บทที่ 1
แกร๊ก ๆ
เสียงพิมพ์คีย์บอร์ดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แทบไม่ได้หยุดพักมาเป็นเวลานาน ‘แพม’ นักเขียนนิยายฝึกหัดมุ่งมั่นกับการแต่งนิยายเรื่องแรกในชีวิตของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย ที่ผ่านมาแพมผ่านการทำงานมาแล้วหลายอาชีพ แต่ก็ไม่ค่อยจะราบรื่นสักเท่าไรนัก
ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ แต่ก็ลาออกเพราะทนความท็อกซิกของเพื่อนร่วมงานไม่ไหว เป็นแม่ค้าออนไลน์ในตอนแรกก็ขายดี แต่พอสินค้าหมดกระแสจากขายดีก็กลายเป็นพอได้ขายทำให้เงินขาดมือ ไม่เว้นแม้แต่เป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่งเช่าที่ในตลาด สุดท้ายต้องถูกไล่ที่เพราะขายดีเกินหน้าเกินตาลูกเจ้าของตลาด ทำให้ต้องออกมาตั้งหลักหางานทำใหม่เสียทุกครั้ง
เมื่อไม่นานมานี้แพมได้ลงมือจับธุรกิจใหม่ นั่นก็คือการเป็นนักเขียนนิยายพร้อมรับตรวจพิสูจน์อักษร เธอเห็นว่าดี เป็นงานค่อนข้างใช้ความคิดสร้างสรรค์และความรู้รอบตัว อีกทั้งไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร ไม่ต้องคอยรับคำสั่งจากใครให้ยุ่งยาก หรือต้องออกไปยืนขายของตากแดดร้อน ๆ ทั้งวี่ทั้งวัน แม้จะมีข้อดีหลายอย่างแต่ก็เสี่ยงที่ผลงานจะไม่ได้รับความสนใจ
แพมสาวสวยวัยยี่สิบห้าเป็นคนไร้ญาติขาดมิตร ถึงอย่างนั้นเธอก็มิใช่ว่าจะอยู่ตัวคนเดียว เชษชายคนรักที่คบหากันมานานถึงสามปี แต่ก็เป็นผู้ชายที่ไม่เป็นโล่เป็นพายเอาแต่เกาะผู้หญิงกินไปวัน ๆ แต่เธอก็โง่เพราะความรักบังตา ยอมให้เขาหลอกตลอดระยะเวลาที่คบกัน เมื่อไม่นานมานี้แพมได้รู้ว่าเพื่อนที่ไม่ค่อยสนิทกับแฟนรวมหัวกันสวมเขาหักหลังเธออย่างหน้าด้าน ๆ โทษว่าเป็นความผิดของเธอเอง โทษว่าเป็นเพราะหวงตัวมากเกินไป ตลอดระยะเวลาที่คบกัน แม้เชษจะพยายามตะล่อมขอนอนด้วย แต่ก็ไม่เคยใจอ่อนสักครั้ง ทำให้เขาต้องไปปลดปล่อยกับคนอื่น เพียงเพราะเธอให้เขาไม่ได้
ความเจ็บช้ำน้ำใจที่ถูกทั้งเพื่อนและคนรักหักหลัง ทำให้หญิงสาวส่งผ่านความรู้สึกไปกับนิยายเรื่องแรก ‘บุปผาซ่อนใจ’ อะไรที่เธออยากจะทำกับแฟนเก่าและเพื่อน ก็ให้มันเกิดขึ้นกับตัวร้ายและตัวประกอบของเรื่องไปซะ
“นี่แนะ นอกใจฉันหรือ ฉันก็จะให้ตัวร้ายนอกใจแกเหมือนกัน” นิ้วเรียวยาวพิมพ์แป้นพิมพ์คีย์บอร์ดเร็วรัว ความรู้สึกคับแค้นใจทั้งหมดลงไปผ่านตัวละครในนิยาย
แม้นิยายเรื่องนี้จะมีกระแสตอบรับจากคนอ่านแยกออกไปในสองทิศทางก็ตาม แพมก็มิได้สนใจอะไรกับคอมเมนต์ฝ่ายเห็นใจตัวประกอบอย่างหนิงเซียน ทั้งที่หนิงเซียนรักตัวร้ายจนหมดใจแต่กลับกระทำอย่างแสนสาหัสก็ตาม
‘สงสารหนิงเซียนจัง ไรท์ทำไมใจร้ายแบบนี้’
‘หนิงเซียนทำอะไรผิด นางน่าสงสารนะ อยู่เฉย ๆ ก็ถูกผัวสั่งให้ทำแท้ง’
‘โห! เอาจริง นางเอกก็ใช่ย่อยนะ ตั้งใจมาแทงข้างหลังขนาดนั้นอ่ะ’
‘ไรท์เปลี่ยนบทให้หนิงเซียนมาเป็นนางเอกได้ไหมคะ เอานังเยว่สือไปเป็นตัวร้ายแทนเหมาะกับบทนางมาก’
หลังจากอ่านคอมเมนต์ของเหล่านักอ่านทำเอาหนังตาแทบกระตุก เธอให้บทตัวร้ายไปตั้งขนาดนั้น กลับไม่มีใครโทษฝ่ายชายเลย ทุกการกระทำที่ตัวร้ายทำ มันคือพฤติกรรมของไอ้เชษแฟนเก่าเฮงซวยของเธอนั่นเอง หาผลประโยชน์จากผู้หญิง การนอกใจ ล้วนแล้วแต่กลั่นออกมาจากความโกรธแค้นที่มีอยู่ในใจของแพมทั้งสิ้น
ยังไม่นับเพื่อนสาวเพียงคนเดียวที่เธออุตส่าห์ไว้ใจ รวมหัวกันกับเชษหลอกเอาเงินเธอไป แล้วก็หนีไปเสวยสุขด้วยกัน เจ็บใจนักเชียว ด้วยเหตุนี้ทำให้ต้องดรอปเรียนเพราะไม่มีเงินค่าเทอม แต่จะว่าใครได้ในเมื่อตัวเธอเองที่โง่ให้พวกนั้นหลอกเอง ตอนนี้ก็คงจะต้องทำงานหาเงินตัวเป็นเกลียว กลับมาจุดเริ่มต้นเดิม ๆ อีกครั้ง
“อยากจะรวยแบบไม่รู้เรื่องจริงจริ๊ง ทำไมมันเหนื่อยแบบนี้นะ” พอได้มีเวลาพักคิดถึงเรื่องราวความหลัง แพมเริ่มบ่นกระปอดกระแปด เธอเริ่มต้นใหม่ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนรู้สึกว่าชีวิตนี้เมื่อไหร่จะสุขสบายอย่างใครเขาเสียที แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นหญิงแกร่งอย่างเธอก็สู้ไม่เคยถอย
หลังจากเขียนนิยายโต้รุ่งมาหลายวัน ในที่สุดก็จบเรื่องได้เสียที ตัวละครพระเอกของเรื่องเธอได้ใส่สเปคผู้ชายที่ตนเองชื่นชอบลงไปด้วย เพราะถึงอย่างไรผู้ชายดี ๆ ก็คงจะมีเพียงแค่ในนิยายเท่านั้นแหละ คงไม่มีวันได้พบเจอ ร่างบางลุกขึ้นบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาที ก่อนจะเดินเข้าห้องครัวไปหาของกินเติมพลังเสียหน่อย ลังนมวัวยี่ห้อดังถูกวางซ้อนกันเป็นชั้น ๆ แม้แต่ในตู้เย็นนอกจากของสด ผัก ก็มีนมกล่องนี้แหละที่ถูกอัดแน่นไม่แพ้กัน
หากจะบอกว่าเธอชอบดื่มนมน่ะหรือ บอกเลยว่าไม่ แต่ที่มันมีมากมายขนาดนั้น ก็เพราะหลังกล่องนมมีให้สแกนคิวอาร์โค้ดชิงโชคต่างหาก ของรางวัลใหญ่มีสองรางวัล รางวัลแรกได้เงินสดจำนวนหนึ่งล้านบาท รางวัลที่สองจะได้บัตรมีตติ้งศิลปินไอดอลชื่อดังจากประเทศเกาหลี สิ่งที่แพมหมายตาไม่ใช่เงินล้านแต่อย่างใดแต่มันคือบัตรมีตติ้งต่างหาก เธอถึงได้ลงทุนเหมานมกล่องในร้านสะดวกซื้อหลากสีข้างตึกมาทุกครั้งที่มีของ
“รอแพมก่อนนะพี่จ๋า คิก คิก” หญิงสาวยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อ้าแขนโอบกอดภาพโปสเตอร์ขนาดใหญ่ของศิลปินคนโปรดที่เจ้าตัวนำไปติดไว้ผนังห้อง ในมือก็ยังมีกล่องนมที่ดูดไปแล้วกว่าครึ่งกล่อง ตัวเองอดได้แต่เรื่องผู้ชายห้ามอด ครั้งนี้จะพลาดไม่ได้ เพราะตอนกดบัตรคอนเสิร์ตก็พลาดไปครั้งหนึ่งแล้ว
เมื่อเติมพลังจนเต็มอิ่ม แพมจึงกลับไปนั่งประจำที่ ลุยงานที่ทำค้างไว้ต่อให้เสร็จ ก่อนจะส่งไฟล์งานเข้าระบบเพื่อทำเป็นอีบุ๊กเป็นขั้นตอนสุดท้าย ถึงเวลาที่เธอจะได้นอนพักเสียที ทีนี้ก็มารอลุ้นกันว่ายอดขายเดือนแรกของการเป็นนักเขียนจะเป็นอย่างไร รวมไปถึงบัตรมีตติ้งที่เธอคาดหวังมากกว่าสิ่งใด
เป็นเวลาหนึ่งเดือนที่แพมตั้งตารอยอดขาย รายได้ก้อนแรกถูกโอนเข้าบัญชีจำนวนเงินกว่าสี่หมื่นบาท ไม่น่าเชื่อว่าผลตอบรับจะดีถึงขนาดนี้ แต่ตอนนี้เรื่องนิยายพับเก็บไว้ก่อนชั่วคราว อีกห้านาทีก็จะถึงเวลาเที่ยงวัน การประกาศผลผู้โชคดีกำลังจะมาถึงแล้ว
“บัตรมีตติ้งต้องเป็นของฉัน” หญิงสาวมีสีหน้าเคร่งเครียด อยากจะได้บัตรมีตติ้งมาไว้ในครอบครองเหลือเกิน หวังว่าเธอจะมีดวงทางด้านเสี่ยงโชคบ้าง
นิ้วเรียวยาวค่อย ๆ กดเข้าลิงก์ประกาศผล ในใจก็สวดภาวนาให้ตัวเองได้เข้าไปใกล้ชิดศิลปินคนโปรดสักครั้งในชีวิต ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นการประกาศผลผู้โชคดี ลมหายใจติดขัด อัตราการเต้นของหัวใจเร็วผิดปกติ ความรู้สึกมันจุกอยู่ในอกหายใจไม่ออก
“ไม่เอาเงิน ฉันจะเอาบัตรมีตติ้ง เฮือก!!”
ลมหายใจเฮือกสุดท้าย ก่อนที่แพมจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะทำงาน แล้วสิ้นลมหายใจไปด้วยอาการหัวใจวายฉับพลัน....