บ้านนอกเข้ากรุง
กล้วย....
"ดีๆ กล้วยจะได้ไปดูด้วยว่ามหาลัยที่จะมาเรียนมันกว้างขวางใหญ่โตน่าเรียนขนาดไหนจะเหมือนโรงเรียนที่บ้านไหม"
"เหอะ นี่มันมหาลัยไม่ใช่โรงเรียนชุมชน"
"รู้แล้วกล้วยไม่ได้โง่" ฉันว่ากลับไปก่อนจะทำไม่สนใจคนข้างๆ
ขณะที่อิพี่ดินมันขับรถไปฉันก็มองออกไปดูวิวด้านนอก ที่นี่กรุงเทพมันเจริญกว่าบ้านที่ต่างจังหวัดมากเลยแต่รถเยอะไปหน่อย ไม่หน่อยอ่ะเยอะมากเลยติดไฟแดงทีนานเกือบครึ่งชั่วโมง ตึกก็เยอะมากด้วยเยอะจนมองแทบไม่เห็นต้นไม้ใบหญ้าเลยแต่ก็นั่นแล่ะที่นี่มันเมืองหลวงนี่เนอะจะให้เหมือนบ้านนอกที่ฉันเคยอยู่มาตั้งแต่เกิดได้ยังไง สี่ปีที่ฉันต้องอยู่ที่นี่ฉันคงต้องปรับตัวอีกเยอะโดยเฉพาะปรับตัวกับคนข้างๆที่คอยแต่จะหาเรื่องด่าฉันว่าฉันถ้ามีโอกาส
"ใกล้จะถึงมหาลัยแล้วทำตัวให้มันดีๆให้เรียบร้อยอย่าทำตัวเป็นบ้านนอกเข้ากรุงเข้าใจไหมฉันไม่อยากอายคนอื่น"
"เออน่า" ฉันมองค้อนคนข้างๆ แต่ตอนนี้ฉันยอมรับตื่นเต้นมากและดีใจจนลืมความโกรธเพราะฉันยังไม่เคยเห็นมหาลัยที่ตัวเองจะมาเรียนเลย คือฉันสอบชิงทุนได้น่ะก็เลยโชคดีได้มาเรียนที่นี่โดยไม่ต้องเสียค่าเทอมสักบาทซึ่งฉันก็พอจะรู้ว่าเทอมที่นี่แพงแบบแพงมากๆและเข้ายากมาด้วย ฉันเคยได้ยินแม่ถามป้าปลายแม่ของอิพี่ดินว่าค่าเทอมที่มหาลัยของพี่ดินมันเท่าไหร่ตอนนั้นพอรู้แม่ถึงกับช็อคไปเลยแล้วบอกให้ฉันสอบชิงทุนที่นี่ให้ได้เพราะนักศึกษาที่เรียนจบที่นี่จะมีบริษัทใหญ่โตมีชื่อเสียงระดับประเทศมารอรับเชิญชวนไปร่วมงานด้วยโดยไม่ต้องไปสมัครหรือแข่งขันกับใครซึ่งนักศึกษาเองสามารถเลือกได้เลยว่าอยากทำบริษัทไหนนั่นก็หมายความว่าที่มหาลัยแห่งนี้มาตรฐานการสอนการศึกษาเขาต้องดีมากๆแน่ๆ แต่ทำไมเขาถึงไม่สอนมารยาทให้กับนักศึกษาบ้างนะเพราะดูคนข้างๆฉันสิเรียนที่นี่มาจะเข้าปีสี่แล้วนิสัยยังเสียเหมือนเดิมปากหมายิ่งกว่าเดิมอีกต่างหาก แต่ก็อย่างว่าอ่ะเนอะที่นี่เค้าคงให้แค่ความรู้ส่วนเรื่องมายาทกับนิสัยมันคงแล้วแต่บุคคลถึงสอนไปมันก็คงไม่เข้าหัวเพราะขนาดลุงภูผากับป้าปลายสอนเท่าไหร่ก็ยังไม่เคยจำเลย
แต่ในความโชคดีที่ฉันได้มาเรียนที่นี่ก็มีความโชคร้ายหรือเรียกง่ายๆว่าความซวยเพราะมหาลัยนี้อิพี่ดินมันก็เรียนอยู่ด้วยพี่ดินมันกำลังจะขึ้นปีสี่ส่วนฉันกำลังจะเข้าปีหนึ่งแต่ก็เอาเถอะทนๆไปแค่ปีเดียวเอง ส่วนเรื่องคอนโดพ่อกับแม่บอกให้ฉันอยู่ที่นี่จนกว่าจะเรียนจบนั่นก็หมายความว่าถึงอิพี่ดินมันจะเรียนจบปีสี่แล้วแต่ฉันก็ยังต้องอยู่กับอิพี่ดินที่คอนโดนี้4ปีจนกว่าจะเรียนจบ แต่ฉันคิดว่าฉันจะไม่อยู่ที่นี่ตลอดไปจนครบสี่ปีหรอกฉันกะว่าจะหาเช่าห้องใกล้มหาลัย ฉันจะทำงานไปด้วยจะได้แบ่งเบาภาระพ่อกับแม่เพราะผลไม้ที่สวนช่วงนี้ขายไม่ค่อยได้ราคา บางครั้งก็ต้องขายแบบขาดทุนก็มี ฉันสงสารพ่อกับแม่มากถึงท่านจะไม่ได้ลำบากอะไรก็ตาม คือทุกวันนี้เหมือนพ่อกับแม่ทำไร่ทำสวนแก้เหงาแก้เบื่อซะมากกว่าหากำไร ส่วนครอบครัวพี่ดินรายนั้นน่ะรวยมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายแล้วไม่ทำอะไรก็มีกินมีใช้ไปตลอดชาติ
"โหสวยจัง" ฉันเผลอพูดออกมาเสียงดังด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ได้มาเห็นมหาลัยที่ตัวเองจะได้มาเรียนเป็นครั้งแรก
"สวยกว่าโรงเรียนประจำตำบลของเธอใช่ไหมล่ะ" ฉันหันขวับไปมองหน้าอิพี่ดินทันที จะมีสักครั้งไหมที่เขาจะไม่พูดจาแบบนี้ให้ฉันโมโหอารมณ์เสีย
"มันเทียบกันได้ไหมล่ะ มีสมองก็หัดคิดมั่ง"
"นี่ยัยกล้วยเน่าเธอกล้าว่าฉันไม่มีสมองเหรอวะ"
"เออใช่ทำไมจะว่าไม่ได้"
"พูดจาแบบนี้ขอให้เรียนให้จบปีสี่ละกันนะ"
"เรียนจบแน่ไม่ต้องห่วง"
"ใครห่วงเธอ อย่ามโน"
"พี่จะไปเอาของก็ไปเอาสิ" ฉันไล่เข้าลงจากรถด้วยความรำคาญเพราะพูดอะไรไม่เคยเข้าหูเลยสักครั้ง
"นี่มันรถฉันเธอไม่ต้องมาสั่ง แล้วนี่จะนั่งรอบนรถหรือจะลงไปรอข้างนอกแต่ถ้าจะนั่งรอบนรถก็เปิดประตูรถเพราะฉันจะไม่เปิดแอร์ให้เธอเพราะมันเปลืองน้ำมันรถ"
"ลงดิใครมันจะทนร้อนอยู่บนรถ แดดแรงขนาดนี้พูดอะไรไม่คิด" พูดจบฉันก็เปิดประตูรถลงไปก่อนโดยไม่สนใจอีพี่ดินอีกเลย
ฉันเดินไปตามทางเดินที่มีหลังคาตลอดแนวซึ่งมันเชื่อมทางเดินระหว่างตึกเรียน ดีจังเลยอ่ะถ้าได้มาเรียนฉันก็ไม่ต้องวิ่งฝ่าแดดฝ่าฝนเหมือนโรงเรียนเดิมที่พอย้ายตึกเรียนทีถ้าฝนตกก็ต้องวิ่งฝ่าฝนไป แล้วที่นี่ยังรถรางให้นักศึกษานั่งด้วยโคตรดีเลยไม่ต้องเดินให้เมื่อยถ้าตึกเรียนอยู่ไกล สมแล้วที่ค่าเทอมที่นี่แพงอะไรๆก็ดูสะดวกสบาย ในขณะที่ฉันกำลังชื่นชมบรรยากาศภายในมหาลัยจู่ๆฉันก็เหมือนไปชนอะไรเข้าอย่างแรงจนล้มไปนั่งกับพื้น
ตุ่บ!!
"โอ๊ย!!"
"เห้ยคุณเป็นอะไรมากมั้ยขอโทษทีผมไม่ทันได้มอง" พอฉันเงยหน้าขึ้นมาก็เจอเข้ากับ..กับซีนิวพระเอกซีรี่ส์ที่กำลังมาแรงแซงทางโค้งอยู่ในตอนนี้ซึ่งตอนนี้เสื้อของเขาเลอะไปด้วยคราบกาแฟซึ่งเป็นผลงานที่ฉันชนเขาเมื่อครู่นี้
"ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ แต่เสื้อคุณเลอะกาแฟหมดเลยฉันขอโทษนะคะเอ่อคือฉันผิดเองค่ะที่มัวแต่มองดูโน่นดูนี่ไม่ดูว่ามีคนเดินสวนมา โอ๊ยเจ็บ" ฉันไม่กล้าไปโทษเขาหรอกเพราะฉันเองที่เดินไม่ดูทางเองแต่ตอนนี้ฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่ข้อเท้า
"แต่ถึงยังไงผมก็ทำคุณเจ็บ ว่าแต่คุณเป็นยังไงบ้างลุกไหวมั้ย" สีหน้าของเขาดูเป็นกังวลมากเลย
"เดี๋ยวฉันลองลุกดูก่อนละกัน" คือตอนนี้เหมือนขาฉันมันจะพลิกเพราะมันเจ็บแปล๊บๆที่ข้อเท้า
ฉันพยายามเอาตัวเองลุกขึ้นมาแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ไหวตอนนี้ฉันเอาขาลงได้เพียงข้างเดียวพอจะเอาอีกข้างลงมันก็รู้สึกเจ็บจี๊ด
"โอ๊ย" ก่อนที่ฉันจะล้มลงไปอีกรอบซีนิวก็เข้ามาประคองฉันไว้ได้ทัน
"แบบนี้คงต้องไปหาหมอแล้วล่ะเพราะดูเท้าคุณตอนนี้มันบวมมากเลย ผมว่าผมพาคุณไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่าแล้วคุณก็โทรบอกญาติคุณให้ไปหาที่โรงพยาบาลทีหลัง" ฉันก้มลงไปดูเท้าตัวเองที่ตอนนี้มันบวมขึ้นมาจริงๆด้วยแล้วฉันต้องทำยังไงต่อดีล่ะคือเขาจะพาฉันไปโรงพยาบาลทำไมในเมื่อเขาไม่ได้ทำฉันเจ็บฉันทำตัวเองเดินชนเขาเองจนเสื้อเขาเลอะกาแฟ แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่ที่นี่ฉันไม่รู้จักใครเลยนอกจากอิพี่ดินคนเดียว แล้วตอนนี้ฉันก็เดินมาไกลห่างจากที่เขาจอดรถด้วยจะโทรหาก็ไม่มีเบอร์ ถ้าฉันจะให้เขาพาฉันกลับไปที่รถพี่ดินเขาจะว่ายังไง
"เอ่อเรื่องไปโรงพยาบาลฉันคิดว่าฉันไปเองน่าจะดีกว่าแต่ตอนนี้ เอ่อคุณช่วยแบกฉันไปที่รถของพี่ชายฉันทีได้มั้ยคะเขาจะได้พาฉันไปโรงพยาบาล" ฉันคิดว่าฉันจะขอให้อิพี่ดินพาฉันไปโรงพยาบาลแทนซีนิวเพราะที่ฉันเจ็บตัวฉันทำตัวเองไม่ได้เกี่ยวกับเขา
"ห๊ะ แบก??"
"เอ่อ ค่ะแบก"
"อะ โอเคครับแบกก็แบก เกิดมาผมก็ไม่เคยแบกใครเลยนะคุณเป็นคนแรก" เขาพูดแบบนี้ฉันต้องรู้สึกยังไงดี เขินดีไหมหรือต้องอาย5555 แต่ตอนนี้ฉันต้องขอให้เขาพาฉันกลับไปที่รถอิพี่ดินก่อน
เวลาต่อมา....
แผ่นดิน....
"ยัยกล้วยเน่าเดินไปถึงไปไหนวะ" ตอนนี้ผมนั่งรออยู่บนรถด้วยความหงุดหงิดเพราะผมนั่งรอยัยกล้วยเน่ามาจะครึ่งชั่วโมงแล้วแต่ยัยนั่นก็ยังไม่โผล่หัวมา ไม่รู้เดินหลงหรือเปล่าเพราะมหาลัยนี้มันไม่ใช่แคบๆยิ่งไม่เคยมีแบบยัยกล้วยเน่ารับรองหลงชัวร์ เห้อต้องเดือดร้อนผมลงไปตามหาอีกใช่ไหมวะเนี่ย
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวขาลงจากรถผมก็เห็นยัยกล้วยเน่าอยู่บนหลังของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งผมก็รู้จักเพราะเป็นน้องชายของเพื่อนผมเอง
ผมยืนมองสองคนนั้นที่กำลังตรงมายังรถของผม
"ยัยกล้วยเน่าเป็นอะไรอ่ะ" ผมถามยัยกล้วยเน่าที่ดูหน้าตาตอนนี้จะเหมือนไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่แล้วไปทำอะไรมาวะ
"อ้าวพี่ดิน สวัสดีครับพี่"
"อืมหวัดดีว่าแต่คนบนหลังเราเป็นอะไร" ในเมื่อผมถามยัยกล้วยเน่าไม่ตอบผมก็เลยถามไอ้นิวแทน
"ผมกับเธอเดินชนกันแล้วทีนี้ข้อเท้าเธอพลิกครับ"
"ข้อเท้าพลิก??โหคงจะเผ็ดน่าดู5555 ยัยซุ่มซ่ามเอ้ย" พอผมพูดจบยัยกล้วยเน่าหันขวับมาทำตาเขียวใส่ผมทันที