บทที่ 5 คลาดกัน
บทที่ 5
คลาดกัน
เมื่อออกมาจากภัตตาคารตระกูลเฝิงแล้ว เฝิงอี้ก็ยืนนึ่งอยู่พักหนึ่ง เดิมทีคิดอยากจะไปเยี่ยมชุยซินอี๋เสียหน่อย อยากรู้ว่าเธอจะดีใจไหมที่ได้พบกับเขาอีกครั้ง เป็นเพราะเขารีบเดินทางกลับมาจึงไม่ได้ซื้อของมาฝากเธอเลย ไว้คราวหน้าเขาจะต้องซื้อของมาฝากเธอให้ได้
แต่คิดดูอีกที เขาไม่ไปรบกวนเวลาพักของเธอจะดีกว่า ไว้กลับมากวานซีคราวหน้า เขาจะต้องไปพบกับเธอให้ได้ อีกไม่นานก็จะเรียนจบแล้ว เขาคงได้กับมาอยู่ที่กวานซีถาวร
ด้านชุยซินอี๋นั้น เธอนอนอย่างหมดอาลัยตายอยากแบบนี้ต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว เธอรู้สึกว่าหากเธอยังเอานอนซมและไม่ทำอะไรแบบนี้ เธอจะเป็นบ้าไปเสียก่อน ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วคงไม่อาจจะแก้ไขได้อีก เธอก็หวังเพียงว่ามันจะไม่เกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันอะไรขึ้นกับเธออีก
หญิงสาวที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา ไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าอีกไม่นานชีวิตของเธอจะผันเปลี่ยนไปมากขนาดไหน
เมื่อเริ่มปลงตกได้แล้ว ชุยซินอี๋จึงลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาและเปลี่ยนเสื้อผ้า ใช้ชีวิตให้ปกติ แม้ว่ามันจะยากสักเพียงใดก็ตาม
ตอนเย็นสือชิงกลับมาที่บ้าน ก็พบว่าลูกสาวกำลังทำงานบ้านเหมือนปกติ สีหน้าก็ดูดีขึ้นไม่น้อยแล้ว
"ซินซิน ลูกตื่นแล้วเหรอ หายดีแล้วหรือยัง"
ชุยซินอี๋ยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ
"หายดีแล้วค่ะแม่ หนูนอนพักไปเยอะแล้ว"
"อืมๆดีแล้ว อ้อ คุณชายเฝิงอี้ฝากมาบอกว่าขอให้ลูกหายเร็วๆล่ะ เขากลับมาคราวหน้าคงได้พบกันอีก และรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้พบลูก"
สือชิงเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินเข้าบ้านไป ชุยซินอี๋ที่ได้ยินว่าเฝิงอี้ฝากคำพูดมาบอกเธอก็รู้สึกมือไม้อ่อน เดิมทีคิดว่าจะคุมสติได้แล้ว แต่มันกลับเหมือนมีเข็มนับพันเล่มกำลังทิ่มแทงหัวใจของเธออย่างสาหัส
เขากลับมาแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับไม่ได้ไปพบหน้าเขา เขาเองก็ไม่ได้ลืมเธอยังคงจำเธอได้เสมอ
สือชิงดวงตาแดงก่ำ เดิมทีเธอเป็นคนเข้มแข็งมาตลอด ไม่เคยยอมให้ใครมาทำร้ายได้ แต่ครั้งนี้เธออ่อนแอมากจริงๆ อ่อนแอมากเหลือเกิน ชุยซินอี๋ดวงตาแดงก่ำรู้สึกว่าน้ำตาจะไหลออกมาอีกแล้ว เธอยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ ก่อนจะยื่นมือไปกวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าตนเพื่อชะล้างน้ำตาให้ออกจากใบหน้าไปเสีย แต่มันกลับยังไหลรินลงไม่ยอมหยุด
สามวันต่อมาเฝิงอี้ก็ต้องเดินทางกลับปักกิ่งแล้ว ครั้งนี้มีเฝิงอินเดินทางกลับไปพร้อมกันด้วย ตั้งแต่วันนั้นเขาก็ฝันถึงใบหน้าสวยหวานของหญิงสาวคนนั้นตลอดเวลา อีกใจก็นึกถึงชุยซินอี๋ด้วยไม่รู้ว่าป่านนี้ยัยเด็กผมเปียนั่นจะหายป่วยแล้วหรือยัง ทั้งที่เขากลับมาแล้วแท้ๆแต่กลับไม่ได้พบกัน อีกตั้งปีกว่าๆเขาถึงจะเรียนจบแล้ว ตอนนั้นคงจะได้กลับมาเจอเธออีกครั้ง
เรื่องราวก็ผ่านไปเช่นนี้ ชุยซินอี๋กลับมาทำงานเหมือนเดิม ตอนนั้นเธอใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มักจะทำจานชามตกแตก หรือทำให้ลูกค้าไม่พอใจอยู่เสมอ จนคุณนายเฝิงต้องเรียกเธอไปพูดคุย สือชิงเองก็ร้อนใจเพราะปกติลูกสาวไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
ในห้องทำงาน คุณนายเฝิงให้ชุยซินอี๋นั่งลงที่เก้าอี้ ก่อนจะเอ่ยถาม
"ซินซิน พักนี้เธอดูจิตใจล่องลอย มีเรื่องอะไรในใจใช่ไหม บอกกับฉันได้นะ หากช่วยได้ฉันก็จะช่วย ไม่อยากนั้นฉันคงต้องสั่งพักงานเธอไปก่อน"
ชุยซินอี๋ที่ได้ยินแบบนั้นก็เม้มริมฝีปากแน่นช่วงสองเดือนมานี้เธอรู้สึกว่านอนไม่ค่อยหลับ ได้กลิ่นอาหารในครัวก็อยากจะอาเจียน อีกทั้งยังรู้สึกเวียนหัวและไม่ค่อยสบายตัว ประจำเดือนก็ไม่มาสองเดือนแล้ว ไม่รู้ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกับเธอกันแน่
เมื่อเห็นว่าชุยซินอี๋ไม่ตอบ คุณนายเฝิงก็ถอนหายใจออกมา
"ซินซิน เอาอย่างนี้นะ เธอพักงานไปก่อน อาการดีขึ้นตอนไหนค่อยกลับมาทำงานใหม่ ฉันไม่่ได้ไล่เธอออก"
"คุณนายเฝิงคะ หนูขอโทษนะคะ"
"ไม่เป็นอะไร ฉันเข้าใจเธอ เธอคงจะรู้สึกเหงาที่เห็นว่าเพื่อนๆคนอื่นๆได้เรียน ได้ไปเจอโลกกว้าง แต่เธอกลับต้องมาทำงานแบบนี้ ฉันสงสารเธอนะ เธอกลับไปพักเถอะ แล้วค่อยมาทำงานเมื่อพร้อมแล้วกัน ส่วนข้าวของที่เธอทำตกแตกเสียหาย ฉันไม่คิดเงินเธอสักหยวนหรอก เธอไม่ต้องกังวลไป"
ชุยซินอี๋น้ำตาคลอ ก่อนจะพยักหน้าและกล่าวขอโทษคุณนายเฝิงอีกครั้ง แล้วจึงเดินออกมาและกลับบ้านไป
สือชิงเองก็ไม่ได้ต่อว่าลูกสาว ระยะนี้ดูเหมือนชุยซินอี๋เหมือนจะมีเรื่องไม่สบายใจ เธอถามอะไรไปก็ไม่ค่อยตอบ
จนกระทั่งผ่านไปร่วมสามเดือน เรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับต่อชุยซินอี๋
สือชิงมองดูท้องของลูกสาวที่เริ่มใหญ่โตขึ้นมาด้วยแววตาที่ตื่นตระหนก อาการของชุยซินอี๋ที่ผ่านมาเหมือนคนไม่สบาย กินอะไรก็อาเจียนออกมา เธอคิดว่าลูกสาวคงป่วยเป็นกระเพาะจึงไม่ได้ถามอะไรมากนัก อีกทั้งเงินก็ไม่ค่อยมีจึงทำได้เพียงให้กินยาราคาถูกที่ไปซื้อจากร้านหมอแถวนี้มาต้มให้กินเท่านั้น
แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว เห็นได้ชัดว่าชุยซินอี๋กำลังตั้งท้อง!!!!
สือชิงมองดูลูกสาวที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าเม้มริมฝีปากแน่น เธอไม่รู้ว่าจะโกธรหรือว่าจะสงสารดีดี ในใจนึกก็นึกอยากรู้ถึงต้นสายปลายเหตุที่เกิดขึ้น
ชุยซินอี๋กำมือแน่น เธออยากจะกรีดร้องออกมาสุดเสียงแต่ก็ร้องไม่ออก ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ มีเพียงเสียงสะอื้นเบาๆออกมาเพียงเท่านั้น
"ซินซิน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ลูกท้องกับใคร"
ชุยซินอี๋เงยหน้ามามองแม่ของตนเอง ก่อนจะเอ่ย
"หนูก็ไม่รู้ค่ะแม่"
สือชิงยกมือขึ้นปิดหน้า ก่อนจะร้องไห้ออกมา และเงยหน้ามามองลูกสาวอีกครั้ง
"เล่าให้แม่ฟังทีได้ไหมลูก"
ชุยซินอี๋เริ่มสะอื้นไห้ออกมาแล้ว เธอจ้องมองแม่ของตัวเอง ก่อนจะเอ่ย
"คืนนั้น ฮึก คืนที่มีงานกินเลี้ยงปีใหม่ที่ภัตตาคารตระกูลเฝิง...."
ชุยซินอี๋ตัดสินใจเล่าให้แม่ของเธอฟังทั้งหมด
"แม่คะ คืนนั้นหนูโกหก หนูเมาจนไปนอนกับผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ฮือ แม่หนูขอโทษ"
สือชิงที่ได้ฟังเรื่องราวก็ถึงกับปล่อยโฮ เธอไม่อาจโทษชุยซินอี๋ได้เลย หล่อนยังเด็กนัก เพราะไม่กล้าบอกเธอจึงทำได้เพียงเก็บเงียบเอาไว้ โชคดีเพียงใดที่ลูกสาวของเธอไม่คิดฆ่าตัวตาย เมื่อคิดได้แบบนั้น สือชิงจึงดึงลูกสาวเข้ามากอด ก่อนจะเอ่ย
"ไม่เป็นอะไรนะ ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ก็ให้เด็กคลอดออกมาเถอะ แม่จะช่วยลูกเลี้ยงเอง เด็กไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ลูกทำร้ายเขาไม่ได้นะ"
"แม่ค่ะ ฮือ หนูผิดไปแล้ว"
“ฮึก อย่าโทษตนเองแบบนี้ แม่เองก็มีส่วนผิดที่ไม่มีเวลาใส่ใจลูกเลย
สองแม่ลูกนั่งกอดกันร้องไห้อยู่ในบ้านอย่างน่าสงสาร