ตอนที่ 5 “หอจินเซ่อ”
ห้องโถงใหญ่
“ท่านแม่เสร็จแล้วหรือเจ้าคะ”
“ใช่เจ้าไปไหนมาพวกเรากำลังจะกลับกันแล้ว คืนนี้จะมีงานเลี้ยง… เหตุใดเจ้าถึงได้หน้าซีดเช่นนั้นเป็นอะไรไป”
“นั่นสิน้องรองเจ้าเป็นอะไรไปน่ะ ทำไมหน้าตาตื่นแบบนั้น”
“ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ เรารีบกลับกันดีกว่า”
เล่อชุนหลันใช้เหตุผลนี้ไม่ไปร่วมงานเลี้ยงในตอนเย็น นางรู้ว่าเหตุการณ์ในงานเลี้ยงตอนเย็นจะเกิดอะไรขึ้น
“จินถิงข้าอยากออกไปเดินเล่นสักหน่อย ไปเป็นเพื่อนข้าทีสิ”
“คุณหนูท่านบอกว่าอยากพักผ่อนนี่เจ้าค่ะ”
“เดินเล่นก็ถือว่าพักผ่อนมิใช่หรือ ที่สำคัญตอนเย็นข้าไม่ไปร่วมงานเลี้ยงแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวอะไร”
“เจ้าค่ะ”
ตลาดเมืองเหลียงโจว
เล่อชุนหลันใช้เวลาเดินในตลาดและค่อย ๆ ซึมซับความรู้สึกที่หายใจโล่งมากขึ้นให้เต็มที่ นานแค่ไหนกันแล้วนะที่นางไม่ได้ออกมาเดินเล่นเช่นนี้ ก่อนหน้านั้นทั้งชีวิตนางเฝ้าเพียรแต่ร่ำเรียนจนมีทักษะที่ยอดเยี่ยมในทุก ๆ ด้านเพื่อให้เป็นสตรีที่เหมาะสมกับท่านอ๋องแม่ทัพแห่งดินแดนบูรพา ใครจะคิดว่าหลังจากอภิเษกไปแล้วนางจะกลายเป็นพระชายาที่ไร้ค่าอยู่ในตำหนักหลังที่เยือกเย็นนั่น
“ในเมืองยังคึกคักเช่นเดิม”
“คุณหนูวันนี้ท่านทำท่าทางแปลก ๆ นะเจ้าคะ”
“แปลกอย่างไรหรือจินถิง”
“ท่านพูดน้อยลงและดูโตขึ้นกว่าที่ข้ารู้จัก เมื่อคืนท่านฝันเห็นอะไรกันแน่เจ้าคะ”
“โตขึ้นงั้นหรือ นั่นสินะเมื่อมองเห็นทุกอย่างมากขึ้นย่อมโตขึ้นเป็นธรรมดา เอ๊ะนี่โรงละครนี่นาจำได้ว่าข้าเคยชอบมาก ไปกันเถอะจินถิง”
“เจ้าค่ะ”
พวกนางชอบดูละครมากแต่หลังจากเข้าตำหนักอ๋องที่เยือกเย็นนั่นแล้วก็ไม่เคยมีโอกาสได้ออกมาฟังละครอีกเลย เมื่อได้ที่นั่งแล้วทั้งคู่ก็นั่งฟังไปพร้อมกับจิบชาไปด้วยโดยไม่ทันได้สังเกตว่าที่นี่ในตอนนี้นางมิได้อยู่ลำพัง
“ท่านอ๋อง รายงานบอกว่าพวกมันจะมาที่นัดพบเพื่อลอบส่งข่าวกันนี่แต่กระหม่อมไม่ทราบว่าจะเป็นแขกหรือว่า…”
“คอยดูเงียบ ๆ สังเกตให้ดี ๆ ผิวของคนพวกนี้จะคล้ำกว่าปกติที่ไม่ใช่เพราะแดด สายตาแข็งกระด้างและพูดไม่ชัดหากพวกเจ้าเห็นจะรู้ได้ทันที”
""พ่ะย่ะค่ะ""
หยางอี้เหรินในใชุดลำลองสีขาวแบบรัดกุมนั่งอยู่อีกฝั่งของ “หอจินเซ่อ” ที่นี่เป็นโรงน้ำชาใหญ่ที่มักจะมีละครมาเล่นให้แขกฟัง เขามาที่นี่เพื่อจับตัวสายลับต่างแคว้นที่ลอบเข้ามาในเหลียงโจวตามรายงานลับที่ถูกส่งเข้ามาจากชายแดน
“เสิ่นปา”
“พ่ะย่ะค่ะ”
“ให้คนของเราดูแลรอบ ๆ ให้ดีอย่าให้ผู้คนแตกตื่น หากพบตัวก็ให้เงียบเอาไว้และจัดการเงียบ ๆ”
“พ่ะย่ะค่ะ… ท่านอ๋อง นั่นบุตรีของท่านเสนาบดีเล่อพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ เหตุใดนางจึงมาที่นี่!”
เขามองตามคำบอกขององครักษ์ทันทีเมื่อมองไปที่ชั้นสองฝั่งตรงข้ามก็เห็นเล่อชุนหลันที่นั่งฟังละครอยู่จริง ๆ
“เพิ่มการคุ้มกัน อย่าให้นางได้รับอันตราย”
“พ่ะย่ะค่ะ”
แม้ว่าจะสงสัยแต่เสิ่นปาก็มิได้ถาม เขาเดินไปและสั่งให้คนของตัวเองเพิ่มการคุ้มกันให้กับเล่อชุนหลันตามคำสั่งท่านอ๋อง
“ไม่เห็นสนุกเลย”
“คุณหนูท่านไม่ชอบหรือเจ้าคะ ปกติแล้วท่านชอบดูนี่เจ้าคะ”
(ข้าในตอนนั้นก็ไร้สาระใช้ได้เลยนะ นั่งฟังละครเช่นนี้ได้เป็นวัน ๆ)
“เรากลับกันเถอะ”
“เจ้าค่ะ”
นางให้จินถิงไปจ่ายเงินและค่อย ๆ เดินออกไปโดยไม่ได้สังเกตคนรอบ ๆ ท่านอ๋องเห็นว่านางกำลังจะเดินออกไปก็รู้สึกโล่งใจแต่ก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเสี่ยวเอ้อร์ของโรงน้ำชาที่กำลังเดินมาหาพวกนางนั้นทำตัวน่าสงสัย
“นี่เสี่ยวเอ้อร์ ค่าอาหาร”
คนผู้นั้นรับเงินของจินถิงไปทันทีจนนางนึกโมโหเพราะความไร้มารยาทนางจึงโวยวายขึ้น ชุนหลันได้ยินเสียงสาวใช้จึงหันมาดู
“นี่เจ้าเหตุใดจึงได้ดึงเงินไปจากมือข้าเช่นนี้ไม่เอาถาดมารับ ทำไมไร้มารยาทแบบนี้”
แต่คนผู้นั้นไม่พูดและเพียงแค่ก้มให้นางและจะเดินไป
“นี่!”
“จินถิง เกิดอะไรขึ้น”
“คุณหนู คนผู้นั้นเจ้าค่ะ”
“แม่นางทั้งสองเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ”
เถ้าแก่ของร้านรีบเข้ามาในทันทีเพราะเขารู้จักเล่อชุนหลันที่เป็นบุตรีของเสนาบดีเล่อ
“คุณหนูเล่อเกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ”
“เถ้าแก่เสี่ยวเอ้อร์คนนั้นไม่มีมารยาทเลยเขาดึงเงินจากข้าไปโดยไม่ขอบคุณสักคำ”
“เอ่อ เจ้าน่ะ…หันมานี่สิ”
ทันทีที่เสี่ยวเอ้อร์หันมาเขาก็คว้าคอของจินถิงทันที เกิดความชุลมุนขึ้นเมื่อคนร้ายดึงมีดออกมา เสิ่นกงที่อยู่ด้านหลังรีบวิ่งขึ้นมา ท่านอ๋องเห็นแล้วว่าคนร้ายคือใครและเริ่มโจมตีแต่ไม่ทันเล่อชุนหลันที่ใช้ผงบางอย่างสาดไปที่คนผู้นั้น
“โอ๊ย!! นี่มันผงอะไร!!”
“สำเนียงแบบนั้นไม่ผิดแน่ ไปจับมา!!”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ชุนหลันดึงจินถิงออกมาและรีบวิ่งหนีออกมาทันทีโดยไม่ได้มองว่าใครอยู่ด้านหลัง เกิดเสียงต่อสู้ขึ้นแต่พวกนางวิ่งหนีเอาตัวรอดอย่างเดียวจนพบกับคนร้ายที่หน้าประตูอีกสองคน
“จะไปไหนงั้นหรือคุณหนู”
“จินถิงเจ้าหลบไป”
“ไม่เจ้าค่ะ”
“ข้าบอกให้หลบไปอย่าเกะกะข้า”
ชุนหลันพอจะมีวรยุทธ์อยู่บ้างเพราะเคยฝึกดาบกับพี่ใหญ่ของนางและขี่ม้ายิงธนู นางพอจะรู้เพลงดาบเมื่อพวกมันเริ่มโจมตีนางก็เริ่มสู้ จินถิงตะโกนร้องให้ช่วย หยางอี้เหรินที่อยู่ชั้นบนเมื่อเห็นจึงรีบลงมาช่วยนางทันที
“เสิ่นกงรีบพาสาวใช้หลีกไปก่อน”
จินถิงถูกพวกมันรุมและผลักนางจนกระเด็น ท่านอ๋องรับนางเอาไว้ได้และหันไปฟาดทั้งคู่ร่วงในหมัดเดียว เขาอุ้มนางเอาไว้และค่อย ๆ วางลง
“เจ้าไม่เป็นไรนะ”
“ท่านอ๋อง!!”
“หลบไปก่อนที่นี่อันตราย”
ชุนหลันหาที่หลบทันทีตามคำสั่ง นางไม่ได้อยากต่อสู้แค่อยากเอาตัวรอดแต่ใครจะคิดว่าจู่ ๆ จะมาเจอคนร้ายเช่นนี้ เหตุการณ์เช่นนี้นางไม่เคยพบในชาติก่อนแม้ว่าในช่วงเวลานี้มักจะมีคนจับสายลับต่างแคว้นได้แต่นางก็แค่ได้ยินเท่านั้นไม่เคยเจอกับตัว
“พาพวกนางหลบไป!!”
“คุณหนูพวกท่านรีบมาตรงนี้”
“แต่ว่าท่านอ๋อง...”
“ไม่ต้องห่วงขอรับ”
ไม่นานเสิ่นกงก็ต้องรีบไปช่วยท่านอ๋อง ชุนหลันเห็นช่องทางหนีนางกับจินถิงจึงวิ่งออกไปแต่คนร้ายที่เห็นนางแล้วจึงรีบจับตัวนางมาทันที
“หยุด!! ไม่งั้นนังนี่ตาย!!”
“คุณหนู!! ช่วยคุณหนูข้าด้วยเจ้าค่ะ”
“ปล่อยข้านะ”
“อย่าดิ้น!”
คนร้ายข่มขู่นางด้วยน้ำเสียงและสำเนียงแปลก ๆ ที่นางไม่คุ้นนั่นแสดงว่าพวกมันไม่ใช่คนเหลียงโจวแต่เป็นคนที่อื่น เหตุเพราะนางไม่อยู่ในจวนเหตุการณ์จึงเปลี่ยนไปงั้นหรือนี่
“เล่อชุนหลัน”
“ทิ้งอาวุธไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่านาง”
“เจ้าขู่ผู้ใดกัน เจ้ามองไม่เห็นหรือว่าตรงหน้าเจ้าคือผู้ใด”
“อย่าพูดมาก”
“นี่ข้าจะบอกอะไรให้เจ้ารู้ไว้นะ ข้ากับเขาเป็นศัตรูกันเจ้าจับผิดคนเสียแล้วล่ะ”
“อย่ามาเล่นลิ้นกับข้านังตัวดี ข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก”
“ไม่เชื่อหรือ เจ้ามองสิเขาสนใจใครที่ไหนกันเจ้ามองดูดี ๆ เจ้ารู้จักเขานี่ ชินหยางอ๋องผู้นี้มีหัวใจที่ไหนกันเข้าไม่สนใจเพราะข้ามิใช่สตรีของเขา และที่สำคัญเขาก็เกลียดข้ามากหากว่าข้าตาย… เขาคงจะดีใจมากกว่าพวกเจ้าเสียอีก”
หยางอี้เหรินไม่รู้ว่านางพูดอะไรกับคนร้าย แต่เขารู้สึกว่ามันกำลังฟังนางอย่างตั้งใจซึ่งเขาไม่ชอบและไม่อยากให้มันแตะต้องแม้แต่ปลายเส้นผมของนาง
“เจ้าพูดจริงหรือ”
“ไม่อย่างนั้นเขาจะปล่อยให้เจ้าจับข้าได้งั้นหรือ ข้านี่มันอาภัพนักดันไปรักคนที่ไม่สมควรรัก”
“ไร้ประโยชน์ เช่นนี้จะเก็บเจ้าไว้ทำไม”
“เก็บไว้เป็นแม่เจ้าอย่างไรเล่า!!”
เล่อชุนหลันกระทุ้งศอกไปสุดแรงที่ท้องของคนร้ายและดึงแขนลงมาก่อนจะหมุนตัวและล็อกแขนคนร้ายเอาไว้
“เจ้า!!”
นางใช้ผงแป้งที่มักพกติดตัวเอาไว้ปาใส่คนร้ายอีกครั้ง มือหนึ่งดึงนางออกมาจากคนร้ายซึ่งไม่รู้ว่าเป็นผู้ใดแต่นางรู้ว่าเขาน่าจะเป็นคนช่วยนางเอาไว้
“นังสารเลว!!”
“ชุนหลันระวัง!!”
มีดสั้นในมือของคนร้ายพุ่งมาตามหลังแต่คนที่โดนคมมีดนั้นกลับไม่ใช่นาง ชุนหลันรู้สึกถึงร่างหนาของใครสักคนที่โอบรัดนางเอาไว้ก่อนจะหันไปและใช้ดาบให้มือฟาดไปเพียงครั้งเดียว เสียงทุกอย่างก็เงียบลงมารู้ตัวอีกทีก็เมื่อร่างหนานั้นก้มลงมาด้วยเสียงแหบพร่า
“เจ้าปลอดภัยดีหรือไม่ บาดเจ็บ… ที่ใดหรือเปล่าเล่อ…ชุนหลัน”
“ท่านอ๋อง!!”