บท
ตั้งค่า

6 ครบรอบหนึ่งปี

เสียงกดคีย์บอร์ดดังอย่างต่อเนื่อง ที่ด้านนอกฝนกำลังตก ไม่ทันไรก็ผ่านไปหนึ่งปี และก็ถึงฤดูฝนอีกครั้ง คาริสาขยับแว่นตาขึ้น ตามด้วยการกัดเล็บที่ชอบทำเป็นประจำเวลาที่ต้องใช้ความคิด เธอได้เริ่มงานในเส้นทางนักเขียนนิยายออนไลน์มาหนึ่งปีเต็ม มีคนติดตามเธออยู่กระหยิบมือ หาเงินด้วยการติดเหรียญรายตอนและการขายอีบุค นี่คืองานของเธอ เป็นงานที่ได้ทั้งเงินและได้ทำตามความฝันในเวลาเดียวกัน เธอรักงานนี้…ถึงแม้รายได้ของมันจะน้อยจนต้องถามว่านี่เงินเดือนหรือตังค์ทอนก็ตาม

ในแต่ละวันคาริสาไม่ทำอะไร นอกจากตื่นมาแล้วก็มานั่งจดจ่ออยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่คีตะซื้อให้เมื่อปีก่อน เธอใช้เวลาในการเขียนนิยายทั้งวัน บางวันแทบไม่กินข้าวกินปลา พอเขียนไม่ออก สมองเริ่มตีบตัน เธอก็จะลุกไปดูต้นไม้ฟอกอากาศที่เลี้ยงไว้ ก่อนจะกลับมานั่งไล่อ่านคอมเมนท์จากนักอ่านที่จะมีเพียงคนหรือสองคนเท่านั้นที่มาคอมเมนท์

“เส้นเรื่องโคตรห่วย พระเอกงี่เง่า นางเอกหาผัวใหม่เถอะ หรือไม่ก็ให้คนแต่งไปเรียนมาใหม่ บาย…ไม่อ่านแล้วเรื่องนี้ โคตรไม่สนุก” เรียวปากเล็กอ่านคอมเมนท์ของนักเขียน ดวงตากลมโตส่อแววผิดหวังขึ้นมา

“ไม่สนุกก็ไม่ต้องอ่านสิ! จะมาด่าทำไมวะ!” เธอตะคอกเสียงดัง

ปัก!

คนหัวร้อนถอดแว่นสายตาโยนลงบนโต๊ะ แล้วถอนหายใจออกมา หนึ่งปีเต็มที่เธอทนทำงานนี้เพราะคิดว่ามันสิ่งที่เธอรัก แต่เธอก็ต้องทนกับสิ่งเหล่านี้ คอมเมนท์แย่ๆ ซึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่าแค่เขาคอมเมนท์ก็ดีอยู่แล้ว อย่างน้อยเธอก็ได้รู้ว่างานเขียนของเธอมันไม่สนุกและห่วยแตก ดีกว่าที่ไม่มีตคอมเมนท์อะไรเลย

“ชิ! เดือนนี้ยังได้ไม่ถึงสองพันเลย ช่วยค่าไฟกับค่าอินเทอร์เน็ตพี่คีย์ไม่ได้ด้วยซ้ำ! ห่วยแตกเป็นบ้าเลยริสา!” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอบ่นกับตัวเอง สุดท้ายพอเกิดอาการพารานอยด์ เธอก็เลือกที่จะไปทิ้งตัวนอนบนเตียง หยิบมือถือขึ้นมาเล่น

LINE

KanomJeen : ส่งรูปภาพ

KanomJeen : ช่วยฉันเลือกหน่อยว่าจะเอาสีอะไรดี

ขนมจีน เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของคาริสา ส่งรูปกระเป๋าแบรนด์เนมมาให้เธอช่วยเลือกสี พอได้เห็นแบบนั้นหญิงสาวก็ต้องถอนหายใจออกมาอีกครั้ง พิมพ์ตอบกลับไปว่าสวยทั้งสองสี ในใจได้แต่คิดว่าเธอเองก็อยากได้…ติดอยู่เพียงอย่างเดียวคือเธอไม่มีเงิน ถ้าเป็นเมื่อก่อน คงกวาดมาแล้วทุกสี และคงไม่ต้องมาง้อรอให้นักอ่านยอมซื้อเหรียญนิยายแบบนี้

หนึ่งปีที่ผ่านมาเธอได้เรียนรู้แล้วว่าการหาเงินมันลำบากแค่ไหน การวิ่งตามความฝันเองก็ทรหดไม่ต่างกัน สิ่งเดียวที่ฉุดรั้งเธอไว้ได้คือคีตะ เขารักเธอมาก ดูแลเธออย่างดี เอาใจใส่เธอทุกอย่าง เขาทำงานหนัก…จ่ายทั้งค่าเช่าห้อง ค่ากินอยู่ของเธอ เวลาเธออยากได้อะไรเขาก็ซื้อให้ ยอมซื้อให้ทั้งๆที่เขาก็แทบไม่มีเงิน กลางวันเขายังคงทำงานที่คาเฟ่ ตกกลางคืนก็ยังต้องไปเล่นเพลงที่คลับ เขาแทบไม่มีเวลานอน…คาริสาอดคิดไม่ได้ว่าเธอมาเพื่อเป็นภาระของเขาจริงๆ

“หรือฉันควรพักความฝันแล้วไปหางานทำดีนะ?” เธอคิดเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่าสิบครั้งในรอบเดือน คิดทุกครั้งที่เห็นรายได้หลักร้อยปลายๆหรือหลักพันต้นๆ ความฝันมันย่อมมีราคา เรื่องนี้เธอรู้…แต่ถ้าเธอยอมไปทำงานอื่น เธออาจจะได้กินสตาร์บัคเหมือนเมื่อก่อน หรือไม่ก็จะมีเงินไปซื้อเครื่องสำอางหรือกระเป๋ารองเท้าที่เคยชอบ

“แต่ถ้าพี่คีย์รู้…เขาต้องไม่ยอมแน่”

“ใช่ พี่ไม่ยอม จะไปทำงานทำไม?” ในตอนนั้นเสียงของคีตะก็ดังขึ้น ทำเอาคาริสาต้องเด้งตัวลุกขึ้นมานั่งบนเตียง

“พี่คีย์?! มาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?”

“สักพักแล้ว…ริสาคิดจะไปหางานทำอีกแล้วใช่ไหม?” คีตะวางกุญแจห้องและกระเป๋าสะพายลงบนโต๊ะ แล้วเข้ามานั่งที่ข้างๆคาริสา มองดูเธอด้วยความเป็นห่วง

“อืม…พี่คีย์ยอมให้ริสาไปหางานทำเถอะนะ ริสาไม่ไหวแล้ว”

“ทำไม? มีเรื่องอะไรอีก? เจอคอมเมนท์แย่ๆอีกแล้วหรือไง?” เขารู้ รู้ว่ามันมีอยู่ไม่กี่เรื่องที่จะทำให้เธอนอยด์

“คอมเมนท์แย่ๆอะไม่เท่าไหร่หรอก ริสาห่วยเอง อันนั้นยอมรับได้ แต่สุดจะทนคือมันไม่มีคนมาเมนท์อะสิ แถมเงินเดือนนี้ก็น้อยกว่าเดือนที่แล้วอีก”

“บ่นแบบนี้มาสิบสองเดือนแล้วนะ” คีตะเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่เอื้อมมือไปลูบพวงแก้มเนียนใส

“ริสาสงสารพี่คีย์…” พอพูดถึงเรื่องนี้เธอก็เบะปากเหมือนจะร้องไห้ “ฮึก! พี่คีย์ทำงานหนัก หาเงินอยู่คนเดียว ริสาช่วยอะไรพี่คีย์ไม่ได้เลย”

“เราคุยเรื่องนี้กันไปแล้ว”

“พี่คีย์…บางทีริสาอาจจะไม่เหมาะกับการเป็นนักเขียนก็ได้นะ ฮึก! ริสาไปหางานอื่นทำดีกว่า”

“แล้วริสาจะไปทำอะไร?”

“ไม่รู้…พวกงานออฟฟิศก็ได้…”

“มันเหนื่อย เครียดด้วย แล้วมันก็จะทำให้ริสาไม่มีเวลาเขียนนิยายอีก…ริสาจะห่างไกลความฝัน พี่ไม่อยากให้ริสาทำแบบนั้น เมียพี่คนเดียว…พี่เลี้ยงได้ เชื่อพี่นะ…ลองอดทนดูอีกสักตั้ง…ลองหาดูว่านิยายแนวไหนที่คนอ่านกันเยอะๆ ริสาเองก็อ่านนิยายเยอะนี่…ตัวเองชอบอ่านแนวไหนล่ะ?”

“…” คาริสานิ่งเงียบ ปล่อยให้น้ำตาร่วงหล่น คีตะมักจะคอยให้กำลังใจเธอเสมอ เขาไม่เคยแสดงออกว่าเครียดหรือเหนื่อย มีแต่เธอคนเดียวที่มักจะเอาพลังลบๆไปทุ่มใส่เขา

“ริสา…อย่าร้องไห้ อดทนไว้…ความฝันมันอยู่ไม่ไกลหรอก ริสาบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเราจะไปคว้ามันไว้ด้วยกัน”

“ฮึก! ริสาไม่เคยช่วยอะไรพี่คีย์เลย มีแต่หาภาระมาให้ ริสาขอโทษ”

“แล้วพี่เคยว่าอะไรหรือไง?”

“ฮึก!” เธอโผเข้ากอดเขา การได้อยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเขา มันคือความสุขหนึ่งของเธอ เธอยอมที่จะไม่กินข้าว…หากว่ามันต้องแลกกับอ้อมกอดนี้ “ริสารักพี่คีย์นะ…รักมาก”

“พี่ก็รักริสา…แต่พี่ว่าริสาต้องลืมแน่ๆว่าวันนี้วันอะไร…”

“วันนี้เหรอ?” หญิงสาวกลอกตาไปมาก่อนจะส่ายหน้า

“ครบรอบหนึ่งปีของเราไง”

“จริงด้วย! วันนี้วันครบรอบที่เราคบกันนี่!”

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าสิ…ออกไปหาอะไรกินกัน”

“แล้วพี่คีย์ไม่ต้องไปทำงานเหรอ?”

“วันนี้พี่หยุด วันครบรอบทั้งที…จะไปทำงานได้ไงล่ะ”

“แต่ข้างนอกฝนตกนะ…เราจะไปกันยังไง?” คีตะมีแค่มอเตอร์ไซค์คันเดียว ถ้าไปทั้งแบบนั้นมีหวังได้เปียกจนเป็นไข้ ก่อนที่จะได้ฉลองครบรอบหนึ่งปีพอดี

“เถอะน่ะ…ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อย่างน้อยก็ไปใส่เสื้อในซะ จุกโผล่เนี่ย…” เขาเอ่ยพร้อมกับเขี่ยยอดอกที่นูนจนพ้นเสื้อยืดสีขาวออกมา

“งื้อ!”

คาริสากลอกตามองบน เมื่อสถานที่เดตครบรอบหนึ่งของเธอกับคีตะก็คือบนดาดฟ้าของอพาร์ทเมนท์ เขาพาเธอมานั่งใต้หลังคาที่ยื่นออกมา ที่ด้านนอกยังมีฝนตกโปรยปราย หยิบเอาเบียร์ขึ้นมาจากลังโฟมเก็บความเย็น ที่จริงเขาแอบมาเตรียมการไว้แล้วก่อนที่ไปหาเธอ ที่ตรงนี้เลยมีทั้งเบียร์และไก่ทอด ลูกชิ้นทอด ของกินราคาไม่แพงที่หาซื้อได้ตามข้างถนนทั่วไป

“นี่เดตของเราเหรอ?” คาริสาเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม

“อืม…คงไม่ได้คิดว่าพี่จะพาไปร้านหรูๆหรอกใช่ไหม?”

“ก็ไม่คิดว่าต้องเป็นร้านหรูๆหรอก แต่คิดว่ามันน่าจะดีกว่านี้หน่อย แต่เอาจริงๆนะพี่คีย์…แค่นี้ก็ดีมากแล้วล่ะ เราไม่ควรเปลืองเงินกับเรื่องแบบนี้”

“ที่จริงมันก็มีพอมีนะ ของดีๆน่ะ” คีตะเปิดกระเปิดเบียร์แล้วยื่นให้คาริสา ก่อนที่เขาจะหยิบบางอย่างออกมาจากใต้ที่นั่ง

“อะไรอะพี่คีย์?”

“พี่เห็นริสาดูมันหลายครั้งแล้ว…เลยคิดว่าริสาคงอยากได้” เขาเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนจะหยิบเอากล่องไอแพดพร้อมปากกาและคีย์บอร์ดออกมาจากถุงกระดาษ เปิดมันออกให้เธอดู

“พี่คีย์…”

“พี่รู้ว่าบางทีอยู่แต่ในห้องมันอุดอู้ ริสาอาจจะคิดงานไม่ออก แต่จะออกไปทำงานข้างนอกก็ไม่ได้ เพราะยกคอมไปก็ลำบาก ไอแพดนี่เวิร์คที่สุดแล้ว พกพาง่าย มีคีย์บอร์ดด้วย แล้วก็นี่ปากกา…เอาไว้จดหรือวาดรูปก็ได้”

“ฮึก! พี่คีย์…นี่มันแพงมากเลยนะ” เธอรู้ราคาของสิ่งเหล่านี้ดี ถึงมันจะดีแค่ไหน แต่ราคาก็สูงขึ้นตามคุณสมบัติของมัน

“มันสำคัญ ริสาต้องใช้”

“พี่คีย์อย่าดีเกินไปได้ไหม? ทำแบบนี้ริสายิ่งรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า” คาริสาร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “ฮึก! ดูสิ…ริสาไม่มีอะไรให้พี่คีย์เลย”

“ริสาจะไร้ค่าได้ไง? ในเมื่อริสามีความหมายและมีค่ามากสำหรับพี่ แล้วริสาก็ไม่ต้องให้อะไรพี่ทั้งนั้น…แค่อย่าละทิ้งความฝัน แค่อดทนและรักพี่แบบนี้ไปตลอด…”

“รักสิ! รักเหมือนจะเป็นบ้าเลยรู้ไหม?!”

“ดีมากเมียพี่!”

“ขอจูบหน่อย…” ว่าแล้วร่างบางก็ลุกขึ้นไปนั่งคร่อมร่างสูง โอบรอบคอเขา สบตาเขาพร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนน้ำตา

“ขอมากกว่าจูบก็ได้นะ…” เขาเอ่ยตอบ ก่อนที่ทั้งสองจะจูบกันอย่างแนบแน่นและอบอวลไปด้วยความรักความถวิลหาซึ่งกันและกัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel