6
หน้าใสใจทราม
“ขอบใจ” เขาตอบเสียงขรึม
“หวังว่าหนูคงจะไม่มารบกวนครูนะคะ”
“มีธุระอะไรสำคัญหรือเปล่า ปกติแล้วครูจะไม่รับแขกช่วงวันหยุด” กายสิทธิ์พูดออกมาตรง ๆ ใบหน้าเรียบสนิทของเขาทำให้สารภีรู้สึกว่าเขาหล่อเข้มเป็นที่สุด
“แหม... พูดเหมือนจะไล่ส้มจี๊ดกลับบ้านเลยนะคะ น่าน้อยใจจัง ส้มจี๊ดอุตส่าห์มาหา อยากจะมาให้ครูกายสอนการบ้านวิชาสุขศึกษาให้หน่อยน่ะค่ะ”
“มีอะไรก็เอาไว้ถามที่โรงเรียนจะดีกว่า”
“แต่ส้มจี๊ดสงสัยจริงๆ นะคะ”
“สงสัยอะไร” เขาถามเสียงขรึม เพราะดูท่าว่าเด็กสาวตรงหน้าจะไม่ไปไหนถ้าไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
“ครูกายนี่ใจดีจังเลยค่ะ ส้มจี๊ดอยากหาที่สงบ ๆ ทำการบ้านด้วยน่ะค่ะ ที่บ้านวุ่นวายพ่อกับแม่ทะเลาะกัน แถมมีปัญหาเรื่องเงินด้วย ที่ส้มจี๊ดหัดทำคุกกี้ก็กะว่าจะทำไปลองขายเพื่อน ๆ ด้วยน่ะค่ะ ครูกายลองชิมดูสิคะ ถ้าอร่อยส้มจี๊ดจะได้มีรายได้เสริมไม่ต้องขอพ่อแม่”
“อยากหาที่สงบก็ไปห้องสมุด”
“ครูกายลองชิมคุกกี้ส้มจี๊ดก่อนสิคะ” เธอคะยั้นคะยอให้เขากินคุกกี้ให้ได้
กายสิทธิ์หยิบคุกกี้ขึ้นมาลองชิม ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน
“อร่อยไหมคะ”
“รสชาติเหมือนร้านประจำ” เขามองหน้าเด็กสาวตรงหน้า ที่บอกว่าร้านประจำ ก็ร้านประจำที่เขาซื้อให้บัณฑิตานั่นแหละ เขาเองไม่ได้ชอบรับประทานขนมหวานมากนัก
“เหรอคะ” สารภีหน้าเสียเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มกลบเกลื่อน รสชาติต้องเหมือนกันอยู่แล้ว เพราะเธอไปซื้อมาจากร้านหน้าปากซอยที่อร่อยที่สุดในย่านนี้
“ถ้าทำขายน่าจะขายดีนะ” กายสิทธิ์แสดงความคิดเห็น
“ความจริงส้มจี๊ดไปแกะสูตรมาจากร้านดังน่ะค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นร้านเดียวกันไหม เพราะร้านพวกนี้เขาก็ทำเพจ ทำช่องยูทูบสอนทำขนมด้วยค่ะ” สารภีแถไปเรื่อย แต่มีส่วนที่จริงอยู่ว่าร้านพวกนี้มีเพจมีช่องยูทูบสอนทำขนม แต่เธอไม่ได้ไปเรียนเพื่อทำตามเจ้าของร้านก็แค่นั้นเอง
บัณฑิตาที่แอบฟังอยู่อีกด้านถึงกับเบ้ปากใส่เพื่อนร่วมห้อง
ยายส้มจี๊ดนี่นะทำคุกกี้ น้ำคงท่วมฟ้าปลาคงกินดาว!!!
“มีข้อสงสัยอะไรเกี่ยวกับวิชาสุขศึกษาเหรอ”
“แหม... ครูกายพูดแต่เรื่องวิชาการ เดี๋ยวก่อนสิคะ”
“ถ้าเธอไม่ได้...” กายสิทธิ์ยังพูดไม่ทันจบประโยค สารภีก็รีบพูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน
“อยากเข้าห้องน้ำจังเลยค่ะ ห้องน้ำอยู่ตรงไหนคะ” สารภีรีบพูดขัดขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าของบ้านกำลังจะไล่กลับ
“เดินไปแล้วเลี้ยวซ้าย” กายสิทธิ์ตอบเสียงขรึม เขาวางตัวค่อนข้างดี ไม่ให้ความสนิทสนมกับลูกศิษย์จนเกินไปนัก เพราะอยากให้ลูกศิษย์มีความเกรงใจ เวลาพูดหรือเตือนอะไรจะได้ฟัง หากยอมให้เล่นหัวให้ความเป็นกันเองมากเกินไป ก็จะไม่มีความเกรงใจ สั่งสอนอะไรก็ไม่ฟัง
เด็กเดี๋ยวนี้มีความคิดเป็นของตัวเอง เขาเป็นเพียงผู้ให้ความรู้ ชี้แนะแนวทาง จึงไม่มีการบังคับใด ๆ เขาอยากให้ลูกศิษย์เรียนกับเขาด้วยความรู้สึกผ่อนคลายไม่กดดัน แต่ก็ได้รับความรู้มากที่สุด
บัณฑิตาเห็นสารภีไปเข้าห้องน้ำ เธอก็แอบย่องตามไปแบบไม่ให้รู้ตัว เธอมองหน้าห้องน้ำไม่วางตา ก่อนจะราดบางอย่างลงตรงพื้นแล้วละเลงอย่างสะใจ
“คราวนี้ได้ร้องบ้านแตกแน่” บัณฑิตรีบวิ่งหนีไปหลบหลังต้นไม้มุมทางเดิน
สารภีเข้ามาในห้องน้ำ ก็ไม่ได้อยากมาเข้าห้องน้ำจริง ๆ แต่เธอมาแต่งหน้าและดูเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองให้ดูดีเท่านั้น
เด็กสาวเดินออกไปอย่างมั่นใจ ก่อนจะลื่นหกล้มหน้าห้องน้ำ
“ว้าย!” เสียงร้องของสารภีทำให้กายสิทธิ์รีบวิ่งมาดู บัณฑิตาที่เตรียมน้ำหวานเย็น ๆ เอาไว้ให้แขก รีบนำน้ำหวานไปเสิร์ฟไว้ที่โต๊ะ ระหว่างที่กายสิทธิ์ไม่อยู่ แล้วหลบฉากไปอีกด้าน
“เป็นยังไงบ้าง” กายสิทธิ์เอ่ยถาม สารภีจะบอกว่าไม่ได้เป็นอะไร ก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เธอรีบร้องด้วยความเจ็บในทันที
“โอ๊ย! เจ็บค่ะครูกาย สงสัยขาแพลง”
“เดินไหวไหม”
“ไม่ไหวเลยค่ะ” สารภีออดอ้อน
“งั้นครูขอโทษนะ” กายสิทธิ์อุ้มเด็กสาวออกไปยังม้านั่งตรงหน้าบ้าน
“ครูเตรียมน้ำหวานเย็น ๆ เอาไว้ให้ส้มจี๊ดเหรอคะ น่ารักที่สุดเลยค่ะ”
“คือไม่ใช่”
“ขอส้มจี๊ดดื่มน้ำสักหน่อยนะคะ รู้สึกคอแห้งจังเลยค่ะ” สารภีหยิบน้ำหวานมาดื่มแก้กระหาย แกล้งร้องว่าเจ็บขาเพื่อให้กายสิทธิ์มาดูข้อเท้าให้
“ข้อเท้าเป็นยังไงบ้าง”
“เจ็บมากเลยค่ะ สงสัยจะแพลง”
“ล้มได้ยังไง” เขาเอ่ยถาม
“สงสัยลื่นน่ะค่ะ” ในระหว่างที่คนทั้งสองกำลังสนทนากันอยู่ บัณฑิตก็รีบไปทำลายหลักฐานหน้าห้องน้ำ โดยการถูพื้นตรงนั้นให้สะอาดเอี่ยม ก่อนจะวางพรมเช็ดเท้าปิดทับเอาไว้
“เจ็บข้อเท้าอย่างนั้นเหรอยายส้มจี๊ด งั้นมาดูกัน” บัณฑิตาพูดกับตัวเอง มองไฟจากเตาอั้งโล่ที่ตอนนี้ควันโขมงไปทั่วบ้าน ก่อนจะนำฝาหม้อมาตีเข้าหากัน พร้อมตะโกนเสียงดังว่าไฟไหม้
“ไฟไหม้ ไฟไหม้ รีบหนีเร็ว ไฟไหม้” บัณฑิตาตะโกนเสียงดังสร้างความแตกตื่นให้คนที่อยู่ในบ้านได้ยิน สารภีได้ยินแบบนั้นก็รีบโกยอ้าววิ่งหนีออกจากบ้านในทันที
กายสิทธิ์เองที่วิ่งตาม แต่ต้องชะงัก มองข้อเท้าของลูกศิษย์สาวไม่วางตา แต่เขาก็ไม่ได้ทักท้วงอันใด เพราะเด็กสาวหนีไปไกลเสียแล้ว เขาย้อนกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้ง
“แค่ก ๆ ๆ” คนที่ไอเพราะสำลักควันไม่ใช่เขา แต่เป็นยายตัวแสบ พอเห็นว่าเขาไม่ได้วิ่งหนีไปแบบสารภี แต่ย้อนกลับมา บัณฑิตาตกใจตาโต ทำท่าจะหนี
“จะรีบหนีไปไหนยายตัวแสบ” เขารีบจับคอเสื้อทางด้านหลังของเธอเอาไว้แล้วดึงมาหาตัว ทำให้เธอไม่สามารถหนีไปไหนได้
ตายหยังเขียดแล้วไอ้เบอร์รี ผีดิบพันปีกำลังจะหักคอเธอจิ้มน้ำพริก!!!
บัณฑิตานั่งทำตาปริบ ๆ เมื่อได้ยินประโยคของกายสิทธิ์
“ขอบใจแล้วกันที่ช่วยพี่เอาไว้”
“คะ” เธออุทานออกมาด้วยความงุนงง
นี่เธอมงลงเหรอ ได้รับคำสรรเสริญเยินยอจากสามีจอมดุของตัวเองนี่นะ
“ขอบใจเบอร์รีเรื่องอะไรคะ”
“ช่างเถอะ” เขาไม่ค่อยชอบใจที่สารภีบุกเข้ามาในบ้านของเขาแบบนี้ เขายังไม่เชิญหรืออนุญาตเธอก็แทรกตัวเข้ามาในบ้านหน้าตาเฉย
เขาค่อนข้างหวงชีวิตความเป็นส่วนตัวค่อนข้างมาก หากไม่มีธุระสำคัญ กฎเหล็กก็คือห้ามลูกศิษย์มารบกวนเขาในเวลาที่ไม่ใช่เวลางาน จะมาเที่ยวเล่นชวนคุยก็ไม่ได้
แต่วันนี้เขาทำผิดกฎตัวเอง แบบไม่น่าให้อภัย ที่ยอมใจอ่อนให้สารภีเข้ามายุ่มย่ามในบ้าน
“ตายห่าแล้วพี่กาย” บัณฑิตาอุทานเสียงหลงเมื่อมีเสียงข้อความเข้า
เธอเปิดโทรศัพท์ออกอ่านข้อความ เพื่อน ๆ แชร์กันในกลุ่มห้องว่าสารภีท้องเสียเข้าโรงพยาบาล ตอนนี้อาการหนักมาก