ตอนที่ 2.ล่องเรือหนีตาย..
“ขอโทษนะคะคุณ หากคุณไม่มีชุดว่ายน้ำ เราไม่อนุญาตให้ลงสระนะคะ” พนักงานเสิร์ฟบนเรือกระซิบเตือนเธอด้วยเสียงสุภาพ
พบูพยักหน้าเข้าใจ เธอเหล่มองใครบางคนนั่นด้วยหางตาและสะบัดหน้าใส่ ก่อนจะเดินโยกสะโพกหนีไปอีกทาง
“เห้ออออออ...” เธอพ่นลมหายใจยาวเหยียด หมุนตัวกลับไปมองด้านหลัง ทันทีที่เดินพ้นสระน้ำ เธอยกมือลูบท้องรู้สึกหิวขึ้นมาตงิดๆ แต่ยังไม่ถึงเวลาอาหารมื้อเที่ยง ซึ่งทางเรือสำราญมีบุฟเฟ่ต์ไว้คอยให้บริการ เธอไม่มีสตางค์มากพอที่จะซื้ออาหารรับประทานเองหรอก
ตรงจุดที่ให้บริการเรื่องอาหาร มีพนักงานทยอยยกถาดอาหารมาวางไว้ พบูขยับเดินเข้าไปใกล้
“ฉันหิวแล้ว กินได้หรือยังคะ?” พบูพยายามยิ้มให้มากที่สุด
“เชิญเลยค่ะ ทางนั้นมีบาร์เครื่องดื่มบริการ สั่งที่บาร์เทนเดอร์ได้เลยค่ะ”
“ฟรีหรือเปล่าคะ?” พบูถามย้ำ “พอดีฉันรีบออกมา ไม่ได้พกสตางค์ติดมาด้วยค่ะ ฉันหิวมากแล้ว หากต้องเดินกลับไปกลับมาฉันคงเป็นลมก่อน” ข้อแก้ตัวของเธอน่าจะฟังขึ้น พนักงานคนนั้นยิ้มตอบ
“ฟรีเฉพาะโซนนี้นะคะ หากเลยไปด้านนั้นเสียสตางค์ค่ะ” พบูรีบท่องเอาไว้ในใจ
หากเธอไม่อยากขายขี้หน้า อย่าเฉียดไปใกล้โซนที่คิดสตางค์เด็ดขาด กลิ่นอาหารทำให้พบูคิดอะไรไม่ออก เธอฉวยจานใบเล็ก เดินไปวนรอบถาดอาหารหนึ่งรอบ หลังตัดสินใจได้เธอก็ตักอาหารที่ตัวเองเล็งไว้ใส่จาน พร้อมกับเดินไปที่บาร์เครื่องดื่มเมื่อได้ทุกสิ่งครบ เธอก็มองหาที่นั่ง
เธอได้โต๊ะเหมาะๆ ติดริมกระจก เบื้องล่างคือสระน้ำและกลุ่มคนที่กำลังสนุกเต็มที่ เสียงกรี๊ดกร๊าดดังมาจากโต๊ะครึ่งวงกลม จุดศูนย์กลางคือผู้ชายปากไม่ดีคนนั้น
“ชิ!!” พบูเบ้ปาก หยิบครัวซองชิ้นพอเหมาะใส่ปาก ระหว่างที่ละเลียดอาหารอร่อยๆ พบูก็มองไปรอบๆ แล้วก็สะดุดกับใครบางคนที่กำลังมองมาที่เธอ พบูเบ้ปากซ้ำ ผู้ชายคนเดิมกำลังมองมาที่เธอ พบูมั่นใจใต้กรอบแว่นสีดำนั่น ชายผู้นั้นกำลังมองเธอชัดๆ
พบูสะบัดหน้าใส่ ยัดแฮมชิ้นโตใส่ปาก แล้วกัดกรวมๆ ประหนึ่งกำลังกัดอวัยวะสักชิ้นบนตัวชายผู้นั้นอยู่
อาหารพูนจานพร่องลงไปเรื่อยๆ พบูเลยลุกไปตักอาหารเพิ่ม “น้องคะ อาหารฟรีกี่มื้อคะน้อง” ระหว่างที่เดินเลือกอาหารอยู่นั่นพบูก็แอบกระซิบถามพนักงานไปด้วย
“มื้อเช้ากับมื้อเย็นค่ะคุณผู้หญิง วันนี้พิเศษเพราะมื้อเช้าไม่มี” พบูพยักหน้าหงึกหงัก เธอคงต้องวางแผนเรื่องกินให้ดีสักหน่อย ไม่อย่างนั้นตอนกลางวันเธอต้องหิ้วท้องรอจนกว่าจะถึงมื้อเย็น
เธอหยิบอาหารมากหน่อยกะจะเก็บไว้กินมื้อกลางวันด้วยแต่แล้วสมองน้อยๆ ของพบูก็เต้นเริงร่า เธอหูผึ่ง เอียงตัวตั้งใจฟังทุกคำพูดของคนเหล่านั้น “ทำไมถึงสะเพร่าแบบนี้นะ พนักงานเสิร์ฟขาดตอนนี้ได้ยังไง ช่วงค่ำหากคนไม่พอจะทำยังไงดี” ผู้ชายสวมสูทท่าทางขึงขัง สีหน้าดุดันนั่นบงบอกอารมณ์ภายในได้อย่างดี
“อยู่กลางทะเลแบบนี้จะไปหาคนได้ที่ไหนหะ!!” ชายผู้นั้นตะคอกซ้ำ
พบูผุดลุกขึ้นยืน เธอเดินเข้าไปใกล้และรีบยิ้มประจบ “คือ ฉันมีข้อเสนอนะคะ หากคุณสนใจ ฉันยินดีทำตามทุกอย่าง” หากนี่เป็นทางที่ทำให้พบูมีรายได้ ตอนที่ลงจากเรือเธอก็น่าจะมีทุนสำรองสักก้อนสำหรับการหาที่อยู่ใหม่
“คุณผู้หญิงมีข้อเสนออะไรเหรอครับ”
“พอดีฉันว่างๆ อยู่ หากฉันช่วยได้ฉันก็อยากช่วยค่ะ”
“ช่วยอะไรเหรอครับ?”
“คุณกำลังมองหาคนงานอยู่ไม่ใช่เหรอคะ ฉันไงคะ ฉันสนใจ”
“คุณผู้หญิงมาเที่ยวนี่ครับ หากเอาเวลาที่ควรสนุกมาทำงาน มันจะดีหรือครับ”
“ตอบตามตรงนะคะ ตั๋วล่องเรือครั้งนี้ฉันเล่นเกมได้มา ฉันค่อนๆ ข้างกรอบ หากได้เงินสักก้อนก่อนลงจากเรือก็น่าสนใจค่ะ”
เผ่าพงษ์สำรวจหญิงตรงหน้า ผู้หญิงหน้าตาดี บุคลิกก็ดีด้วย
“ที่บาร์น้ำฝั่งนู้นคนขาดพอดี หากคุณสนใจทดลองทำตอนค่ำวันนี้ได้ หากวันนี้ทำงานดี คุณสามารถทำจนถึงวันที่เรือเทียบท่าได้เลยครับ”
“คุณเผ่าคะ” พนักงานสาวตรงหน้าเธอท้วงเสียงเบาๆ
“ทำไม มีอะไรเรอะ!!” เผ่าพงษ์ตวาด
“ผู้หญิงคนนี้ไม่มีประสบการณ์ทำไมคุณเผ่าให้ทำงานที่บาร์น้ำฝั่งโน้นละคะ” เสียงท้วงอ่อนอ่อย