บท
ตั้งค่า

2

ผีดิบหมื่นปี

ใครจะกล้าเถียงผีดิบหมื่นปีอย่างเขาได้ล่ะ

ตอนคาบพละฯ ใครทำผิดวินัยในห้อง โดนเขาทำโทษให้ยืนขาเดียว คาบไม้บรรทัดทั้งคาบ

เขาไม่ได้สอนแต่วิชาพละศึกษา แต่สอนวิชาสุขศึกษาด้วยและเทอมนี้เธอก็ต้องเรียนกับเขา

ปัง! ประตูปิดลงเสียงดัง ทำเอาบัณฑิตสะดุ้งสุดตัว บ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาได้ดี ร่างสูงจอมดุออกไปจากห้องของเธอเรียบร้อยแล้ว บัณฑิตก็พากางเกงในที่ม้วนเป็นเลขแปดเพื่อใบ้หวยสามีจอมเนี๊ยบไปใส่ในตะกร้าอย่างอ่อนแรง

เด็กสาวรีบตาลีตาเหลือกไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำในทันทีเพราะเขาบอกว่าจะต้องลงไปช่วยกันทำงานบ้านตอนนี้เลย

เธอไม่มีเวลาคิดอะไรมาก ขืนไม่ลงไป ได้คอขาดแน่ ๆ

เพียงไม่ถึงอึดใจร่างสาวน้อยแสนสวยเนื้อตัวหอมกรุ่นก็ลงมาในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นเพื่อมาช่วยเขาทำงานบ้าน

ความจริงกายสิทธิ์รวยมาก เขาจะจ้างแม่บ้านมาทำงานบ้านก็ย่อมได้ แต่ที่เขาไม่จ้างเพราะชอบทำเอง แล้วก็เป็นพวกโลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครมายุ่งวุ่นวาย ถ้าเป็นเธอน่ะเหรอ

จ้างสิ รออะไร!

“ไปเอาเสื้อผ้าลงมาซักสิ ซักให้เสร็จตอนนี้ เสาร์อาทิตย์จะได้ทำการบ้าน และมีเวลาส่วนตัวทำอย่างอื่นด้วย”

เธอลืมไปได้อย่างไรนะว่าเย็นวันศุกร์คือวันซักผ้า จึงรีบวิ่งขึ้นไปบนบ้านเพื่อที่จะได้ไปนำเสื้อผ้ามาซัก

“อย่าวิ่งเดี๋ยวล้ม” เขาพูดไม่ทันขาดคำเธอก็สะดุดขั้นบันได ดีที่ผวาเกาะราวบันไดเอาไว้ทันไม่งั้นล้มลงหน้าคะมำ หน้าแหกแน่ ๆ เลย

“บอกว่าอย่าวิ่ง ไม่มีความเป็นกุลสตรีเอาเสียเลย” เขายังบ่นไม่หยุดปาก

บัณฑิตาขึ้นไปเอาตะกร้าผ้าลงมาจากบนบ้านด้วยรอยยิ้ม ซักผ้าวันนี้ก็ดีเหมือนกันเสาร์กับอาทิตย์เธอจะได้มีเวลาไปเที่ยวเล่น

“ทำอะไรของเธอนี่” เสียงดุ ๆ ของผีดิบพันปีทำให้บัณฑิตาสะดุ้งสุดตัว เธอเพิ่งย้ายมาอยู่กับเขา เลยทำอะไรไม่ค่อยถูกเอาเสียเลย

“จะซักผ้าไงคะ ทำไมพี่กายต้องทำเสียงดุขนาดนั้นด้วย ที่นี่ที่บ้านนะคะ ไม่ใช่ที่โรงเรียน แล้วเบอร์รีก็ไม่ใช่ลูกศิษย์ของพี่แล้วนะคะ แต่เป็น...” เธอเบรกคำว่า ‘เมีย’ เอาไว้เพราะกระดากปาก

“จะเอาเสื้อผ้าทั้งหมดยัดลงในเครื่องซักผ้าแบบนั้นไม่ได้”

“ทำไมเหรอคะ ตอนอยู่บ้านกับพี่บุ๊ก เบอร์รีก็ทำแบบนี้” ประโยคของหล่อนทำให้เขาต้องถลึงตาดุใส่ ก่อนจะทำเสียงในลำคอ

“เธอต้องแยกซักผ้าขาว ผ้าสี แล้วก็ชุดชั้นในถุงเท้าจะยัดลงเครื่องหมดเลยรึ มันใช้ได้ที่ไหน” เขายืนคุมให้เธอแยกผ้าขาวกับผ้าสีออกจากกัน ผ้าขาวให้ซักมือโดยการแช่เอาไว้ก่อน ส่วนชุดชั้นในกับกางเกงในและถุงเท้า แยกแช่ไว้อีกคนละที่ เบอร์รีหน้าแดงเมื่อเขามองชุดชั้นในของเธอ แม้เขาจะไม่ได้ทำหน้าหื่นกระหาย แบบพวกโรคจิตชอบขโมยชุดชั้นใน แต่มันก็ทำให้เธออายเขาเป็นที่สุด

“เสื้อผ้าบางอย่างใส่เครื่องซักผ้าไม่ได้ก็ต้องซักมือ ไม่งั้นย้วยหมด” เขาทำเสียงดุ กำกับให้เธอจัดการกับเสื้อผ้า

“ยุ่งยากต้องซักหลายรอบ”

“พี่ไม่สงสัยเลยว่าทำไมเธอถึงได้ใส่เสื้อย้วยแบบนี้” เขาก้มมองคอเสื้อย้วย ๆ ของเธอ ทำให้เบอร์รีก้มมองตาม ก่อนจะร้องว้ายออกมา ยกมือขึ้นปิดคอเสื้อของตัวเอง เพราะคอเสื้อย้วย ก้ม ๆ เงย ๆ เลยเห็นทรวงอกรำไร ยิ่งหน้าอกใหญ่เกินตัวอยู่ด้วย เธอรู้สึกเป็นปมชะมัด เวลาใส่ชุดนักเรียนเลยโดนล้อว่านมใหญ่เท่าลูกมะพร้าว เธอเลยมีเสื้อนักเรียนและเสื้อพละตัวใหญ่ ๆ ปกปิดหน้าอกของตัวเอง

พวกนักเรียนผู้ชายในโรงเรียนเป็นโรคจิตอะไรนักหนาชอบล้อนมนักเรียนผู้หญิง หรือชีวิตมีปมด้อยเกิดมาไม่มีนม!

“ซักผ้าได้แล้ว อย่าเรื่องมาก”

“ซักยังไงคะ” คนพูดเอ่ยถามตาปริบ ๆ

“อย่าบอกนะว่าเธอซักผ้าไม่เป็น” เขาเอ่ยถามอย่างตกใจ

“ปกติใส่ลงเครื่องแล้วก็ให้มันซักเองค่ะ” ประโยคคำตอบนั้นทำให้กายสิทธิ์ทำเสียงในลำคอ

“ภาระเสียจริง” เขานั่งลงบนม้านั่งหน้ากะละมังใบโต

“ถูตรงนี้ก่อนตรงคอเสื้อนักเรียน” เขาใช้แปรงถูให้เธอดู

“แต่ต้องแช่ผ้าเอาไว้ก่อนไม่อย่างนั้นจะซักไม่สะอาด”

“ค่ะ” เธอรับคำก่อนจะอมยิ้ม เธอพอรู้ว่ากายสิทธิ์ทำงานบ้านเองทุกอย่าง แต่ไม่คิดว่าจะทำได้เนี๊ยบขนาดนี้

การซักผ้าในเย็นวันนั้นค่อนข้างวุ่นวาย เมื่อบัณฑิตาแกล้งเขาไปด้วยซักผ้าไปด้วย

“เฮ้ย! ทำอะไรนี่ยายตัวแสบ” เธอเอาฟองผงซักฟอกมาแปะที่แก้มของเขา

“หน้าของพี่กายพอมีฟองแบบนี้แล้วหล่อขึ้นเยอะเลยค่ะ ดีกว่าหน้าดุ ๆ แบบนี้เสียอีกค่ะ”

“นี่เธอแกล้งพี่เหรอ”

“พี่กายอย่าแยกเขี้ยวใส่กันสิคะ เบอร์รีกลัวนะ”

“กลัวเหรอ ยายตัวแสบแบบเธอกลัวด้วยเหรอ” เขาเอาฟองผงซักผ้าแปะที่แก้มเธอบ้าง

“พี่กายน่ะ”

“ทำไม เธอทำคนอื่นได้ คนอื่นทำเธอไม่ได้หรือไง” แล้วการซักผ้าก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย กว่าจะซักผ้าเสร็จก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง

สองหนุ่มสาวนั่งพักอย่างหมดเรี่ยวหมดแรง ก่อนที่ท้องของบัณฑิตาจะร้องออกมา

“หิวแล้วเหรอ” เขาเงยหน้ามองนาฬิกาตรงฝาผนังบ้าน

“หิวแล้วค่ะ แต่ขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ”

“อืม... จะกินอะไร”

“พี่กายจะทำให้กินเหรอคะ”

“แล้วเราทำกับข้าวอะไรกินเป็นบ้าง”

“ไม่เป็นเลยสักอย่างค่ะ อ้อ... ทำเป็นอยู่อย่างนึงค่ะ”

“อะไร”

“ไข่เจียวกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลวกไงค่ะ และอย่างน้อยเบอร์รีก็หุงข้าวเป็นด้วย” เธอรีบบอกเขา เพราะเวลาพี่ชายไม่อยู่เธอก็ต้องพึ่งพิงตัวเองให้ได้

“อย่างน้อยก็ยังรู้จักหุงข้าว” ไม่รู้ว่าเขาชมหรือว่าประชดกันแน่แต่เธอก็ยิ้มรับ

หลังจากอาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว เขาก็ชวนเธอทำสุกี้รับประทานกัน

“หั่นผักเป็นไหม” เขาเอ่ยถาม นำผักสารพัดชนิดออกมาจากตู้เย็น

“ว้าว! สุกี้ผักรวมน่าอร่อยจังเลยค่ะ”

“ถามว่าหั่นผักเป็นไหม”

“พี่กายนี่ดุชะมัดเลย หั่นเป็นสิคะ จะให้หั่นผักเหรอคะ มาเบอร์รีจัดการเอง”

“ผักพวกนี้พี่ล้างเอาไว้แล้ว เธอหั่นได้เลย พี่จะทำน้ำซุป”

“รับทราบเจ้าค่ะ” เธอทำท่าตะเบะ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ตลกกับเธอด้วยเลย ทำให้บัณฑิตาต้องแอบเบ้ปากใส่คนขี้เก๊ก

“ผีดิบพันปีเอ๊ย!”

“ว่าอะไรนะ”

“อุ๊ย! เปล่านี่คะ”

“เร่งมือเถอะเดี๋ยวดึก นี่ก็ทุ่มกว่าแล้ว”

“ค่ะ” บัณฑิตตารับคำ ก่อนจะจัดการหั่นผักตามที่เขาสั่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel