บทที่ 1
ร่างบางสมส่วนของเพชรพราวก้าวเท้าฉับๆ เข้าไปในร้านกาแฟเจ้าประจำที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทตกแต่งภายในของเธอด้วยความเคยชิน
“สวัสดีค่ะคุณเพชร วันนี้จะรับอะไรดีคะ ?”
เสียงหวานใสที่เธอคุ้นเคยของพนักงานในร้านทักทายอย่างเป็นกันเอง และหญิงสาวก็มักจะตอบกลับไปด้วยประโยคเดิมๆ เสมอ
“เหมือนเดิมจ๊ะ”
“ได้เลยค่ะ รอสักครู่นะคะ” พนักงานคนเดิมบอก ก่อนจะหันไปจัดการกับเครื่องชงกาแฟด้านหลังอย่างคล่องแคล่ว
เพชรพราวเดินตรงไปยังที่นั่งประจำของเธอ ซึ่งมันอยู่ด้านในสุดของร้านราวกับต้องการหลบซ่อนตัวเองจากสายตาของคนอื่นเป็นการชั่วคราว
ไม่สิ! เธอไม่จำเป็นที่จะต้องหลบใครสักหน่อย ก็แค่ไม่อยากเห็นคู่รักที่นั่งคลอเคลียกันกระหนุงกระหนิง ให้บาดตาบาดใจสาวโสดวัยสามสิบเอ็ดกะรัตอย่างเธอต่างหากล่ะ
“นั่งคิดอะไรอยู่ครับคุณเพชร หน้าเครียดเชียว”
ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งดูท่าทางสะอาดสะอ้านเอ่ยทักทายเธออย่างเป็นกันเอง แล้วถือวิสาสะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม โดยที่ไม่คิดจะขออนุญาตเลยสักนิด และนี่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เธอรู้สึกชินเช่นกัน
“ไม่ได้คิดอะไรหรอกค่ะ และก็เพราะไม่ได้คิดนี่แหละ ถึงได้เครียด”
“หือ... ไม่ได้คิดก็เลยเครียด” น่านนทีเอ่ยทวนคำพูดของเธอ แล้วหัวเราะออกมาเบาๆ
เพชรพราวเหลือบมองเสื้อเชิ้ตสีชมพูอ่อนที่เขาสวมอยู่ด้วยความรู้สึกแสนเสียดาย เพราะผู้ชายที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กอย่างเขาไม่สมควรจะชอบไม้ป่าเดียวกัน ให้ชะนีอย่างเธอชอกช้ำระกำใจ
‘ให้ตายสิ! อย่างน้อยพระเจ้าก็ควรจะหลงเหลือผู้ชายดีๆ ไว้ให้ฉันบ้าง’
“ลาเต้เย็นกับเค้กวานิลลามาเสิร์ฟแล้วค่ะ” พนักงานที่รับออเดอร์จากเธอไปเดินมายืนอยู่ข้างโต๊ะ พร้อมกับถาดใส่กาแฟและขนมเค้กตามที่เธอสั่ง
“คุณสั่งเมนูเดิมๆ แบบนี้มาเป็นปีแล้วนะ”
น่านนทีเป็นฝ่ายเริ่มการสนทนาอีกครั้ง ก่อนจะรับถาดจากพนักงาน แล้วค่อยๆเลื่อนมาไว้ตรงหน้าเธอ
“ฉันไม่รู้จะสั่งอะไรนี่คะ แล้วอีกอย่างก็ชอบกินลาเต้กับเค้กวานิลาที่ร้านคุณด้วย รสชาติเข้ากันมากเลยค่ะ ฉันเคยลองไปกินร้านอื่นแล้ว ไม่เห็นอร่อยแบบนี้”
“ถ้ามันอร่อยถูกใจคุณขนาดนั้น แล้วทำไมต้องไปลองกินที่ร้านอื่นด้วยล่ะครับ”
“ที่พูดแบบนี้นี่ ไม่ได้งอนกันใช่ไหมคะ” เพชรพราวถามกลั้วหัวเราะ
“ถ้าให้ตอบตามตรงก็ไม่ได้งอนครับ แต่ถ้าคุณเพชรจะง้อ ผมงอนก็ได้”
“โถ่... อย่างอนเลยค่ะ เพราะฉันง้อคนไม่เก่ง และบางทีก็ไม่คิดจะง้อด้วย” หญิงสาวสารภาพตามตรง แล้วมองไปที่โทรศัพท์มือถือของเขาด้วยความสนใจ
...ก็จะไม่ให้สนได้ยังไง เคสโทรศัพท์ของเขาเป็นสีชมพูพาสเทลหวานแหววซะขนาดนั้น
“ผมชอบสีชมพู” น่านนทีบอกยิ้มๆ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวตรงหน้าจ้องเคสโทรศัพท์ของเขาไม่วางตา
“สีสวยดีนะคะ”
“ใช่ครับ คุณเพชรก็ชอบสีชมพูเหมือนกันหรอ”
“เปล่าค่ะ ฉันชอบสีม่วง” เธอตอบเขา แล้วยิ้มจนตาหยี ก่อนจะตักเค้กวานิลลาเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“แหม... ชอบสีแม่หม้ายซะด้วย”
แค่กๆ
เพชรพราวไอขึ้นเบาๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าขนมเค้กที่พึ่งกินเข้าไปกำลังติดคอ เพราะประโยคเมื่อสักครู่ของเขา
“แต่ฉันไม่ได้เป็นแม่หม้ายนะคะ” มัณฑนากรสาวบอกกลั้วหัวเราะ หลังจากที่เธอดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก
“ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละครับ เพราะคนที่สามีเสียชีวิต เขาคงไม่ร่าเริงแบบคุณ”
“อันนี้ไม่ได้กวนใช่ไหมคะ” เธอถาม แล้วมองหน้าเขานิ่ง
“จริงๆ ผมตั้งใจจะกวนคุณนะ แต่ดูเหมือนมันจะไม่เวิร์ค” คนตัวโตยอมรับ แล้วยิ้มแหยๆ ส่งให้เธอเพื่อเป็นการขอโทษขอโพย