บทที่ 2
“ถ้าอย่างนั้น โปรดจำไว้ 2 ข้อ หนึ่งคุณสามารถอยู่ในโลกนี้ได้เพียง 24 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น และ 24 ชั่วโมงในโลกใบนี้จะมีเวลาเท่ากับ 1 วินาทีของโลกที่คุณหลงเฟยอาศัยอยู่ (แปลว่า หากที่โลกเดิมเวลา 09.00.00 นาฬิกา เข้ามาสู่โลกใบนี้ อยู่ได้ 24 ชั่วโมง เมื่อกลับไป เวลาจะอยู่ที่ 09.00.01 นาฬิกา)”
“อย่างที่สองที่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ ถ้าคุณหลงเฟยตายในโลกใบนี้ จะเท่ากับว่าตายไปจริงๆ ในโลกเดิมด้วยนะคะ โปรดใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังด้วย” รีเอลกล่าวเตือนอย่างห่วงใยในท้ายประโยค
“เข้าใจแล้วครับ ผมคงต้องระวังตัวเองเป็นพิเศษ เพื่อที่จะไม่ให้ตัวเองตายสินะครับ”
“ขอเพียงแค่คุณหลงเฟยขยันฝึกซ้อมสักปี สองปี ก็สามารถใช้ชีวิตและเดินทางเที่ยวรอบโลกได้อย่างสบายๆ แล้วค่ะ ต่อไป... จะเป็นของใช้พื้นฐานนะคะ แล้วก็จะมีกล่องสุ่มพิเศษที่ทางเรามอบให้นักผจญภัยหน้าใหม่ 1 กล่องค่ะ และถ้าต้องการสุ่มกล่องเพิ่มอีก ทางเรามีโหมดให้เลือกในภายหลัง ซึ่งคุณหลงเฟยสามารถศึกษาเอาเองได้ค่ะ”
ไม่นานก็มีเสียงดังขึ้นภายในหูของเขาว่า ‘คุณหลงเฟยได้รับ กล่องสุ่มพิเศษ 1 กล่อง กล่องข้าวเลือกเมนู (สามารถเลือกเมนูอะไรก็ได้) 10 กล่อง น้ำยาเพิ่มพลังชีวิตทั่วไป 20 ขวด เงิน 1000 เหรียญทองแดง ยินดีด้วยค่ะ’
ปล. 100 ทองแดง = 1 เงิน , 100 เงิน = 1 ทอง
“แล้วผมจะเปิดกล่องสุ่มได้ยังไงครับ คุณรีเอล”
“ของทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ในคลังเก็บของที่สามารถเก็บได้มากถึง 20 ช่อง ของที่ซ้ำกันจะถูกจัดเก็บไว้ในช่องเดียวกันได้ 100 ชิ้น หากคุณหลงเฟยต้องการเปิดกล่องสุ่ม เพียงแค่เรียกกล่องสุ่มออกมาจากคลังเก็บของ จากนั้นก็พูดว่า ‘เปิดกล่อง’ คุณก็จะได้รับของที่สุ่มมาได้ค่ะ”
หลงเฟยหยิบกล่องออกมาก่อนจะพูดตามที่รีเอลบอก จากนั้นก็มีแสงเปล่งออกมาจากกล่อง ก่อนที่จะเป็นเสียงดังขึ้นในหูของเขาอีกครั้ง
‘คุณหลงเฟยได้รับ ถุงยามเก่าๆ ระดับ A ยินดีด้วยค่ะ’
สิ้นเสียงรายงานก็มี ถุงย่ามเก่าๆ ปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่าตรงหน้าของหลงเฟย โดยมีรายละเอียดแสดงขึ้นมาด้วย เพื่อให้เขาได้ทราบว่าคุณสมบัติของมัน คือ สามารถเก็บของได้ทั้งหมด 300 ช่อง ของซ้ำกันได้ช่องละ 100 ชิ้น
“ค่า LUCK ไม่ได้ช่วยทุกอย่างสินะ ได้อะไรไม่ได้ ได้ของเก่าๆ เฮ้อ” หลงเฟยบ่นพึมพำอยู่คนเดียว
“มีอะไรสงสัยอีกไหมคะ ถ้าไม่มี ดิฉันจะเริ่มทำการส่งคุณหลงเฟยไปยังอีกโลกหนึ่งค่ะ และก่อนเวลาหมด 5 นาที ดิฉันจะมาแจ้งให้คุณทราบอีกครั้งค่ะ”
“ตอนนี้ยังไม่มีอะไรสงสัยครับ แต่ถ้าสงสัยอะไรเพิ่มเติม ผมสามารถถามได้ตลอดเลยหรือป่าวครับ”
“ไม่ตลอดค่ะ คุณหลงเฟยจะพบกับดิฉันได้วันละ 2 ครั้ง คือ ก่อนที่จะเข้าและก่อนที่จะออกจากโลกใบนี้รวมทั้งหมด 10 นาทีค่ะ”
“ทราบแล้วครับ ยังไงหลังจากนี้ต้องรบกวนคุณรีเอลด้วยนะครับ”
“เช่นกันค่ะ เริ่มส่งคุณหลงเฟยไปยังโลก MAGIC ในอีก 3....2...1”
หลงเฟยพบว่ามีแสงว่างจ้าขึ้นรอบตัวของเขาอีกครั้ง และเมื่อแสงจางหายไปก็พบว่า ตัวเองมายืนอยู่บนลานกว้างแห่งหนึ่ง รอบตัวมีแต่ความมืดมองอะไรได้ไม่ชัดเจน แถมอากาศก็ค่อนข้างจะหนาว
หลงเฟยเรียกสติของตัวเองกลับมา เขายังคงไม่หลงลืมเรื่องการตาย ว่าถ้าตายในโลกนี้ตัวตนในโลกจริงของเขาก็จะตายไปด้วย เขาเปิดเมนู ‘ระบบแผนที่’ ขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าเขาอยู่ที่ลานกว้างของเมืองแอนวีน เวลาตีสี่ของโลกนี้
‘มิน่าถึงมืดขนาดนี้ เวลาใกล้เช้าแล้วนี้เอง เมืองนี้ชื่อแอนวีนเหรอเนี่ย’ เขาคิดขณะเดินสำรวจบริเวณรอบๆ ลานกว้างนี้มีน้ำพุตั้งอยู่กลางลานกว้าง ไม่นานก็มีผู้คนที่แต่งตัวเหมือนกับทหารปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าหลงเฟย ทหารทั้งสี่นายเมื่อมองเห็นหลงเฟยก็รีบชักอาวุธออกมา
สองคนทางด้านซ้ายชักดาบออกมา ส่วนอีกสองคนที่ยืนเยืองไปทางด้านหลังเล็กน้อยง้างสายธนูขึ้นเล็งลูกศรธนูมาทางหลงเฟย เตรียมพร้อมที่จะยิง
“หยุดอย่าขยับ! ถ้าไม่อย่างงั้นข้ายิงเจ้าแน่” ทหารคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านหลังสุดในกลุ่มทหารสี่คนตรงหน้าได้กล่าวสั่ง พร้อมกับเล็งปลายลูกศรธนูมาทางหลงเฟย
“มิเชล ใช้เวทตรวจสอบซิ เจ้านี่เป็นมอนสเตอร์ที่แปลงร่างเข้ามาในเมืองหรือเปล่า ลีมูนฝากตามไปคุ้มกันด้วย” หลังจากพูดข่มขู่หลงเฟยแล้ว ทหารที่ถือธนูคนนั้นก็กล่าวกับเพื่อนทหารที่ถือดาบยืนอยู่ด้านหน้ากลุ่มทั้งสองคน
นักดาบคนแรกที่น่าจะชื่อ ‘มิเชล’ ลดดาบลงแล้วเดินเข้าไปหาหลงเฟย และอีกคนที่น่าจะชื่อ ‘ลีมูน’ถือดาบตามมาคุ้มกันใกล้ๆ อีกทีหนึ่ง
มิเชลใช้นิ้วชี้มาที่หลงเฟยก่อนจะพึมพำอะไรสักอย่างเบาๆ ที่ปลายนิ้วมีแสงขาวนวลรูปดาวห้าแฉกและอักขระแปลกๆ ปรากฏขึ้น ก่อนที่แสงนั้นจะพุ่งเข้าหาหลงเฟย เมื่อแสงนั้นสัมผัสเข้ากับตัวของหลงเฟย ก็กระจายตัว และอาบไปทั้งร่างของเขา
“ลดอาวุธลงได้ เจ้าหนูนี่เป็นคนธรรมดา” เพียงแวบเดียวมิเชลก็หันไปพูดกับเพื่อนๆ ของเขา ทุกคนจึงถอนหายใจโล่งอก ก่อนจะค่อยๆ ลดอาวุธลง
“เจ้าเป็นใคร มาจากไหน แล้วมาทำอะไรแถวนี้” มิเชลหันกลับมาถามหลงเฟยต่อ
“เอ่อ.. คือ...” หลงเฟยอึกอัก พยายามคิดว่าเขาควรจะบอกกลุ่มคนตรงหน้าว่าอย่างไรดี
“น้องชายยังไงก็มาพักที่ป้อมก่อนก็แล้วกัน ตรงนี้มันหนาว เดี๋ยวพี่เตรียมชาอุ่นๆให้” ลีมูนทำสีหน้าเห็นใจ และพูดขัดขึ้นมา โดยไม่รอฟังคำตอบจากหลงเฟย พลางสะกิดเพื่อนแล้วชี้ไปที่ชุดของหลงเฟย
“เด็กคนนี้น่าจะเป็นคนที่หนีรอดมาจากหมู่บ้านที่โดนมอนสเตอร์โจมตีเมื่อ 2 วันก่อน ดูชุดนั่นสิ” ลีมูนหันไปกระซิบกับเพื่อนด้วยเสียงที่เบาลง ด้วยกลัวว่าคนตรงหน้าจะสะเทือนใจ
แต่แม้จะพยายามเบาเสียงลงแล้ว การที่ยืนอยู่ห่างกันไม่มาก หลงเฟยก็ได้ยินที่เขาพูดอยู่ดี