคิดว่าใช่แน่นอน

"ใช่ สามปี ...สามปีแล้ว คำขอของแม่คุณ ...ใช่มั้ย? "

นิ้วเรียวผลักคางเขาหันมาสบตาตัวเอง ครูซัสขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมแสดงอาการโกรธขึ้นมาทันที

"ใช่... ต้องใช่แน่ๆ คุณเงียบแบบนี้ "

เหลือบตามองปลายนิ้วหล่อน ที่กระดกขึ้นลงชี้หน้าเขา ก่อนมิเชลลดมันลง เผลอลืมไป เขาไม่ชอบ หล่อนอาจจะถูกเขาหักนิ้วเอาก็ได้ แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด หล่อนเค้นต่อ รนรานถามเสียงดัง ทำคนรอบข้างเริ่มมอง ต่างจากเขาที่เอาแต่นั่งนิ่ง หญิงสาวได้ทีเอาใหญ่

"แม่คุณก็ตายไปตั้งนานแล้ว คุณไม่ทำตาม เธอคงไม่รู้หรอกน่า "

"มิเชล! "

"ทำไมคะ?!"

"อย่าล้ำเส้น.."

ครูซัส เดือดดาล ลุกขึ้นยืนเต็ม​ความสูง หลังกดเสียงต่ำและวางธนบัตร​ไว้กลางโต๊ะโดยไม่เรียกพนักงานมาคิดเงิน เดินโทงๆรุดหน้ามายังชั้นล่าง อาการเขาไม่สบอารมณ์ตั้งแต่นั้น มิเชลทำเขาหัวเสียและหงุดหงิด จนคิดว่าคุยกันต่อไปคงไม่รู้เรื่อง ขืนยังอยู่ต่อ คงเหลือแต่จะทะเลาะ

ต่างจากที่หล่อนวิ่งตาม เลือกที่จะคุยกับเขา มากกว่าปล่อยให้ค้างคาจนถึงเช้า

"หยุดเดี๋ยวนี้นะคะครูซ คุณไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันแบบนี้ การเดินหนี ทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบ มันเสียมารยาทน่ะรู้ไหม"

แน่นอน เขาชะงัก แต่นั่นหลังจากถึงลานจอดรถแล้ว ก่อนหน้านี้หล่อนวิ่งตามเขาไม่ทัน ครั้นจะตะโกนโผงผางห้ามกันในตึก ก็มีแต่จะขายหน้าผู้คน

ครูซัสหยุดเดินกลางคัน มิเชลหน้าเกือบคมำตำแผ่นหลังเขา ดีที่เท้าชะงักทันเสียก่อน

"คุณคิดว่าคุณเป็นใคร มิเชล ฃ"

"เลิกหยิ่งได้แล้วน่า"

"......"

"เลิกวางท่าแบบนี้ด้วย คุณทำอะไรอย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เรื่องเด็กนั่น..."

"แล้วทำไมผมต้องรายงานคุณทุกเรื่อง"

"เพราะฉันเป็นแฟนคุณไง!"

"......."

"หรือว่าไม่ใช่? "

"กำลังจะไม่ใช่!"

เขาหันหน้ามาสวนกลับ มิเชลยืนอึ้ง

"จำไว้นะ มิเชล ถ้ามันจะพัง มันพังเพราะคุณ"

ทำท่าจะเดินต่อ

"หมายความว่ายังไง คุณกำลังจะบอกเลิกฉันเหรอ "

หญิงสาวเสียงสั่น เริ่มน้ำตารื้น มองคนรักด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจและจุก จะมีสักครั้งไหม ที่หล่อนกับเขาจะมีความสุขอย่างเช่นคนอื่นๆ มีสักครั้งไหม ที่เขาไม่แข็งกระด้างใส่กันแบบนี้....

ใช่ นอกจากเรื่องบนเตียงที่เขาไม่เคยขาดตกบกพร่องแล้วเล่าก็ มีเรื่องความเย็นชา และกระด้างกระเดือกนี่ล่ะ.. ที่เขาเก่งที่หนึ่ง

"ฟู่ววว"

ครูซัสถอนหายใจ กระชับสูทตัวเองให้เข้ารูป ก่อนยื่นมือมาบีบหัวไหล่หล่อน

"ดินเนอร์มื้อหน้า อย่าทำแบบนี้อีก อย่าซักไซ้ผม ผมไม่ชอบ"

แล้วหมุนตัวไปที่รถ

"เดี๋ยวค่ะ คุณจะไปไหนคะ.... อะ เอ่อ... ค่ะ ขับรถดีๆนะคะ"

มิเชลยิ้มทั้งน้ำตา เมื่อรู้ความหมายของประโยคนั้นแล้วว่า.. เขาเปล่าบอกเลิก เพียงแต่ตำหนิ และติเตือน​หล่อนเท่านั้น เลยได้แต่โบกมืออำลา กระทั่งรถเขาแล่นไปไกล

ทางด้านของเอมิเลีย หน้าปัดนาฬิกา​บ่งบอกเวลาตีหนึ่ง นับตั้งแต่กินข้าวเสร็จ อุตส่าห์ช้อนคำโตๆเข้าปาก ฝืนใจกินเพื่อจะให้มันหมดๆ ไป ตั้งแต่ทุ่มตรง ชำระร่างกายและจัดการทำธุระส่วนตัวจนเสร็จราวประมาณสามทุ่ม บัดนี้ปาเข้าไปอีกวัน เธอยังลืมตาอยู่ ไม่มีทีท่าว่าจะง่วงเลย เอมิเลียสะบัดผ้าห่มออก ฉุดตัวเองลุกขึ้นนั่ง เบือนหน้าไปทางประตู คว่ำปากเตรียมจะร้องไห้ คิดถึงเหลือเกิน คิดถึงโรงเรียน...

ใช่ นี่มันไม่ใช่ห้องนอนของเธอ ไม่มีอะไรเหมือน ทั้งเฟอร์นิเจอร์​ ทั้งบรรยากาศ และผู้คน ถึงสาวใช้อย่างซีอาร์​จะเป็นมิตรกับเธอก็เถอะ ทว่าสังคมนี้ มันไม่เหมาะกับเธออยู่​ดี​ เอมิเลียลอบถอนหายใจนับครั้งไม่ถ้วน ตัดสินใจผงะจากการนอน ไปเปิดไฟดวงเล็กตรงโต๊ะ หวังจะอ่านหนังสือคั่นเวลา ทว่า ยังไม่ทันจะเปิด กลับมีใครคนนึงมาเคาะประตูเสียก่อน

เอมิเลียสะดุ้งโหยง ไม่คิดว่าดึกๆอย่างนี้ จะมีใครมาเยือน...

"คะ ใครคะ.."

"ฉันเอง"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel