ตอนที่ 9
“ฉันอาบน้ำเสร็จพอดี…คุณจะซ่อมต่อก็ได้นะคะ”
เธออนุญาต ขณะยกมือขึ้นสางเส้นผมยาวสยาย ละอองที่น้ำกระเซ็นย้อนอยู่ในแสงตะวัน ยิ่งทำให้เรือนร่างนั้นเย้ายวนชวนให้หน้ามืดจะเป็นลมเสียให้ได้เพราะหัวใจเต้นแรง
“คุณจ้องฉันราวกับว่าไม่เคยเห็นผู้หญิงยังงั้นแหละ”
เธอไม่ติดใจเอาความ ที่เขาทะเล่อทะล่าเข้ามาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ หากก็ติงสายตาของเขาที่จ้องเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“ผู้หญิงผมเห็นมาเยอะ…แต่แบบนี้ เอ่อ ไม่เคยเห็น”
น้ำเสียงนั้นค่อยคลายความตื่นเต้นลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อน้ำเสียงสนทนาของเธอให้ความเป็นกันเองกับเขา
“เอ่อ…ครับ ขอโทษอีกครั้งนะครับ ไว้ผมจะมาซ่อมทีหลังนะครับ”
เขาทำท่าว่าจะจากไป มือไม้อ่อนเกินกว่าจะจับค้อนตีตะปู แต่แล้วก็หันกลับมามองอีกเหมือนคนกำลังสับสน ทว่าไม่ทันที่เขาจะก้าวออกมาจากตรงนั้น เสียงแหลมเล็กของป้าบัวก็ดังลั่นขึ้นพร้อมๆกับการปรากฏตัวของแก
“คุณพระช่วย !!!...อกอีแป้นจะแตก เกิดอะไรขึ้นคะ?”
ป้าบัวยกมืออวบขึ้นทาบอก หัวคิ้วขมวดมุ่น กวาดสายตาสำรวจสถานการณ์ตรงหน้า ตกใจที่เห็นแขกอีกคนของพ่อเลี้ยงไปยืนลับๆล่อๆอยู่หลังห้องน้ำที่ผนังไม้หลุดลงมาสองแผ่นด้วยอาการมีพิรุธ
จากนั้นก็ชำเลืองไปที่อัญชันซึ่งมีเพียงผ้าขนหนูผืนน้อยกระโจมอกเอาไว้ รัดติ้วทั้งบนทั้งล่าง หมิ่นเหม่ว่าจะหลุดมิหลุด พาให้หัวใจของป้าบัวร่วงลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม
“คุณอาทิตย์ไปทำอะไรตรงนั้นคะ…เอ่อ! อย่าบอกนะคะว่าคุณอาทิตย์เป็นพวกถ้ำมอง เป็นพวกโรคจิตชอบแอบดูผู้หญิงอาบน้ำ”
ป้าบัวสันนิษฐานไปตามรูปการณ์ สีหน้าออกอาการรับไม่ได้
“โธ่ป้า…อย่าเพิ่งกะโตกกะตากไป เดี๋ยวผมเสียหายหมด มันไม่ใช่อย่างน้านนนน…อย่าเข้าใจผิด ก็ไอ้รัมภ์มันโทรมาเมื่อกี้ วานให้ผมช่วยมาดูผนังห้องน้ำให้หน่อย เห็นว่ามันผุอยู่สองแผ่น มันบอกว่าค่ำๆจะมีแขกเข้ามาพัก”
อาทิตย์ยกไม้ยกมือปฏิเสธพัลวัน เรียกชรัมภ์ว่า ‘ไอ้รัมภ์’ ด้วยความสนิทสนม
ที่ชรัมภ์วานให้อาทิตย์ช่วยเป็นธุระให้ เพราะเห็นว่าอาทิตย์กำลังว่างอยู่ ไม่อยากรบกวนคนงานที่กำลังสาละวนอยู่กับการเตรียมสถานที่จัดงานเลี้ยงสำหรับค่ำคืนนี้ แต่บังเอิญว่าอาทิตย์มือหนักไปหน่อย แผ่นไม้จึงพังโครมลงมาอย่างที่เห็น
“ก็ผู้หญิงที่คุณอาทิตย์จ้องตาเป็นมันอยู่เมื่อครู่นี้แหละค่ะ คือแขกของพ่อเลี้ยง”
ป้าบัวทำเสียงกระซิบกระซาบ เมื่อร่างรัดรึงของอัญชันคล้อยเข้าไปที่หลังบานประตู
“แล้วผู้หญิงคนนี้เป็นใครมาจากไหนอ่ะ…ป้าบัว”
น้ำเสียงกระซิบกระซาบ แสดงความสนใจจนออกนอกหน้า
“ถ้าอยากรู้ คุณอาทิตย์ต้องไปถามคุณชรัมภ์เอาเอง…ใจเย็นๆค่ะ คืนนี้ได้เจอกันในงานแน่นอน ว่าแต่คุณอาทิตย์แต่งตัวหล่อๆนะคะ มีชุดคาวบอยกับเค้าหรือยังเอ่ย”
ป้าบัวจีบปากจีบคอถาม พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ให้คนถามอยากรู้ ครั้นแล้วก็สะบัดสะโพกจากไป เมื่อเสียงเรียกของสาวใช้อีกคนดังแว่วมาจากทิศทางที่กำลังเตรียมงาน ทิ้งให้อาทิตย์ยืนใจเต้นไม่หาย
อาทิตย์ยอมรับกับตัวเองว่าไม่อาจสลัดภาพติดตาตรึงใจเมื่อครู่ออกไปจากอารมณ์รับรู้ได้ง่ายๆ นึกในใจว่า ‘ช่างเป็นบุญตาที่บังเอิญได้เห็น’ จากนั้นก็ผิวปากหวือ รีบกลับเข้าห้องไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี นึกขอบคุณที่อัญชันไม่ได้ตกใจโวยวาย และยังไม่ตำหนิในความบุ่มบ่ามของเขา
อาทิตย์เป็นเพื่อนรักของชรัมภ์ เกิดและเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะ เรียนจบมาทางด้านวิศวกรโยธา ทุกวันนี้ชีวิตกำลังไปได้ดีกับธุรกิจบ้านจัดสรร โดยมีครอบครัวสนับสนุนเงินทุนอยู่เบื้องหลัง
ด้วยความที่อาทิตย์เป็นวิศวกรที่มีความรู้ความสามารถทางด้านสถาปนิกควบคู่ไปด้วย ประกอบกับความที่เป็นคนหลงใหลในศิลปะมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้แต่ละโครงการที่เขาริเริ่มขึ้นมาด้วยความคิดสร้างสรรค์ ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เพราะเขามีมุมมองเกี่ยวกับรูปแบบของที่พักอาศัยซึ่งฉีกไปจากความจำเจของรูปแบบที่มีอยู่ในท้องตลาด ชรัมภ์เองก็มีทีท่าว่าสนใจอยากจะไปร่วมทุนอยู่เหมือนกัน เมื่ออาทิตย์คะยั้นคะยอหนักขึ้น ชวนให้ไปร่วมลงทุนอยู่บ่อยๆ
ที่ประตูทางเข้าของไร่ เมื่อรถตู้ที่ลุงสไวเป็นคนขับไปรับชรัมภ์ที่สนามบินเชียงใหม่กลับมาถึง หลังจากเจอหน้าป้าบัวและสอบถามถึงเรื่องห้องหับที่เตรียมเอาไว้ให้สองแม่ลูกว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า ชรัมภ์ก็รีบอาบน้ำแต่งตัวในทันที เพราะรู้ว่าทุกคนในงานกำลังรอเขาอยู่
ชั่วอึดใจชรัมภ์ก็ลงมาปรากฏตัวในชุดเสื้อลายสก๊อตสีน้ำตาลสลับแดงเข้ม เข้ากันกับกางเกงยีนส์ สวมหมวกสีดำปีกกว้าง เหมือนในหนังคาวบอยไม่มีผิดเพี้ยน รองเท้าบูทสีน้ำตาลช่วยส่งให้ร่างซึ่งสูงตระหง่านกว่า 180 เซนติเมตรนั้นยิ่งดูสูงเด่นขึ้นไปอีก ปานว่าเป็นพระเอกหนังคาวบอยยังไงยังงั้น
อีกคนที่เดินเคียงข้างมาก็คืออาทิตย์ซึ่งมีความหล่อไม่แพ้ชรัมภ์ ยืนยันด้วยเสียงของป้าบัวที่ยืนมองดูคนทั้งสองด้วยสายตาชื่นชม อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซวออกมา
“เรื่องความหล่อ สองคนนี้กินกันไม่ลงจริงจริ๊ง พ่อเลี้ยงของเราก็ยังกะฮิวจ์ แจ็คแมน ส่วนคุณอาทิตย์มองเผินๆก็นึกว่าจอร์จ คลูนีย์มาเอง”
คำชื่นชมของป้าบัวเรียกเสียงหัวเราะจนดังลั่นไปทั้งงาน เพราะแกแอบแซวผ่านไมโครโฟนที่คนงานกำลังเทสต์เสียงว่า ‘ฮัลโหลเทสต์ๆ…’ มาได้พักใหญ่ๆ
เมื่อเห็นว่าพ่อเลี้ยงเข้ามาในงาน ป้าบัวก็ถือโอกาสเชิญให้ออกไปกล่าวเปิดงานเสียเลย
“สวัสดีครับ…ชาวไร่เคียงตะวันทุกคน”
ฮัลโหลเทสต์ ฮัลโหล 1 2 3 4 5 6 7 8 9 0…น้ำเสียงทุ้มกังวาน เทสต์ไมโครโฟนเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขิน พร้อมๆกับเสียงปรบมือดังกึกก้องของคนงานด้วยความชอบใจ จากนั้นพ่อเลี้ยงก็หยุดนิดนึง แอบเก๊กหน้าหล่อ สูดหายใจลึก กวาดสายตาไปทั่วไร่ กระเอมเบาๆ เหมือนกำลังปูบรรยากาศให้ซึ้ง กับสิ่งที่ตนกำลังจะกล่าว