บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 สู่จุดเริ่มต้น

บทที่ 1

สู่จุดเริ่มต้น

ในวันที่หิมะสีขาวโพลนตกลงมาโปรยปรายอย่างหนัก ท่ามกลางดวงจันทร์ที่สาดแสงเข้ามายังห้องหนังสือ โฉมสะคราญแห่งเมืองหลวงของแคว้นลั่วหยางได้เยื้องย่างเข้ามายังห้องหนังสือของจวนจวิ้นอ๋อง

“เจ้ามาแล้วหรือคุณหนูเย่ นั่งก่อนสิ”

‘กงเฟยหรง’ ผายมือให้นางนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องหนังสือของเขา วันนี้เขานึกแปลกใจว่าเพราะเหตุใดนางถึงมาหาเขาในยามพลบค่ำ หรือว่านางจะมีเรื่องทุกข์ใจ เหตุเพราะหลานชายของเขากัน

ใจบุรุษรู้สึกร้อนรนขึ้นมาด้วยความเป็นห่วงสตรีตรงหน้า

“หม่อมฉันนำยาบำรุงมาถวายเพคะ ได้ข่าวว่าจวิ้นอ๋องทรงประชวรเพราะอากาศเย็นลงเพคะ”

น้ำเสียงของนางสั่นเทาเล็กน้อย แววตาคู่สวยหลุกหลิกไปมา นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเขาด้วยความละอายในจิตใจ

กงเฟยหรงมองเย่ปิงปิงด้วยรอยยิ้มอบอุ่น เขารู้ดีว่าวันนี้คงจะมาถึงสักวันหนึ่ง ในเมื่อนางตัดสินใจเช่นนี้ เขาก็พร้อมจะน้อมรับการตัดสินใจของนาง ครั้งหนึ่งนางเคยช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ หากครั้งนี้นางจะมาขอชีวิตของเขาคืน เขาก็พร้อมยกให้นางแต่โดยดี

“ขอบใจเจ้ามากคุณหนูเย่ ข้าจะดื่มให้หมดเลย”

กงเฟยหรงรับถ้วยยามาจากมือเล็กของเย่ปิงปิง เขาส่งยิ้มให้กับนางเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะตักยาในถ้วยเอาเข้าปาก

แต่ในตอนนั้นเองเย่ปิงปิงกลับปัดช้อนของเขาตกลงกับพื้น ใบหน้าสวยหวานมองกงเฟยหรงด้วยความรู้สึกผิด

“มะ หม่อมฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ามันมีส่วนผสมที่จวิ้นอ๋องน่าจะเสวยไม่ได้เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันขอเอากลับไปดีกว่าเพคะ”

เย่ปิงปิงนึกเปลี่ยนใจขึ้นมาฉับพลัน นางรีบยกถ้วยยาบำรุงกลับไป หมายจะเอาไปทิ้งให้สิ้นซาก นางมิอาจจะสังหารบุรุษผู้นี้ได้จริง ๆ

“ปิงเอ๋อร์ เจ้าทำเช่นนี้ท่านอาจะเสียใจเอาได้นะ”

เสียงประตูถูกผลักเข้ามา พร้อมกับการปรากฏกายของหนึ่งบุรุษ และหนึ่งสตรีที่เย่ปิงปิงรู้จักเป็นอย่างดี

“องค์รัชทายาทมากับน้องสาวของหม่อมฉันได้อย่างไรเพคะ”

“พี่หญิงใหญ่นี่ช่างไม่รู้อะไรเสียบ้างเลยนะเจ้าคะ ข้ากับองค์รัชทายาทก็มารอชมผลงานของพี่หญิงใหญ่อย่างไรเล่า แต่ไม่คิดเลยว่าพี่หญิงใหญ่จะมีใจคิดเป็นอื่นเช่นนี้” นางหันมาเอ่ยกับองค์รัชทายาท “ดูสิเพคะองค์รัชทายาท หากพวกเราไม่มาดูด้วยตาตนเอง คงจะไม่รู้ว่าพี่หญิงใหญ่ของหม่อมฉันมีใจออกห่างพระองค์เสียแล้ว เช่นนี้เราจะทำอย่างไรกับคนทรยศดีเล่าเพคะ”

มุมปากของนางยกยิ้มด้วยความสาสมใจ วันนี้นางจะทำให้พี่สาวตัวดีต้องตายอยู่แทบเท้านางให้จงได้!!

“ไม่ใช่นะเพคะ หม่อมฉันไม่ได้ ไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย ตะ แต่ เราไม่ควรทำเช่นนี้กับจวิ้นอ๋อง อย่างไรพระองค์ก็ไม่มีอำนาจที่จะมาสั่นคลอนการขึ้นครองบัลลังก์ของพระองค์ได้ อีกอย่างตอนนี้จวิ้นอ๋องก็ทรงเดินไม่ได้แล้ว เหตุใดเราจะต้องปลิดชีพพระองค์ด้วยเล่า”

“เหตุใดเจ้าถึงโง่เขลาเช่นนี้เล่าปิงเอ๋อร์ ข้าสั่งให้เจ้าวางยาพิษเสด็จอาเจ้าก็แค่ทำตามคำสั่งของข้า ไยต้องมาพูดจาให้มากความด้วย หรือว่าแท้จริงแล้วเจ้ามีใจให้กับเสด็จอาผู้พิการของข้ากัน”

องค์รัชทายาทชี้หน้ามาทางเย่ปิงปิงด้วยความกรุ่นโกรธ ยิ่งเห็นสายตาที่มีแต่ความรักใคร่ของจวิ้นอ๋องที่มีให้แก่ว่าที่พระชายาของตน เขาก็ยิ่งไม่พอใจหนักขึ้นไปอีก

ปัง!!

“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!!”

จวิ้นอ๋องที่นั่งเงียบอยู่นานบนรถเข็น ตวาดก้องเสียงดังใส่หลานชายผู้ไม่รู้ความด้วยความโกรธ กล้ามาต่อว่านางต่อหน้าเขาได้อย่างไรกัน

“นี่อย่างไรเล่า เจ้ากับเสด็จอาลอบสวมหมวกเขียวให้ข้าใช่หรือไม่”

“พระองค์เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้วนะเพคะ”

เย่ปิงปิงมองชายคนรักด้วยความเสียใจ พระองค์คิดเช่นนี้กับนางได้อย่างไร ที่ผ่านมาที่นางต้องมือเปื้อนเลือดก็เพราะเขาไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงมาใส่ความนางเช่นนี้ได้ พระองค์ไม่เห็นความรักของนางเลยหรือไร

“องค์รัชทายาทตัดสินโทษทั้งสองเลยเพคะ จวิ้นอ๋องกับว่าที่พระชายาลอบสวมหมวกเขียวให้พระองค์ จะปล่อยให้พระองค์ถูกหมิ่นเกียรติไม่ได้นะ...”

เพียะ!!

เย่ปิงปิงตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของน้องสาวตัวดีด้วยความโกรธ

“เจ้ามันนังอสรพิษ ข้าไม่น่าเอ็นดูเจ้าอย่างน้องสาวเลย”

“หึ แล้วใครใช้ให้เจ้าโง่เขลาเช่นนี้เล่า โดนข้าหลอกใช้แล้วยังไม่รู้ตัวอีก นังโง่!”

เพียะ!!

ครานี้เย่ปิงปิงตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าของนางอีกครั้งด้วยความเหลืออด ในตอนที่นางจะเข้ามาตบหน้าของน้องสาวอีกครั้ง องค์รัชทายาทก็ได้เข้ามาผลักนางออกไป ร่างของเย่ปิงปิงล้มลงไปกับพื้นไม้อันเย็นเฉียบ องค์รัชทายาทรีบเข้ามากอดประคองดูหน้าของน้องสาวนางด้วยความทะนุถนอม

“ฮือ ๆ ท่านพี่ทำร้ายหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ยอมนะเพคะองค์รัชทายาท”

“โอ๋ ๆ อย่าได้เสียใจไปเลย ข้าย่อมต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าอย่างแน่นอน”

องค์รัชทายาทย่างกรายมาหมายจะตบหน้าเย่ปิงปิงเป็นการสั่งสอน แต่เขากลับถูกกงเฟยหรงซัดฝ่ามือใส่หน้าอกเต็มแรง ร่างของเขาลอยไปไกลจนกระแทกกับผนังห้องดังโครม!!

“อึก!”

องค์รัชทายาทกระอักเลือดออกมาคำโต เขามองจวิ้นอ๋องด้วยความเดือดดาล

“เข้ามา!!”

สิ้นเสียงขององค์รัชทายาท กลุ่มคนชุดดำที่ตรงปลายแขนเสื้อมีรูปนกอินทรีสีทองเปื้อนเลือดก็ตรงเข้ามาจัดการกับจวิ้นอ๋อง เย่ปิงปิงที่เห็นเช่นนั้นก็รีบร้องตะโกนให้ทุกคนหยุด

“ไม่ ไม่นะ หยุดเดี๋ยวนี้!!”

“หึ เจ้ายังกล้าอีกนะ เสียดายที่ข้าหมายให้เจ้าเป็นพระชายา แต่เจ้ากลับคิดทรยศข้า”

“ไม่ใช่นะเพคะ ไม่ อึก!”

ดาบเล่มยาวที่เขาเอามาจากคนชุดดำ แทงไปยังท้องของเย่ปิงปิงเต็มแรง เลือดสีแดงฉานไหลนองเต็มพื้นห้อง อาบย้อมอาภรณ์ของนางจนเปียกชุ่ม กลิ่นเลือดลอยคละคลุ้งไปทั่วห้องหนังสือ พร้อมกับการต่อสู้ระหว่างจวิ้นอ๋องกับคนชุดดำ

เคร้ง เคร้ง ตุ๊บ!!

จวิ้นอ๋องทรงต่อสู้กับคนชุดดำเต็มกำลัง ถึงขาของเขาจะไม่สามารถเดินได้ แต่วรยุทธ์ของเขาก็เป็นเลิศ แค่คนชุดดำกลุ่มนี้ไม่คณนามือของเขาหรอก เว้นเสียแต่เมื่อเขาต้องมาเห็นเย่ปิงปิงที่ถูกแทงจนสติของนางพร่าเลือน การเคลื่อนไหวของเขาพลันสะดุดไป

“ปิงเอ๋อร์ ไม่นะ!!”

กงเฟยหรงเข็นรถเข็นตรงเข้ามาหาร่างของเย่ปิงปิงด้วยความเป็นห่วง ในตอนนั้นเองที่เขาเผลอปล่อยช่องโหว่ ทำให้คนชุดดำแทงดาบมาถูกแขนของเขา

ชายหนุ่มผู้สูงศักดิ์ทรุดลงไปกับพื้น ร่างของเขาตกลงจากรถเข็นมานอนข้างร่างของเย่ปิงปิง นางมองมาทางจวิ้นอ๋องด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

“มะ หม่อมฉัน ขะ ขอ ขอโทษ เพคะ”

นางกระอักเลือดออกมาคำโตในวาระสุดท้ายขอชีวิต เย่ปิงปิงรู้สึกเจ็บแค้นจนกระอักเลือดออกมา ดวงตาสีแดงฉานมองจวิ้นอ๋องด้วยความเสียใจ มององค์รัชทายาทกับน้องสาวด้วยความแค้นเคือง

‘ชาตินี้ข้าโง่เขลาเพราะมัวเมาในความรัก หากสวรรค์ยังเห็นความดีของข้าที่เคยทำไว้ โปรดให้ข้ากลับมาแก้แค้นพวกมันด้วยเถิด’

เย่ปิงปิงหลับตาลง พร้อมกับร่างของนางที่ดับสูญ...

“ไม่ ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ข้าไม่เคยแค้นเคืองเจ้าเลยปิงเอ๋อร์ของข้า”

จวิ้นอ๋องรู้สึกราวกับชีวิตของเขาพังทลายลงมา เขามองเจ้าหลานชายตัวดีด้วยความโกรธแค้น

“นางไปเยือนปรโลกแล้ว เสด็จอาก็รีบตามนางไปเถิดขอรับ”

จบคำองค์รัชทายาทก็ง้างดาบในมือขึ้นมา หมายจะสังหารจวิ้นอ๋องให้ดับสิ้นลงไปพร้อมกับเย่ปิงปิง...

เฮือก!!

หญิงสาวสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว สีหน้าของนางฉายชัดถึงความหวาดหวั่น ดวงตาคู่สวยกะพริบปริบ ๆ พลางกวาดสายตามองโดยรอบด้วยความฉงน พลันสายตาไปสะดุดกับกล่องไม้ที่วางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง นางรีบคว้ากล่องไม้ขึ้นมาเปิดออกดูในทันใด

ภายในกล่องมีปิ่นหยกเนื้อดี ที่แกะสลักเป็นนกยูงรำแพนหางได้อย่างวิจิตรงดงาม นางลูบคลำปิ่นนกยูงด้วยความคะนึงหา ทั้งอาลัยอาวรณ์และรู้สึกผิดในคราวเดียวกัน หยาดน้ำตาสีใสร่วงเผาะลงมาไม่ขาดสาย

“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ บ่าวขอเข้าไปนะเจ้าคะ”

“อือ เข้ามาได้”

นางรีบเช็ดน้ำตาออกไป ก่อนที่สาวใช้ข้างกายจะเดินเข้ามาเห็นความผิดปกติ

“ข้าอายุเท่าไหร่หรือซีซี”

“อีกสามเดือนข้างหน้าคุณหนูก็จะอายุครบ 18 หนาวแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ฮูหยินใหญ่กำลังเร่งตระเตรียมจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้คุณหนูอยู่เจ้าค่ะ บ่าวได้ยินมาว่าองค์รัชทายาทจะเสด็จมาร่วมงานด้วยนะเจ้าคะ”

“งั้นหรือ องค์รัชทายาทจะเสด็จมาด้วยสินะ”

ซีซีไม่ได้รับรู้ถึงสายตาที่แข็งกร้าวของผู้เป็นนายเลย นางยังคงส่งเสียงเจื้อยแจ้วบอกเล่าเรื่องราวภายในจวนอย่างออกรส

“ตอนนี้คุณหนูรองก็กำลังหัดเล่นพิณ เพื่อใช้บรรเลงในงานวันเกิดของคุณหนูเหมือนกันเจ้าค่ะ ส่วนคุณชายใหญ่ก็ส่งจดหมายกลับมาว่าจะกลับมาทันงานวันเกิดของคุณหนูเจ้าค่ะ”

“อืม...ขอบใจเจ้ามาก เจ้าช่วยไปเตรียมชุดให้ข้าที ข้าจะไปขอพบท่านแม่รอง”

“เจ้าค่ะคุณหนู”

ซีซีแม้จะรู้สึกแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไป และใบหน้าที่ไร้ซึ่งความดีใจเมื่อเอ่ยถึงองค์รัชทายาท แต่นางก็คิดว่าคุณหนูคงเพิ่งจะตื่นนอน สติจึงยังมาไม่ครบถ้วนเท่านั้น

สาวใช้ตัวน้อยที่อายุไล่เลี่ยกับเจ้านายสาว เดินจากไปจัดเตรียมอาภรณ์ตามคำสั่งของเจ้านาย

เย่ปิงปิงเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง รอยยิ้มมุมปากกระตุกยิ้มเมื่อความปรารถนาของนางบรรลุผล หญิงสาวหลับตาลงหนึ่งคราก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ดวงตาคู่สวยมองขอบฟ้าด้วยแววตาแข็งกร้าวเย็นชา

บัดนี้นางรู้แล้วว่าสวรรค์ได้ให้โอกาสนางแก้ตัว และทวงคืนสิ่งที่ควรเป็นของนางจากพวกคนสารเลว และยังกลับมาเพื่อชดใช้ความผิดที่มีให้แก่บุรุษที่เคยพึงใจนางด้วย

เมื่อได้โอกาสกลับมาอีกครั้ง นางจะไม่เดินทางผิดเป็นอันขาด ศัตรูทั้งในที่ลับและที่แจ้งเตรียมตัวรอรับความพินาศได้เลย นางจะทำให้พวกมันอยู่มิสู้ตาย!!

และท่านอ๋องผู้ที่หวังดีกับนางเสมอมา นางจะชดใช้ให้เขาด้วยชีวิตของนางเช่นกัน!!

‘ข้ากลับมาแล้ว!!’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel