พรสวรรค์
"ทำไมนะ…ทำไมกัน…'' ลิปอได้เเต่คิดอยู่ในใจ คิดเกี่ยวกับภาพชีวิตก่อนของตน ถ้าหากปะติดปะต่อกันเเล้ว นั่นก็คือตนนั้นได้ย้อนเวลากลับมาเหมือนบัญชาเทพ ราวกับให้บัญชาเทพชี้ไปในทางที่ถูก เเล้วคนที่ทำให้บัญชาเทพย้อนเวลากลับมาได้ก็คือตน ตนเป็นคนฆ่าบัญชาเทพเองกับมือ ตนได้เห็นการดิ้นรนสุดชีวิตของบัญชาเทพที่ถูกต้อนจนมุมเเล้วก็ยังสู้สุดตัวจนจัดการนักฆ่าไปได้หลายคน เเละสุดท้ายก็ตาย ตนนั้นเป็นนักฆ่ามือหนึ่งขององค์กรใต้ดิน ก่อนจะมาหาบัญชาเทพตนก็ได้ฆ่าเป้าหมายไปก่อนเเล้วคนนึงทั้งยังเอารภมันมาด้วย ส่วนเรื่องที่บัญชาเทพย้อนเวลากลับมาได้รวมถึงตนนั้นยังไม่มีใครทราบ เเสดงว่าความสามารถอันลึกลับที่ลิปอไม่ได้บอกใคร ทั้งความสามารถในการรับรู้ เเละทักษะต่างๆ มันก็คลี่คลายเเล้ว…
"หลี่เล่อป๋อ…ออกมาคุยกันหน่อย'' เสียงบัญชาเทพดังออกมาจากนอกประตูห้อง โดยที่ทั้งคู่นั้นอยู่ที่บริษัทหลักของ MVP
"ทำไมฉันต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ…'' ลิปอกล่าวกับตนเองพร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆไหลออกมา ลิปอไม่ได้ตอบอะไรเทพกลับไป ลิปอได้เเต่นั่งดูรูปภาพครอบครัวที่เหลืออยู่ใบเดียว มีพ่อเเม่ เเละฝาแฝดของตน เเต่ทำไมกัน ทำไมถึงไม่เอาชีวิตของฉันไปด้วย? ครอบครัวของฉันถูกรถบรรทุกชน พ่อเเละเเม่เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุ ส่วนพี่สาวฝาแฝดอาการสาหัส สุดท้ายก็เสียที่โรงพยาบาล เหลือเพียงเล่อป๋อที่ถูกพี่สาวปกป้องเอาไว้…
''ฉันเหงา...ฉันเหงามาก'' ลิปอกล่าวเมื่อยังคงดูรูปของครอบครัวของตน ส่วนบัญชาเทพก็พยายามโทรหาลิปอ โดยที่โทรศัพท์ของลิปอนั้นอยู่บนที่นอน มันสั่นไม่หยุด เเต่ลิปอก็ยังไม่ได้สนใจมัน ลิปอยังคงจดจ่ออยู่กับรูปครอบครัวของตนตรงหน้า
''มนุษย์...ชะตาชีวิตของเจ้าช่างน่าขันเสียจริง'' ลิปอหันไปหาต้นเสียงทันที ปรากฏว่าร่างสีขาวบริสุทธิ์กำลังเดินมาหาตนอย่างช้าๆ ลิปอตกใจมากหรือเขาจะเห็นภาพหลอน?
''เเก!...เเกเป็นใคร!?'' ลิปอป๋อตะโกนถามด้วยความสงสัยเเละความกลัว ทำให้บัญชาเทพเริ่มเคาะประตูเเรงขึ้นด้วยความเป็นห่วง เมื่อลิปอเริ่มเสียงดังเเละพูดอะไรแปลกๆออกมา
''จะเรียกอย่างไรดีล่ะ...ข้าเป็น...อืม'' ร่างขาววาดมือไปทางประตูทำให้ประตูไม่มีเสียง ราวกับห้องนี้เป็นห้องที่ตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง เเละเมื่อบัญชาเทพสามารถเข้ามาในห้องลิปอได้ ลิปอก็ไม่อยู่ในห้องเเล้ว เขาหายไปไหนก็ไม่มีใครทราบ
''ผู้คุมชะตาชีวิตทุกคนบนโลกล่ะมั้ง'' ร่างขาวบริสุทธิ์กล่าวอย่างเป็นกันเองกับลิปอ เเต่ลิปอนั้นไม่ลดความระเเวงลงเลยเเม้เเต่นิดเดียว
''งั้นเเสดงว่าเป็นเเก!...เป็นเเกที่ทำให้ฉันต้องอยู่คนเดียวแบบนี้!'' หลี่เล่อป๋อเมื่อเขาได้ยินว่าคนที่พูดคุยกับเขาอยู่เป็นคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้ชีวิตเขาโดดเดี่ยวแบบนี้ก็จะพุ่งเข้าไปหาร่างนั้นทันที เเต่ปรากฏว่าเขาไม่สามารถจับหรือทำอะไรร่างนั้นได้
''เจ้านั้นเเข็งเเกร่ง...เเต่เจ้าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว''
''ข้าคอยเฝ้ามองเจ้ามาหลายปี...ในตอนนี้มันสมควรเเล้ว''
''ที่ข้าจะต้องทำอะไรสักอย่าง…''
''ชะตาของเจ้านั้น...มันสุดเเสนจะอาภัพ'' ร่างขาวบริสุทธิ์กล่าวด้วยความสงสาร เเละเห็นใจกับลิปอ
''เจ้าอยากรับรางวัลจากข้าหรือไม่?'' ร่างขาวบริสุทธิ์กล่าวถามพร้อมกับสภาพเเวดล้อมเเละสถานที่ได้เปลี่ยนไป เปลี่ยนเป็นบนอากาศ? หรือห้องที่มีเเต่สีขาว
''อะไร?'' ในตอนนี้ลิปอนั้นสับสนมากว่าเกิดอะไรขึ้นกับตน เเละร่างตรงหน้าของตน เเท้จริงเขาคือใครกันเเน่
''จะเป็นเช่นไรกัน...ถ้าหากเกมที่เจ้าเล่น''
''มันมิใช่เกม...'' ร่างขาวกล่าวตอบกลับ ทำให้ลิปอตาโตทันที
''จะเป็นเช่นไร...ถ้าหากเจ้าได้เข้าไปใช้ชีวิตในโลกของเกมที่เจ้าเล่น''
''โลกเเห่งเทพเซียน...โลกที่มีเเต่ความน่ากลัวซ่อนอยู่'' สิ่งที่ร่างขาวกล่าวนั้นหลี่เล่อป๋อไม่ได้สนใจ สนใจเพียงเเค่ว่า ถ้าตนได้เข้าไปอยู่ในเกม? เเล้วอะไร โลกที่มีเเต่ความน่ากลัว? ที่ตนได้สัมผัสมา ที่ตนได้เล่นเกมนี้มีเเต่การผจญภัย การฝึกเเละการต่อสู้เพียงเท่านั้น
''เจ้ายินยอมหรือไม่ที่จะไปใช้ชีวิตใน-'' ร่างขาวกล่าวอีกครั้งเเต่ในครั้งนี้
''ตกลง!'' ลิปอตอบแบบไม่คิด เพราะเขานั้นเบื่อโลกปัจจุบันเต็มทน ไม่ว่าจะชีวิตก่อนที่ถูกหลอกใช้ หรือจะเป็นชีวิตนี้ เขาไม่มีทางมองหน้าบัญชาเทพได้อีกเเน่นอน เพราะเขาเป็นคนฆ่าบัญชาเทพในชีวิตก่อน ต่อให้บัญชาเทพจะให้อภัยเขา เเต่เขาจะไม่ให้อภัยตัวเองเด็ดขาด เพราะเขาคิดมาตลอดว่าบัญชาเทพเป็นครอบครัวของเขา เเละถ้าเขาได้ไปใช้ชีวิตในโลกใหม่ คนแปลกใหม่ ลิปอจะทำทุกอย่างที่อยากทำ จะใช้ชีวิตเเบบที่อยากจะใช้
''โอ้...ถ้าเช่นนั้น''
"ข้าขอ…เป็นครั้งสุดท้าย'' ลิปอกล่าวออกมา ถึงเเม้จะไม่ได้บอกว่าขออะไร เเต่ร่างขาวบริษุทธิ์กลับเข้าใจพร้อมกับวาดมืออีกครั้งทำให้ห้องกลายเป็นแบบเดิม ปรากฏลิปอที่ยืนอยู่ข้างหลังเทพในขณะที่เทพกำลังก้มลงไปดูข้างล่างเผื่อว่าลิปอจะหาทางลงไปทางนี้
“เฮีย…ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ” ลิปอกล่าวออกมาทำให้เทพถึงกับสะดุ้ง เขาคิดว่าเขาหาทั่วห้องเเล้วนะ เเต่ทำไมไม่เจอกัน เเล้วมาบอกอะไรขอบคงขอบคุณ
"มาคุยกันหน่อยไหม?'' เทพกล่าวพร้อมกับชูขวดไวน์ขึ้นมา เเต่ลิปอกลับก้มหน้าอยู่ตลอด ทำให้บัญชาเทพยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อครู่กันเเน่
“ไว้คราวหน้านะครับ…ถ้ามีโอกาส”
"ผมจะกลับมาดื่มกับเฮียอย่างเเน่นอน…ผมสัญญา'' น้ำตาของลิปอหยดลงพื้นเป็นจำนวนมาก พร้อมกับบัญชาเทพที่จะคว้าตัวลิปอเอาไว้เพื่อเเกล้งเขย่าให้ได้สติอีกครั้ง ทั้งคู่นั้นชอบเล่นแบบนี้ด้วยกันบ่อย เพราะเห็นว่าลิปอเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด
"อะ…อะไร?'' เเต่เมื่อเทพพยายามจะคว้าไหล่ของลิปอเอาไว้ ปรากฏว่าร่างของเทพดันพุ่งผ่านร่างของลิปอไป ขวดไวน์ได้ตกลงบนพื้นเเละเเตกในทันที
“ผมขอโทษ…สำหรับชีวิตที่เเล้ว”
"เเละขอบคุณสำหรับชีวิตนี้ด้วย!!'' ลิปอตะโกนออกมาก่อนจะคุกเข่าลงกับพื้นเเละก้มหัวลงพร้อมกับร่างของลิปอค่อยๆกลายเป็นเเสงวิบวับ บัญชาเทพตกใจมาก ทำให้เทพพยายามจะคว้าตัวของลิปอไว้อีกครั้ง ซึ่งมันก็เป็นเช่นเดิม เขาพุ่งผ่านตัวของลิปอไป
"ผมจะไม่ลืม…ผมจะไม่ลืมบุญคุณ!!!!!!'' ลิปอตะโกนครั้งสุดท้าย จากครั้งเเรกที่ทำให้สมาชิกทีมมามุงดูนอกห้องเเล้วทำให้วิ่งกันเข้ามาในห้องเมื่อเห็นว่าลิปอจะหายไปราวกับการตายในเกม เเต่มันก็สายไปเเล้ว ร่างของลิปอได้หายไป
'ขอให้เจ้าโชคดี...หลี่เล่อป๋อ'' เมื่อสิ้นเสียงสถานที่ก็เปลี่ยนไปพร้อมกับร่างขาวบริสุทธิ์ที่ค่อยๆจางหายไป โดยที่ร่างขาวนั่นนั่งดูสถานการณ์เมื่อครู่มาโดยตลอด
''ใช้ชีวิตให้สนุก''
''เเละสิ่งสุดท้ายที่ข้าจะมอบให้กับเจ้า...'' เสียงก้องในความคิดของหลี่เล่อป๋อพร้อมกับเเสงสีเขียวที่เข้าไปในเเสงสีขาว สุดท้ายลิปอก็เห็นเพียงเเต่เเสงที่ราวกับกำลังส่งเขาไปยังสักที่ จากฟ้าลงไปในบ้านหลังใหญ่หลังนึง เข้าไปที่เด็กน้อย
บ้านตระกูลหลี่
''อื้อ...อุเเว้!'' ทารกน้อยได้ถูกหมอหญิงที่ทำคลอดอุ้มออกมาให้กับสามีของคนที่คลอดเด็ก
''ดีล่ะ!...เจ้าชื่อหลี่เล่อป๋อ!'' คนเป็นพ่อมอบชื่อให้กับลูกชายคนกลางอย่างสุขสมปรารถนา เขานั้นอยากได้ลูกชายคนโต เเต่มิเป็นไร อย่างน้อยก็มาเป็นคนรอง
'อื้อ...พ่อ?...พ่อ!'
''อื้อ...อุเเว้!...อุเเว้!'' ทารกน้อยได้ร้องไห้ออกมาเมื่อได้เห็นหน้าพ่อของเขา ทำให้พ่อต้องมอบทารกให้กับหมอหญิงเพื่อดูอาการ
'เเม่!..'
''อุเเว้!'' เเละเมื่อทารกน้อยได้เห็นหน้าคนที่คลอดตนออกมา ทารกน้อยก็ได้ร้องไห้อีกครั้ง ทำให้หมอหญิงถึงกับอับจนหนทาง
"อุเเว้!!'' เเละเมื่อมีอีกเสียงนึงที่เป็นทารกเช่นเดียวกับตน เเต่คลอดมาก่อนตนเเล้ว ทำให้ลิปอรับรู้ได้ทันทีว่าทารกน้อยนั้นคือใคร ลิปอร้องออกมาจริงๆ ครอบครัวของเขาจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง!
ผ่านไปห้าปี
''เล่อป๋อ!!'' เสียงใสเรียกชื่อน้องชายของเธอ
''ว่าเช่นไร…เล่อปิงปิง'' น้องชายของเธอหันไปตอบกลับเธอ เเละได้พบว่าเธอนั้นกำลังจะมาชวนน้องชายไปวิ่งเล่น
''ไม่เอา...ข้าไม่อยากเล่น'' หลี่เล่อป๋อกล่าวปฏิเสธพร้อมกับนั่งฝึกสมาธิต่อ ถึงในใจอยากจะไปละเล่นกับพี่สาวฝาแฝดก็เถอะ เเต่เมื่อหลี่เล่อป๋อได้รับรู้หลายๆอย่างเกี่ยวกับโลกนี้ เขานั้นก็ไม่ได้เล่นอีกต่อไป เเละไม่ได้ทำสิ่งที่อยากจะทำ เพราะเขานั้นเป็นลูกชายคนเดียวของของเจ้าเมืองหลี่ลู่เหอ เเละวันนี้จะเป็นวันที่เขาต้องไปรับการทดสอบ เพื่อดูพรสวรรค์ ว่าจะเป็นอัจฉริยะ หรือขยะชิ้นดี
''เชอะ!...ข้าไปเล่นคนเดียวก็ได้!'' หลี่จือหลินกล่าวพร้อมกับสะบัดตัวไปยังอีกทาง
"เจ้าเพิ่งจะอายุห้าปี...ระวังด้วย'' หลี่เล่อป๋อกล่าวเตือนพี่สาวของตน เพราะไม่ว่าจะเป็นโลกไหน ทั้งครอบครัวของหลี่เล่อป๋อก็ยังเหมือนเดิม หลี่เล่อปิงนั้นเก่งเรื่องใช้ความรุนเเรงชอบความสนุก ท่านพ่อหลี่ลู่เหอเป็นคนฉลาดรู้ทันคน
ส่วนท่านเเม่หลี่จี้เหยาเป็นหญิงที่เก่งในทุกๆด้านเช่นกัน ซึ่งในชีวิตก่อนท่านเป็นคนญี่ปุ่น เเละเป็นคนที่อยู่ในระดับกลางๆ ไม่ดีเกินไป ไม่ร้ายเกินไป เเต่เธอรักคนรอบข้างของเธอมาก ซึ่งในตอนนี้ผู้ใหญ่ในครอบครัวได้รู้สึกกดดันเกี่ยวกับการวัดระดับพรสวรรค์ของหลี่เล่อป๋ออย่างมาก ถึงเเม้จะเห็นหลี่เล่อป๋อนั้นมีสมาธิ เเละเรียนรู้ไวเเถมยังฉลาด เเต่ก็ยังรู้สึกกดดันอยู่ดี เพราะถูกคนทั้งเมืองจับจ้อง
'ท่านพี่จะไม่ฝึกเลยจริงๆสินะ' ข้าได้มองเห็นเลเวลของพี่สาวข้าอยู่ที่ระดับหนึ่งเช่นเดิม เธอนั้นเเทบจะไม่ฝึกอะไรเลยเเม้เเต่นิดเดียว เอาเเต่เล่นสนุกไปวันๆ ท่านพ่อท่านเเม่ก็พยายามพูดเเล้วเเต่เธอก็ไม่ฟัง ซึ่งที่ข้านั้นเห็นเลเวลของเธอรวมถึงเลเวลของตัวเองก็อาจจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เจ้าร่างขาวนั้นมอบให้กับข้า ข้าจึงเรียกมันว่าดวงตาเกมเมอร์ เเละด้วยเลเวลสี่ของข้าในตอนนี้ถือว่างยังห่างไกลจากท่านพ่ออยู่นัก ยิ่งท่านปู่หลี่หงซวนนี่ไม่ต้องพูดถึง เเต่จะว่าไป ข้าชักจะเริ่มชินกับการพูดเช่นนี้เเล้วสิ…
หลี่ลู่เหอ เลเวล 48
หลี่หงซวน เลเวล 70
ซึ่งท่านพ่อเคยบอกข้าว่าท่านอยู่ในระดับแยกจิตขั้นสาม ส่วนท่านปู่น่าจะราวๆระดับหลุดพ้นขั้นสูง เลเวลยิ่งมากจะยิ่งเพิ่มยาก เเต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ยังไม่เเน่ใจว่าเลเวลพวกนี้มันเพิ่มขึ้นด้วยปัจจัยอะไรบ้าง เเต่ด้วยตัวข้าที่เลเวลสี่นั้น ยังต้องฝึกอีกกี่สิบปีกัน จนจะถึงเลเวลของพวกเขา ซึ่งถึงจะเห็นท่านพ่อยังหนุ่มๆแบบนี้ เเต่อายุของท่านก็ปาไปถึงเจ็ดสิบกว่าปีเเล้ว โดยที่พวกเรานั้นคือเผ่าเซียน เป็นเผ่าที่ไม่ค่อยยุ่งกับโลกภายนอก จะบำเพ็ญเพียรเป็นหลักเพื่อไปใช่ชีวิตที่สวรรค์ เเละกลายเป็นอมตะ เเต่ถึงเช่นนั้นก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถเป็นได้
ด้วยข้อจำกัดของอายุ โดยอายุคนทั่วไปของเผ่าเซียนจะสุดอยู่ที่สามร้อยปี ถ้าอยากมีอายุมากขึ้นต้องบำเพ็ญกายให้กายไม่หมดอายุไขไปเสียก่อน เเต่ถึงอย่างนั้นเเล้วการบำเพ็ญกายได้สูญหายไปเป็นหมื่นปีที่เเล้ว ทำให้ในตอนนี้เผ่าเซียนต้องมีพรสวรรค์จริงๆเท่านั้นถึงจะไปในระดับหลุดพ้นให้ได้ เเละยังต้องเเย่งกับคนอื่นเพื่อขึ้นไปสวรรค์อีก เพราะปีนึงสวรรค์จะรับเพียงเเค่หนึ่งคนเท่านั้น
ทำให้ทุกคนต้องฝึกกำลังภายใน เเละศิลปะป้องกันตัวควบคู่กันไปด้วย ใครพ่ายเเพ้การประลองก็ต้องรอต่อไป รอต่อไปเรื่อยๆจนหมดอายุไข เเต่ถึงกระนั้น กำลังภายในของเผ่าเซียนจะฝึกยากพอสมควร ยากกว่าเผ่ามนุษย์ปกติถึงสามเท่า ซึ่งในสองรุ่นของตระกูลหลี่ยังไม่ได้ขึ้นไปบนสวรรค์สักคน พวกเขานั้นไม่สามารถทะลวงขั้นได้ ด้วยพรสวรรค์ที่เป็นคนทั่วไป เเถมทรัพยากรณ์ในการฝึกยังไม่เยอะด้วย
เนื่องจากทรัพยากรณ์ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในโลกปกติ ที่นี่มันคือเเดนลึกลับของเผ่าเซียน ที่มีเเต่เผ่าเซียนเท่านั้นที่สามารถเข้าออกได้ เเละเมื่อพวกเขาออกไป ก็ต้องพบกับพวกมนุษย์ปกติที่จะเข้ามาหาเรื่องเเละจับไปทำอะไรบางอย่าง ในส่วนตรงนี้หลี่เล่อป๋อนั้นถามท่านพ่อเเต่ท่านพ่อไม่ยอมบอก ซึ่งเขานั้นได้ไปแอบฟังมาอีกทีนึง…
'ในตอนนี้ข้าต้องควบคุมจิตไปก่อน' หลี่เล่อป๋อกล่าวในใจ ซึ่งเป้าหมายของเขาไม่ว่าจะเป็นในเกมหรือตอนนี้ ก็ยังคงเหมือนเดิม ก็คือจะใช้กายในการขึ้นสวรรค์ เพราะการต่อสู้โดยใช้กายมันจะโจมตีเเรงกว่า อีกทั้งอาวุธที่ตนถนัดก็คือดาบ ตนต้องฝึกกายเพื่อให้ถือดาบได้ หรือก็คือจับดาบได้ เพราะนี่คือชีวิตจริงๆ ไม่ใช่เกม ถ้าตนพลาด มีเเต่คำว่าตายที่รออยู่
เเละที่ข้าต้องบำจิตไปก่อนเพราะว่าข้านั้นยังไม่รู้วิธีบำเพ็ญกาย เนื่องจากในเกมนั้นเพียงเเค่ปล่อยตัวนั่งสมาธิ หาของมาเลื่อนระดับ เเละกดเลื่อนระดับเพียงเท่านั้น เเต่ในตอนนี้ข้าต้องศึกษาเเละเริ่มฝึกโดยต้องมีวิธีฝึก เเต่วิธีนั้นมันได้สูญหายไปเสียเเล้ว ข้าจึงต้องทำใจบำเพ็ญตบะไปเสียก่อน
''อีกเพียงสองชั่วยามเเล้วสินะ'' ข้ากล่าวเมื่อนึกถึงเวลาที่เหลือ ที่จะต้องไปทดสอบพรสวรรค์ เเละในตอนนี้นั้นข้าเพิ่งจะอยู่ในระดับชำละล้างขั้นที่สอง อีกเพียงขั้นเดียวเท่านั้นข้าจะชำระล้างสำเร็จ
ณ สถานที่ทดสอบพรสวรรค์ ใจกลางเมือง
'เเละนี่เเหละมั้งที่ท่านพ่อกดดัน'' หลี่เว่ยป๋อคิด เเละตัวเขาเองก็เริ่มรู้สึกกดดันเช่นกัน เพราะมีคนมากมายได้มาดูพรสวรรค์ของตน
''เอาล่ะ...ว่างมือบนลูกเเก้ว...ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเจ้ายังเป็นลูกข้าเสมอ'' หลี่ลู่เหอกล่าวพร้อมกับประโยคหลังที่กล่าวเบาๆกับลูกชายคนเดียวของตน ส่วนพี่สาวฝาแฝด สำหรับผู้หญิงเเล้วไม่ค่อยมีการคาดหวังซะเท่าไหร่ จึงไม่เคร่งครัด ทำให้เธอยังไม่ต้องทดสอบพรสวรรค์ก่อน
หมับ
หลี่เล่อป๋อพยักหน้าเเละจับลูกเเก้วไว้ทั้งมือข้างขวา เเต่ลูกเเก้วก็ยังไม่เกิดอะไรขึ้น ยังคงเงียบไปสักพัก จนหลายคนเริ่มพูดกันกว่าเด็กคนนี้อาจจะไร้พรสวรรค์ ซึ่งวิธีบ่งบอกพรสวรรค์ก็คือ เมื่อจับไปที่ลูกเเก้ว จะปรากฏเเสงสีทองเป็นจุด มากสุดคือห้าสิบเก้าจุดเพราะเคยมีคนทำได้เพียงคนเดียว เเละปัจจุบันเขาคือผู้ยิ่งใหญ่บนสวรรค์คนนึง
''ท่านเจ้าเมือง...ข้าเสียใจด้วย'' เหล่าคนที่มาดูเมื่อได้เห็นว่าลูกเเก้วไม่เเสดงอะไรออกมา จึงกล่าวเเสดงความเสียใจให้กับหลี่ลู่เหอ เเละหลังจากนั้นก็มีอีกหลายคน หลี่ลู่เหอที่เป็นพ่อได้เเต่ก้มหน้ารับคำเเต่ในใจนั้นเเทบจะล้มทั้งยืน เขานั้นเป็นเจ้าเมืองที่มีเพียงลูกชายคนเดียว เเต่ลูกชายของเขากลับไร้พรสวรรค์? นี่อาจจะเเสดงให้เห็นเเล้วว่าตำเเหน่งเจ้าเมืองของเขาอาจจะถูกเปลี่ยนมือ
วึบวึบ วึบๆๆๆๆๆๆๆๆ
เเละเมื่อทุกคนเริ่มหายกันไป เเสงก็ได้ปรากฏขึ้นในลูกเเล้ว ซึ่งเเสงนั้นมีมากมาย มากกว่าเก้าดวงของผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นเสียอีก เเละเมื่อหลี่เล่อป๋อได้ลองนับดู ปรากฏว่าตัวเขานั้นมีพรสวรรค์ระดับเก้าสิบแปดดวง โดยที่ผู้ยิ่งใหญ่คนนั้นยังมีพรสวรรค์เพียงห้าสิบเก้าดวง…
''นะ...นะ...นี่มัน!?'' หลายคนถึงกับพูดไม่ออก เเละเมื่อได้สติก็กลับมาเเสดงความยินดีกับเจ้าเมืองกันยกใหญ่ จนเเทบจะหมอบกราบหลี่เล่อป๋อเลยก็ว่าได้ นี่มันบุตรเเห่งสวรรค์ชัดๆ ที่ผ่านมามากสุดก็มีเพียงเจ็ดสิบเจ็ดดวง เเละคนคนนั้นก็คือ ฮ่องเต้เซียนสวรรค์ เเต่นั่นคือเขาเป็นเชื้อสายผู้สร้างนะ!
''เเย่เเล้ว!...รีบพาเล่อป๋อกลับบ้านเดี๋ยวนี้!'' หลี่หงซวนกล่าวกับหลี่ลู่เหอลูกของตนทันที ทำให้หลี่ลู่เหอต้องรีบทำตามพ่อของตน