บทที่ 3 ครอบครัวเดิมเพิ่มเติมคือพี่ชาย
พลันความคิดต้องหยุดลงเพราะเสียงประตูที่เปิดดังปัง !!
"หลันเอ๋อร์!! น้องพี่เจ้าฟื้นแล้วพี่ดีใจยิ่งนัก เจ้าป่วยหมดสติอยู่หลายวันพี่จึงต้องออกไปหาสมุนไพรขายเพื่อนำเงินไปจ้างหมอมารักษาเจ้า" เฉินหยางเอ่ยยืดยาวพร้อมกับเดินไปกอดน้องสาวแน่นด้วยความดีใจ
หืม...นี่นางมายังโลกนี้ไม่ถึงวันก็โดนผู้ชายกอดแล้วหรือ ข้าวหอมเค้นความทรงจำของร่างเก่า บุรุษตรงหน้าคือพี่ชายของนางอย่างนั้นหรือ พี่ชายของนางมีนามว่า หลินเฉินหยาง อายุสิบหกปี ร่างกายสูงโปร่ง ออกจะผอมไปนิด ตา คิ้ว จมูก ปาก โครงหน้าหล่อเหลารวมแล้วมีเสน่ห์ไม่น้อย
"น้องฟื้นแล้วเจ้าค่ะ แล้วก็รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นมากด้วย" นางเอ่ยตอบ
"เช่นนั้นก็ดีแล้ว เจ้าหิวหรือไม่ ท่านแม่เตรียมอาหารเสร็จแล้วประเดี๋ยวพี่จะยกสำรับมาให้" หลินเฉินหยางเอ่ยถามน้องสาว นางเพิ่งจะฟื้นคงยังไม่ค่อยมีแรงเดินออกไปทานข้าวด้านนอก เขาจึงอาสายกสำรับมาให้นาง
"ไม่ต้องเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าจะออกไปทานข้าวพร้อมกับท่านพ่อ ท่านแม่ และพี่ใหญ่ด้านนอกเอง" นางอยากเดินยืดเส้นยืดสายบ้างรู้สึกว่าร่างกายนี้มันปวดเมื่อยยิ่งนักสงสัยคงเป็นเพราะนอนป่วยมานาน
"เรารีบไปกันเถิดประเดี๋ยวท่านพ่อและท่านแม่จะคอยนาน " หลินเฉินหยางเอ่ยพร้อมกับลุกขึ้นพยุงน้องสาวของตนให้ลุกขึ้นยืนทันที
"เจ้าค่ะพี่ใหญ่" นางเอ่ยพร้อมกับให้พี่ชายของร่างนี้ช่วยเดินพยุงมายังด้านนอก เมื่อเดินออกมาถึงโต๊ะอาหารก็พบกับบิดาและมารดานั่งรออยู่พอดี
"หลันเอ๋อร์เจ้าหายดีแล้วหรือลูกถึงออกมาทานข้าวข้างนอกได้" หลินเฉินหยวนเอ่ยถามบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงเพราะนางเพิ่งฟื้นขึ้นมากลัวว่าโดนลมแล้วไข้จะกลับมาอีก
"ลูกหายดีแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ" นางเอ่ยตอบพร้อมกับเดินไปกอดท่านด้วยความคิดถึงเพราะใบหน้าของท่านเหมือนกับพ่อของนางในโลกเก่า แต่ร่างนี้ท่านร่างกายซูบผอมมาก แขน ขาก็เหมือนจะไม่ค่อยมีแรงเท่าไร
"เช่นนั้นก็ดีแล้ว พวกเราทานข้าวกันเถิดประเดี๋ยวกับข้าวจะเย็นเสียหมด" หลินเฉินหยวนกอดตอบบุตรสาวพร้อมเอ่ยบอกทุกคน
"เจ้าค่ะ/ขอรับท่านพ่อ" นางและพี่ชายเอ่ยพร้อมกัน ระหว่างทานข้าวนางสังเกตว่าถึงแม้ครอบครัวจะลำบากอยู่บ้างแต่ก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาทำให้มีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว
ยามซวี (19.00-20.59)
ไป๋หลันนั่งเรียบเรียงความทรงจำคร่าว ๆ เมืองนี้มีชื่อว่าเมืองหนานเหอ เป็นเมืองขนาดกลางถือว่ามีความเจริญรุ่งเรืองอยู่ไม่น้อย บ้านที่อาศัยนี้อยู่ติดชายป่า มีลำธารใกล้ ๆ ชาวบ้านอาศัยละแวกนี้ไม่มากนัก ห่างออกไปราวสี่ลี้ก็จะเจอตลาด
พี่ชายของนางเล่าว่าป่าแห่งนี้ชื่อว่า ป่าหมอกอสูร ชาวบ้านบางคนเข้าไปหาสมุนไพรบริเวณป่าด้านนอก จะได้สมุนไพรระดับต่ำมาขาย แต่ป่าชั้นกลางและป่าชั้นในนั้นไม่ค่อยมีคนเข้าไปเพราะมีสัตว์อสูรที่มีระดับกลาง และระดับสูงอาศัยอยู่ ถ้าคนที่มีพลังปราณไม่แข็งแกร่งก็จะเอาชีวิตไปทิ้งเสียเปล่า ๆ
พี่ชายของนางนั้นมีพลังปราณระดับจอมยุทธ์ขั้นกลาง มีธาตุน้ำ ลม ตอนที่พี่ชายอายุห้าขวบ ได้เข้าวัดพลังธาตุและเริ่มฝึกฝนด้วยตนเองจากตำราฝึกยุทธ์ และตำราฝึกปราณหายากของบิดาจนฝีมือเก่งกาจอยู่ไม่น้อย พี่ชายของนางต้องออกหาสมุนไพรในเขตป่าชั้นกลางอยู่บ่อย ๆ เพื่อนำเงินมาจุนเจือครอบครัวและซื้อยาบำรุงให้ท่านบิดาเพื่อให้ร่างกายของท่านมีเรี่ยวแรงมากขึ้น
ระดับพลังปราณ (ต่ำ กลาง สูง)
หนึ่ง ระดับก่อเกิด -สีแดง
สอง ระดับหลอมรวม -สีส้ม
สาม ระดับแก่นแท้ -สีเหลือง
สี่ ระดับดับจอมยุทธ์ -สีเขียว
ห้า ระดับจักรพรรดิ์ -สีม่วง
หก ระดับราชันย์ -สีน้ำเงิน
เจ็ด ระดับเทวะ -สีคราม
แปด ระดับเทพ -สีดำ
เก้า ระดับเซียน - สีขาว
ธาตุ
ธาตุธรรมดา ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม้
ธาตุหายาก น้ำแข็ง แสง มืด มิติธาตุ