หลันลู่อิง เกิดใหม่ทั้งทีชีวิตต้องดีกว่าเดิม (ยุค 70)
บทย่อ
เมื่อต้องทะลุมิติมาในครอบครัวที่แสนจะลำบากยากจน บ้านย่าก็เอาแต่รังเกียจและเอาเปรียบต่างๆ นานา คอยดูเธอจะทำให้ครอบครัวใหม่มีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้ นางร้ายอย่างเธอซะอย่าง ให้มันรู้ไปว่าเธอจะทำไม่ได้ เมื่อทะลุมิติมาในร่างเด็กสาวอายุสิบสองปี เธอจะทำเช่นไร ครอบครัวลำบากยากจน พ่อแม่ต้องทำงานในคอมมูน บ้านย่ารังเกียจเอาเปรียบต่างๆ นานา ยังมีพี่ชายฝาแฝดอีกหนึ่งคน เธอจะทำให้ครอบครัวใหม่มีชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้ นางร้ายและนักธุรกิจเช่นเธอเรื่องแค่นี้ไม่ใช่ปัญหา ในเมื่อเธอมีกลโกงอยู่ในตัว ใช่แล้ว เธอมีมิติ มิติที่เป็นศูนย์รวมทุกอย่างในกิจการของเธอ พร้อมคฤหาสน์หลังงาม แม้ว่าจะมีของมากมายให้เลือกใช้ แต่ยุคนี้เธอดันทะลุเข้ามาในปี 1973 ซึ่งเป็นยุคข้าวยากหมากแพง สุดแสนจะลำบาก ทำการค้าก็ไม่ได้นอกจากจะแอบไปตลาดมืด อีกทั้งร่างนี้อายุเพียงสิบสองปีเท่านั้น แต่ช่างมัน อันดับแรกต้องเอาปากท้องครอบครัวให้อิ่มก่อน และเธอกับพี่ใหญ่จะต้องได้เรียนหนังสือ ส่วนบ้านย่าร้ายมาร้ายกลับไม่โกงค่ะ
บทที่ 1 นางร้ายมาเฟีย
บทที่ 1 นางร้ายมาเฟีย
ริชชี่นางร้ายแนวหน้าของประเทศ เบื้องหน้าคือนักธุรกิจร่ำรวยเงินทอง เบื้องหลังคือมาเฟียสาวที่ฆ่าคนไม่กะพริบตา เธอคือลูกเลี้ยงของมาเฟียตัวร้ายในอิตาลี่ ที่มีเครือข่ายทั่วโลก
“คุณริชชี่ครับ วันนี้ต้องส่งสินค้า คุณจะไปเองไหมครับ” นพดลมือขวาของริชชี่เขาเปรียบเสมือนพี่ชายของเธอเอ่ยถาม
“ไปสิพี่ดล วันนี้วันสำคัญฉันไม่ไปไม่ได้หรอก แต่ฉันรู้สึกไม่ดีเลย พี่ช่วยเรียกทนายมาให้หน่อยได้ไหม”
เอาตรงๆ เธอคิดว่าจะเกิดเรื่องในวันนี้ หากเธอเป็นอะไรไป เธอพร้อมที่จะยกทรัพย์สินที่เธอมีให้กับพี่ชายบุญธรรมคนนี้ เธอรู้ว่าเขาเป็นคนดีแม้ว่าจะต้องมาทำงานสายมืดกับเธอก็ตาม
“ครับ” นพดลเลือกที่จะไม่ถาม เพราะรู้ดีกว่าริชชี่คงจะคิดดีแล้ว เธอมักจะคิดก่อนทำเสมอ
หลังจากที่นพดลออกไปริชชี่ทบทวนกับสิ่งที่เธอฝันมาหลายคืนติดๆ เธอฝันถึงครอบครัวหนึ่ง มีพ่อแม่ และลูกชายลูกสาวฝาแฝด ทั้งสี่คนใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก แม้ว่าจะอยู่กับบ้านหลัน แต่สี่คนไม่ต่างจากทาส กินไม่เคยอิ่ม นอนไม่เคยพอ
เด็กทั้งสองคนเรียนจบแค่ประถมด้วยความสามารถของพ่อแม่ ส่วนเรื่องเรียนมัธยมนั้นเธอได้ยินว่าผู้เป็นย่าไม่ให้เรียนต่อ โดยให้เหตุผลว่าต้องส่งเสียหลานคนโปรดเรียน ส่วนบ้านรองเช่นครอบครัวนี้ทำงานอย่างทาสต่อไป
เท่าที่ฝันเห็นร่างกายของเด็กสาวคนนั้นน่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เจ็บป่วยตลอด แต่ยังต้องทำงานแลกแต้มที่คอมมูนอีก เธอไม่เข้าใจว่าทำไมจึงไม่แยกบ้านไป ในเมื่ออยู่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ก็นะมันเป็นเพียงความฝันเท่านั้น หากเป็นเรื่องจริงแล้วยอมขนาดนี้คงโง่เต็มทีแล้ว
ริชชี่คิดเรื่องนี้วนไปเวียนมาจนพดลเข้ามาพร้อมกับทนายชัยวัฒน์
“สวัสดีครับคุณริชชี่”
“สวัสดีค่ะคุณชัยวัฒน์ ฉันขอไม่พูดมากนะ ฉันต้องการทำพินัยกรรม คุณช่วยร่างตามที่ฉันพูดด้วยนะ”
ริชชี่ไม่อยากพูดอะไรมาก ความไม่สบายใจบวกกับความฝันแปลกๆ ทั้งสองเรื่องอาจจะเกี่ยวข้องกัน
“ครับ”
ทนายตอบรับโดยที่ริชชี่ให้นพดลอยู่ฟังด้วยพร้อมกับตามลูกน้องคนสนิทมาอีกสองคนเพื่อเป็นพยาน
“ฉัน นางสาวริชชี่.... ขอมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับนายนพดล พี่ชายบุญธรรมพ่วงตำแหน่งมือขวาคนสนิท” นพดลเตรียมจะค้านแต่ริชชี่ยกมือห้ามไว้ ก่อนจะพูดต่อ “และขอมอบเงินสดจำนวนหนึ่งร้อยล้านบาทให้แก่โรงพยาบาล…อีกหนึ่งร้อยล้านบาทให้กับบ้านเด็กกำพร้า”
ริชชี่จัดสรรเงินสดมอบให้กับโรงพยาบาลและบ้านเด็กกำพร้า โดยมีอีกบางส่วนมอบให้กับลูกน้องคนสนิทคนอื่นๆ และอีกหลายคนที่ร่วมหัวจมท้ายกับเธอมาหลายปี หลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว คนสนิทได้ส่งตัวทนายกลับ และเอาพินัยกรรมไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย โดยเธอทำไว้สามฉบับ ฉบับแรกเก็บในตู้เซฟนิรภัยของตนเอง ส่วนที่เหลือเก็บไว้ที่ทนายและนพดลคนละฉบับ
“ทำแบบนี้ทำไม” นพดลเอ่ยถามเมื่ออยู่กันสองคน จึงใช้น้ำเสียงของพี่ชายเอ่ยกับน้องสาว
“ฉันแค่รู้สึกไม่ดี เลยอยากจะทำพินัยกรรมไว้ พี่ก็รู้ว่าฉันไม่เคยพลาดเรื่องนี้” ริชชี่ส่งยิ้มที่มีแต่ความเศร้าไปให้ ในใจเธอรู้สึกโหวงเหวงชอบกล เมื่อคิดว่าต้องห่างจากพี่ชายคนนี้ที่โตมาด้วยกัน
“พี่สัญญาได้ไหม หากเมื่อไหร่ที่ไม่มีน้องสาวคนนี้แล้ว พี่ล้างมือแล้วมาบริหารธุรกิจของฉัน พร้อมกับมีครอบครัวได้ไหม”
“ครั้งนี้เราอาจจะคิดพลาดก็ได้นะริชชี่ ในเมื่อรู้ว่าอาจจะเกิดปัญหา คืนนี้ก็ไม่ต้องไป พี่จัดการเอง” นพดลแม้จะรู้ว่าห้ามไม่ได้ น้องสาวบุญธรรมของเขาคนนี้หากตัดสินใจแล้วอะไรก็ห้ามไม่อยู่
“พี่ดล ฟังฉันนะ ฉันเหนื่อยแล้วจริงๆ กับชีวิตแบบนี้ ต่อให้วันนี้ฉันไม่ไป แต่ใครกล้าบอกว่าฉันจะหนีชะตาชีวิตของตนเองพ้น บางทีการคาดคะเนของฉันอาจจะผิดพลาดก็ได้ ไม่แน่ฉันอาจจะได้กลับมา”
นพดลตาแดงก่ำ “พี่ดีใจนะที่ได้ใช้ชีวิตกับเราในฐานะพี่ชาย และขอบใจมากกับสิ่งที่มอบให้พี่ชายนอกสายเลือดคนนี้ พี่สัญญาว่าพี่จะทำตามความปรารถนาของริชชี่ พี่ขอกอดเราหน่อยได้ไหม”
“ได้สิ” ริชชี่อ้าแขนกว้างกอดพี่ชายนอกสายเลือดคนนี้ทั้งน้ำตา นพดลเองไม่เคยหลั่งน้ำตาให้ใคร แต่พอคิดถึงลางสังหรณ์ที่ไม่เคยพลาดของน้องสาวคนนี้ น้ำตาลูกผู้ชายไหลไม่หยุด ความรู้สึกของคนสองคนเหมือนเป็นการอำลาและจากลากันตลอดกาลหลังจากผ่านค่ำคืนนี้ไป
คืนนี้เป็นนัดส่งของ ซึ่งมันเป็นอย่างที่ริชชี่คาดการณ์ไว้จริงๆ ฝ่ายตรงข้ามต้องการจะปลิดชีพเธอแบบไม่ต้องสงสัย
เธอไม่ใช่คนที่ใครจะเล่นงานได้ง่ายๆ วันนี้เธอพร้อมแล้วทุกอย่าง แม้ว่าจะอยู่ในวงล้อมของศัตรูก็ตาม เธอมองหน้าพี่ชายบุญธรรมและคนสนิทของตนเอง
“พี่ดล พี่พาทุกคนฝ่าวงล้อมออกไป พี่จำฉันไว้ว่าพี่และทุกคนต้องรอด ต้องมีชีวิตรอดเท่านั้น นี่คือคำขอครั้งสุดท้าย”
เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ในเมื่อมันเป็นชะตา ใครก็ไม่อาจจะฝืนได้ ตายเพียงแค่เธอแต่อีกหลายสิบชีวิตต้องรอด
“บอส! / ริชชี่!”
ชายหนุ่มทุกคนมองเจ้านายสาวอย่างไม่วางตา ไม่คิดว่าเพื่อให้ทุกคนมีชีวิตรอด เจ้านายสาวจะยอมสละตัวเอง ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่ได้มีค่าขนาดนั้น
“อยากตอบแทนฉัน จงมีชีวิตรอดให้ได้ ทั้งชีวิตฉันมีเพียงพี่ดลเป็นทั้งคนสนิทและเปรียบเสมือนพี่ชายคลานตามกันมา หวังว่าทุกคนจะไม่ทิ้งพี่ชายคนนี้ของฉัน ฉันอยากพักเต็มทีแล้ว เมื่อฉันส่งสัญญาณทุกคนจงรีบฝ่าวงล้อมออกไป นี่คือคำสั่ง!”
นี่คือคำสั่งเสียเพียงเล็กน้อย แต่ทำให้ทุกคนหลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งแม้จะไม่ยินยอมก็ตาม เพราะแต่ละคนรู้ดีว่าคุณริชชี่พูดคำไหนคำนั้น จึงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ
หลังจากที่ส่งสายตาให้ทุกคนเธอจึงถอดเสื้อนอกออกเหลือเพียงเสื้อกล้าม แต่ทั้งตัวเต็มไปด้วยระเบิดพลีชีพ
“ริชชี่ ทำไม...” เขารู้ความหมายของน้องสาวคนนี้ทั้งหมดแล้ว เพื่อให้ทุกคนรอด เธอยอมสละชีวิตตัวเอง
“ต่อให้วันนี้ฉันรอดไปได้ อีกไม่นานฉันก็ต้องหมดลมหายใจ อย่างที่ฉันบอกพี่และทุกคน ฉันเหนื่อยแล้ว ไม่ตายวันนี้วันหน้าก็ต้องตาย ทำตามที่ฉันสั่ง!”
ริชชี่บอกทุกคนเสียงเหี้ยม ก่อนจะลุกขึ้นยืนด้วยสายตาที่มั่นคงบวกจิตใจอันแน่วแน่
“หยุด! ถ้าอยากตายก็ยิงมา พี่ดลพาทุกคนออกไป แล้วรีบไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด”
ริชชี่บอกเสียงกร้าว ฝ่ายตรงข้ามไม่มีใครคิดว่าเธอจะกล้าพลีชีพตัวเอง หากยิงไปมีหวังมาเฟียสาวคนนี้ทำตามอย่างที่พูดจริงๆ
นพดลแม้จะไม่ยินยอมแต่เมื่อมันเป็นคำสั่ง และห้ามไม่ได้เขาจึงเดินจากไปพร้อมทุกคนด้วยความไม่ยินยอม พอรถเคลื่อนตัวออกมาไม่นานเท่าไหร่ โกดังแห่งนั้นเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว และรู้ว่าคงไม่มีใครมีชีวิตรอดออกมาสักราย ตู้ม!!
ร่างโปร่งแสงยืนมองคนของเธอจากไปด้วยรอยยิ้ม และหวังเพียงว่าจากนี้ไปพี่ดลและทุกคนจะมีชีวิตที่ดีขึ้น
ข่าวการจากไปของมาเฟียสาวโด่งดังอยู่หลายวัน นพดลแม้ว่าจะหาร่างของเธอไม่พบเขายังคงทำพิธีศพของเธออย่างไม่มีตกหล่น และเขาเองวางมือจากเรื่องทุกอย่างมาบริหารกิจการและธุรกิจของเธออย่างโดยดีพร้อมกับลูกน้องที่ริชชี่พลีชีพเพื่อช่วยเหลือ
ทุกคนจำคำมั่นสัญญาของตนเองได้ โดยไม่มีใครคิดที่จะไปจากนพดลเพียงคนเดียว จากนั้นไม่นานนพดลจึงก่อตั้งมูลนิธิภายใต้ชื่อของริชชี่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เป็นน้องสาวนอกสายเลือดของเขา