บทที่ 4 (3)
“เจ” เสียงเรียกพร้อมเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ก่อนที่ทาเคชิจะเปิดประตูห้องเข้าไป บนเตียงนอนใหญ่ มีร่างของเด็กหนุ่มที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี นอนคุดคู้อยู่บนที่นอน “เป็นไงบ้าง” เขาเอามือแตะที่หน้าผากของดีเจ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“อื้อ..เฮียเองเหรอ” ดีเจขยับตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงนอน “ผมดีขึ้นหน่อยแล้วครับ ว่าแต่ทำไมเฮียรู้ว่าผมไม่สบาย” เด็กหนุ่มเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียงมาดูเวลา “นี่ยังไม่ดึกมาก วันนี้เฮียไปทำงานไม่ใช่เหรอ ทำไมกลับเร็วละครับ”
“ก็จะอะไรละ เพราะมึงไงถึงกลับเร็ว” ตะวันพูดขึ้น
“ผมไม่เป็นอะไรแล้ว”
“อืมดีแล้ว” ทาเคชิพูดเสียงเบา สีหน้าของเขาผ่อนปรนความกังวลลงไปมาก “มีข้าวที่หลังรถ” ชายหนุ่มยื่นกุญแจรถให้กลับตะวัน ก่อนที่เด็กหนุ่มจะรับแล้วรีบเดินตรงไปที่รถ “ยังไม่ได้กินอะไรใช่ไหม ลุกไปกินข้าวแล้วค่อยนอนต่อ ถ้าไม่ไหวก็บอกจะได้ไปหาหมอ”
“ครับๆๆ เข้าใจแล้วครับ” น้ำเสียงที่ปนความล้อเล่นของดีเจทำให้ ทาเคชิยิ้มมุมปาก ก่อนที่เขาจะเดินตรงไปที่ห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นบน ซึ่งมีห้องนอนของเขาและเพชรกล้าเพียงสองห้อง
ถึงในบ้านจะมีเพียงชายโสด แต่ภายในบ้านกลับสะอาดเรียบร้อย เสมือนมีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวัน นั้นก็เพราะทุกคนต่างแบ่งแยกหน้าที่กันทำความสะอาด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดบ้าน อาทิตย์ละหนึ่งวัน
ทาเคชิเดินเข้ามาในห้อง ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะอาบน้ำ เขาจึงได้หยิบโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงที่เก็บได้ เอามาชาร์จแบตเตอรี่ เสียบทิ้งเอาไว้ แล้วเดินหายเข้าไปในห้องน้ำอยู่นานหลายนาที
สายน้ำเย็นราดรดลงมาที่ร่างกาย แค่เพียงลับตาใบหน้าของใครบางคนที่เจอไปเมื่อไม่นานก็ผุดขึ้นมาในความคิด เขาสะบัดศีรษะหลายต่อหลายครั้งเพื่อไล่ความคิดและใบหน้าของเธอออกจากหัว ดูเหมือนว่าการกระทำแบบนี้จะไม่เห็นผลมากนัก
“ผมจัดอาหารให้แล้วครับ เฮียจะเอาเบียร์ไหม เดี๋ยวผมเปิดให้” ตะวันถามขึ้น เมื่อทาเคชิเดินลงมาที่ห้องครัว ที่มีดีเจนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขามองเด็กหนุ่มทั้งสอง ด้วยความรักไม่ต้องจากน้องแท้ๆ ของตนเอง
“ไม่ล่ะ เค้กที่ซื้อมาล่ะ”
“อยู่นี่เฮีย จะเอาตอนนี้เลยไหม เดี๋ยวผมจุดเทียนให้” ตะวันถามขึ้นอีกครั้ง
“อืม” ทาเคชินั่งลงที่หัวโต๊ะ เขานั่งนิ่ง จ้องมองเค้กที่มีแสงเทียนที่กำลังสว่างไสวอยู่เบื้องหน้า “แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับพ่อ” ทาเคชิเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของพ่อ และยังคงเป็นวันที่พ่อของเขาจากไปเช่นเดียวกัน ในทุกๆ ปี เพื่อรำลึกถึง เขาจึงได้แต่ซื้อเค้กที่เป็นของโปรดของพ่อมาในวันนี้ของทุกๆ ปี และจะเป็นเขาเองที่เป่าเค้กแทนพ่อ เด็กหนุ่มทั้งสองได้แต่นิ่งเงียบมองภาพตรงหน้าด้วยความเศร้าหมอง
“เฮีย ว่าแต่ เฮียเพชรไปไหน ผมไม่เห็นมาสองวันแล้ว โทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปอ่านแต่ไม่ตอบ” ดีเจถามขึ้นเพื่อกลบเกลื่อนความเงียบ ทำให้ทาเคชิที่มีแววตาเศร้าหันมองมาทางเขาที่นั่งซดน้ำข้าวต้มอยู่ตรงหน้า
“ไม่รู้ มันอู้งานไปหลายวัน หักเงินเดือน หนักสุดก็ไล่ออกจากอู่” ทาเคชิพูดด้วยใบหน้านิ่งเรียบตามมาด้วยรอยยิ้มที่มุมปากให้กลับทั้งสองคน
“ต้องแบบนี้สิครับ ถึงจะยุติธรรม ผมสองคนรักเฮียมากนะครับ เอาให้หนักเลยนะเฮีย ช่วงนี้เฮียเพชรโดดงานบ่อยสงสัยจะติดสาวแน่ๆ เลยผมว่า” ตะวันออกความเห็น เขาเป็นเด็กหนุ่มที่ร่างเริงสดใส เหมือนกับชื่อที่ถูกตั้งขึ้นไม่มีผิด
“ใช่เฮีย จัดหนักๆ เลย” ดีเจผสมโรงด้วยเช่นเดียวกัน สีหน้าของเขาดูดีขึ้นมาก “กูฝากล้างด้วยนะ ไม่ไหวแล้ว” เขาดันชามข้าวต้มออกห่างก่อนวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ โดยมีเสียงของตะวันหัวเราะไล่หลังตามไป
“เค้กอยู่ในตู้นะ แบ่งกันกินได้เลย กินข้าวเสร็จก็รีบเข้านอน พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าทำงานที่ค้างให้เสร็จลูกค้าจะมารับรถตอนบ่าย”
“รับทราบครับเฮีย” ตะวันยิ้มแฉ่งส่งให้คนที่รักดั่งพี่ชายสายเลือดเดียวกัน
ทาเคชิเดินขึ้นมาบนห้องนอน สายตามองไปที่โทรศัพท์ที่เก็บมาได้ กดเปิดเครื่องไม่นานหน้าจอก็ติดแสงสีขาว สิ่งที่ทำให้เขาตกใจคงไม่วายเป็นรูปพักหน้าจอ ที่แสดงขึ้นมา มันเป็นใบหน้าของเด็กสาวคนนั้น ในรูปเธอยิ้มหวานเสียจน….หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรง ตึก ตึก ตึก!!!