พี่จ๋า...สอนเสียวให้หนูหน่อย บทที่1.
บทที่1.
ความรู้สึกร้อนวูบวาบ!! รูเนื้อกึ่งกลางร่างขมิบถี่ๆ ยามเดินผ่านมนุษย์เพศผู้…มันเกิดขึ้นตั้งแต่แตกเนื้อสาว ตอนที่เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงบนร่างกาย เนินอกเริ่มขยายใหญ่เป็นเนินกระเปาะเท่าฝ่ามือ เนินสามเหลี่ยมกลางร่างเริ่มผุดไรขนอ่อนสีน้ำตาลจางๆ แต่...นิ่มนวล พยายามเก็บกดไว้ หล่อนเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของพ่อและแม่ มีความประพฤติดีมาตลอด อยู่ในกรอบที่บิดา-มารดาขีดเส้นไว้ให้ทุกอย่าง เป็นความภูมิใจของประชา และเนตรนิล สองสามี-ภรรยา เป็นครูโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง...ความที่เป็นบุตรีของครูนั่นเอง ทำให้นิ่มนวลทำอย่างที่ใจคิดไม่ได้เธอเป็นกุลสัตรี...เหมือนผ้าพับไว้...
เวลาผันผ่าน เวียนไปจนบัดนี้...วันที่เธอก้าวผ่านความเยาว์วัย กระโดดสู่วัยสาวเต็มตัว หลังนาฬิกาตีบอกเวลา 0:00 ของวันที่18 มกราคม เข็มกระดิกผ่านเลข12 เธอก็จะมีอายุครบ20ปีบริบูรณ์ สิ้นสุดกันทีกับความกลัวของเด็กสาว ก้าวข้ามมาสู่วัยผู้ใหญ่ที่สามารถทำอะไรตามใจตนเองได้ โดยที่ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
ไม่ใช่อะไรหรอก...ที่อดทนอดกลั้นมาตลอด เพราะตนเองอยู่ในสายตาของบิดา-มารดา แต่เมื่อวันที่เป็นอิสระมาถึง...วันที่ก้าวออกมาใช้ชีวิตคนเดียว...หลังจากพ่อ แม่พิจารณา เห็นถึงความเหมาะสม จึงปล่อยให้ลูกสาวสุดรัก ได้เผชิญโลกกว้าง โดยที่ทั้งสองท่านเฝ้ามองอยู่ห่างๆ กับประสบการณ์อยู่หอ ครั้งแรกตอนที่อายุเต็ม20ปีพอดี
ครั้นได้มาอยู่คนเดียมตามความต้องการ ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่ใต้ชายคาบ้าน ความลำบากคืบคลานเข้ามาหลายอย่าง นิ่มนวลต้องปรับตัวจนกระทั่งชิน...แต่เธอก็มีความสุขกับอิสระที่ได้ครอบครองและเริ่มมอง...เพศตรงข้าม แบบไม่ต้องเหนียมอาย
เห้อ!!
ความฝัน กับความเป็นจริง ช่างตรงกันข้ามแบบเห็นได้ชัด ผู้ชายสมัยนี้เห็นแก่ตัว จ้องแต่จะเอาเปรียบจนนิ่มนวลยอมรับไม่ได้...เธออยากเสียจิ้น...แต่หากต้องเสียของสำคัญขึ้นมาจริงๆ เธอต้องแน่ใจว่า...คนที่ได้ไปจะไม่โพนทะนาทำให้เธอเสียหาย แต่เท่าที่ทดลองอ่อย...ผู้ชายหลายคนไม่ผ่านเกณฑ์...มันไม่คุ้มเสี่ยง หากจะถลกผ้า อ้าขาให้ใครสักคนช่วยให้เธอลดความงุ่นง่านลง...
จนกระทั่ง...
เหมือนสวรรค์เปิดทางให้...หลังกลับจากมหาวิทยาลัย’ เธอสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของห้องข้างๆ จากที่เคยมีคู่ผัว ตัวเมียที่ทำงานโรงงานใกล้ๆ อาศัยอยู่ วันนี้ห้องๆ นั้นกลับถูกเปิดโล่ง คนดูแลหอกำลังทำความสะอาดอย่างขมีขมัน
“น้องนิ่ม...กลับแล้วเหรอจ้ะ”
หล่อนชวนคุย เมื่อเงยหน้าขึ้นมา แล้วเห็นนิ่มนวลมองอยู่
“จ้ะพี่แป้น” นิ่มนวลตอบพร้อมกับยิ้มอ่อนๆ
“นิ่มจะมีเพื่อนใหม่แล้วนะ” เจ้าหล่อนยังฝอยไม่หยุด
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ
“หล่อด้วย โสดด้วย” แป้นคุยฟุ้ง ลูกหอคนใหม่ หล่อล่ำ เร้าใจ จนอยากอวดให้กับคนอื่นๆ รับรู้ด้วย
“หือ...” สาวสดครางฮือ เนื้อเต้นขึ้นมาทันใด
“ยังเรียนอยู่หรือทำงานแล้วคะ?” นิ่มนวลถามต่ออีกนิด
“ทำงานแล้ว...แปลก!! อายุไม่น้อยแล้วนะ ทำไมยังไม่มีเมีย” แป้นกล่าวเบาๆ เริ่มกังขาหน่อยๆ เพราะลูกหอคนใหม่อายุเลยสามสิบปี เขาอยู่ในช่วงหนุ่มแน่น แข็งปั๋งไปทั้งตัว
“น่าจะดีกว่าคนก่อนนะคะ โสดๆ แบบนี้ คงไม่มีเสียงแปลกๆ ตอนกลางคืน”
นิ่มนวลบ่นเบาๆ ผิวแก้มร้อนซู่ ใบหน้าแดงซ่าน เพราะเพื่อนข้างห้องคนเก่า ชอบทำเสียงแปลกๆ กลางดึก ช่วงที่เธอกำลังคร่ำเคร่งอ่านหนังสือ จนสมาธิกระจัดกระจาย
“อิๆ” แป้นหัวเราะร่วน หล่อนเข้าใจความนัยของนิ่มนวล คู่ผัว ตัวเมียคู่ไหนก็เหมือนกันหมด เขาสามารถทำรักกันได้ทั้งคืน โดยไม่คิดจะเกรงใจห้องข้างๆ เมื่อควาเมามันปิดหูปิดตา พนังบางๆ หรือจะสามารถดูดซับเสียงครางโหยหวลนั่นไว้ได้
“นิ่มก็หาแฟนซักคนสิ แล้วครางแข่งกับเขาเสียเลย”
แป้นยุ หล่อนยิ้มจนตาหยี
“ทำอย่างกับแฟน หาง่ายนี่พี่แป้น”
นิ่มนวลท้วงเสียงอ่อย ไม่ใช่ไม่อยากมี แต่ยังหาคนถูกใจไม่ได้
แป้นเงยหน้ายิ้มหวาน “อย่าเลือกมาสิน้องนิ่ม!!”
“ไม่ได้เลือกค่ะพี่แป้น แต่หาถูกใจไม่ได้เลยจริงๆ”
นิ่มนวลตอบเสียงกร่อยๆ เธอไม่ได้เรื่องมาก แต่หนุ่มๆ ที่แวะเวียนมาขายขนมจีบ ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่เธอพอใจ เขาเหล่านั้นไม่สามารถทำให้เธอหัวใจสั่นได้ ถึงจะมีปฏิกิริยาทางกายตอบสนองกัน หัวใจของเธอเต้นเป็นจังหวะปกติดี นิ่มนวลเลยขออดทนรอ คนที่ใช่...คงจะดีกว่า
หญิงสาวถอนใจแผ่วๆ ตัดใจเดินเข้าห้อง ไขประตูห้อง ดันประตูให้เปิดอ้า...ถอดรองเท้าคัชชูวางไว้บนชั้น ก่อนจะปิดงับประตูห้อง “ลืมถามเลย...เขาจะย้ายมาเมื่อไหร่ล่ะ?”