ตอนที่ 6 ฟ้อง
ด้านพริมาหลังจากเข้ามาภายในบ้านแล้วก็ทักทายมารดาของชายคนรักทันที แต่ยังไม่ทันได้คุยกันมาก รพีพัฒน์ก็เดินตามเข้ามาพร้อมทั้งมองค้อนทั้งแฟนสาวและมารดาตนทันที
“มองแม่แบบนี้หมายความว่ายังไงกันตาพี นี่แกหวงน้องกับแม่เหรอ ฉันเป็นแม่แกนะ!”
“แต่คนที่แม่กอดอยู่เป็นแฟนผมนะครับ!” ชายหนุ่มประท้วงเล็กน้อย รู้ว่าเป็นแม่แต่มันก็อดหวงไม่ได้ ก็ใครใช้ให้แฟนเขาน่ารักน่าเอ็นดูขนาดนี้กันเล่า มันก็เป็นธรรมดาที่เขาจะหวงเอาไว้กอดไว้หอมคนเดียว...
คุณรพีกลอกตามองบนเล็กน้อยให้กับความขี้หวงของบุตรชาย นิสัยแบบนี้คงเอามาจากใครไม่ได้นอกจากคุณพิพัฒน์บิดาของชายหนุ่มเอง “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะ เหมือนพ่อแกไม่มีผิด”
“อ้าวคุณ! เกี่ยวอะไรกับผมล่ะ ผมอยู่ของผมดี ๆ นะ” คุณพิพัฒน์ถามอย่างไม่เข้าใจ ซึ่งคุณรพีก็ตอบกลับไปทันทีว่า “ไม่รู้แหละ คุณเป็นพ่อลูกกันก็ต้องเหมือนกันนั่นแหละ ถูกแล้ว”
“แต่ผมก็ลูกแม่เหมือนกันนะครับ”
“หยุด! ฉันบอกว่าแกเหมือนพ่อของแกก็ต้องเหมือนสิ ฮึ่ม! หงุดหงิดจริง ๆ ไม่น่ารักว่าง่ายเหมือนหนูพริมของฉันเลย” คุณรพีพูดเสียงเขียวใส่บุตรชายก่อนหันมาทำเสียงเล็กเสียงน้อยกับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างพริมา
“ว่าแต่ว่าหนูพริมลูก ช่วงนี้หนูไม่ค่อยมาหาแม่เลยนะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่าลูก ถ้ามีอะไรบอกแม่ได้นะ แม่ช่วยได้เต็มที่”
“พริมไม่มีปัญหาอะไรค่ะคุณแม่ พอดีช่วงนี้พริมยุ่ง ๆ เรื่องโปรเจกต์ใหม่ของบริษัทน่ะค่ะ นี่ก็เพิ่งมีเวลาว่าง คาดว่าถ้าทุกอย่างไม่ผิดพลาดพริมก็จะได้พักแล้วละค่ะ ช่วงนี้พี่พีก็งอแงเหลือเกินค่ะคุณแม่ บอกว่าพริมไม่สนใจ ไม่มีเวลาให้อยู่บ่อย ๆ” พริมาอธิบายพร้อมฟ้องเล็กน้อยที่ถูกคนตัวโตงอแงใส่
“ก็มันจริงนี่นา ช่วงนี้พริมไม่มีเวลาให้พี่จริง ๆ เดือนนี้เราเจอกันไม่กี่ครั้งเองนะครับ”
“ตอนนี้พริมก็ว่างให้พี่พีแล้วนี่คะ”
“แค่ไม่กี่วันเท่านั้น อาทิตย์ที่แล้วพริมไปทำงานที่ต่างจังหวัดทั้งอาทิตย์เราไม่เจอกันเลยนะครับ ได้แค่โทรคุยกันแป๊บ ๆ ก็วางสายแล้ว ยังไม่ทันได้หายคิดถึงเลย พอตอนนี้พริมว่างก็ได้อยู่กับพี่แค่สามวัน วันนี้คุณแม่ก็มาแย่งพริมไปจากพี่อีก พี่ยังอยู่กับพริมไม่หนำใจเลยนะ ไม่สงสารพี่เหรอครับ” รพีพัฒน์พูดด้วยความน้อยใจ ถึงจะเข้าใจหน้าที่การงานของหญิงสาว แต่ว่ามันก็ห้ามความรู้สึกไม่ได้อยู่ดี นอกเหนือจากความน้อยใจคือเขาเป็นห่วงสุขภาพของหญิงสาว เพราะช่วงระยะเวลาสองสามเดือนให้หลังมานี้ เจ้าตัวทำงานหนักมากจริง ๆ เขาจึงอยากให้เธอมีเวลาบ้างจะได้พักผ่อนให้เต็มที่
พริมาได้ยินน้ำเสียงและสีหน้าของชายหนุ่มแล้วถึงกับใจอ่อนยวบ ทั้งเห็นใจแล้วก็เอ็นดูในเวลาเดียวกัน พี่พีของเธอก็เป็นแบบนี้ ขี้อ้อน ขี้น้อยใจ แต่ก็ไม่งี่เง่า ทั้งยังเข้าใจและห่วงใยเธอที่สุด
“ทนอีกหน่อยนะคะ อย่างที่พริมบอกถ้าโปรเจกต์ที่ว่าไม่มีอะไรผิดพลาด พริมสัญญาว่าพริมจะมีเวลาอยู่กับพี่พีเป็นเดือนเลยค่ะ” พริมาพูดความจริง เนื่องจากว่าเธอทำเรื่องขอลาพักร้อนไว้แล้วหนึ่งเดือน ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอจะหยุดพักร้อนได้ก็ต่อเมื่อโพรเจกต์ดังกล่าวไม่มีปัญหา
“พริมพูดจริงนะครับ”
“จริงสิคะ พริมเคยโกหกพี่พีเหรอ”
“พริมน่ารักที่สุด สัญญาแล้วนะครับ” ได้ยินคำยืนยันจากปากของหญิงสาวอาการคล้ายแมวถูกทิ้งก็ดี๊ด๊าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ1 ขึ้นมาทันใด โดยมีบิดามารดากลอกตาเบะปากด้วยความหมั่นไส้กับการแสดงออกของบุตรชาย
“พอได้แล้วตาพี เหม็นกลิ่นความรัก ไปหนูพริม ไปกับแม่ดีกว่า วันนี้แม่ได้นิยายเล่มใหม่มา หนูพริมไปอ่านกับแม่นะลูก ปล่อยตาพีไว้กับพ่อเขานี่แหละ” คุณรพีไม่รอช้า คว้าข้อมือพริมาเดินออกจากห้องรับแขกไปยังสวนหลังบ้าน ที่ตนได้สั่งให้แม่บ้านจัดเตรียมทั้งของกินเล่น และเล่มนิยายที่ซื้อมาใหม่ไว้รอเรียบร้อยแล้ว
“เฮ้อ คุณแม่ขโมยแฟนผมไปอีกแล้วครับคุณพ่อ” ชายหนุ่มพูดพลางส่ายหน้า คุณพิพัฒน์พยักหน้ารับก่อนตัดบทว่า “ปล่อยแม่แกไปเถอะ อารมณ์จะได้ดี ๆ ฉันจะได้ไม่ต้องมานั่งปวดหัว เรามาคุยกันเรื่องงานดีกว่า”
“ครับ” จากนั้นชายหนุ่มต่างวัยสองพ่อลูกก็จมไปในเนื้อหาของธุรกิจที่ต่างฝ่ายต่างช่วยกันระดมแลกเปลี่ยนความคิดจนเวลาล่วงเลยถึงตอนเย็น
ทั้งสี่คนนั่งทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างอบอุ่น แม่บ้านอิ่มมองภาพครอบครัวของเจ้านายด้วยรอยยิ้มเปี่ยมสุข นึกอยากให้
พริมาแต่งงานเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัวเลิศเกียรติคุณเร็ว ๆ จะได้มีเจ้านายตัวน้อยสักหลายคนมาคอยวิ่งเล่นให้ชุ่มชื่นหัวใจ หากวันนั้นมาถึงคาดว่าภายในรั้วคฤหาสน์เลิศเกียรติคุณคงมีแต่เสียงหัวเราะและความครึกครื้นเต็มไปด้วยความสดใสมากกว่านี้แน่ ๆ