บทย่อ
"ถ้าไม่รู้จักฉันดี ก็อย่าตัดสินเพียงเพราะคนอื่นพูด" **ฟินระดับ 10 หื่นระดับ 100 รับรองไม่ผิดหวัง เชิญอ่านเลยจ้า**
สายฝนนำพา
“หมวยเธอแม่งแรดวะ” เป็นเสียงผู้ชายที่ก่นด่าฉันตั้งแต่ขับรถออกมาจากมหาลัย ฉันกลอกตานับล้านครั้งได้ ไม่ต้องด่าเยอะก็ได้ยังไงฉันก็ไม่สะทกสะท้านเพราะได้ยินจนชิน แล้วไอ้คำว่า แรด นี่แต่พูดมากมันก็รำคาญ
“เป็นแค่คนคุย ไม่มีสิทธิ์ด่า” ฉันเอ่ยขึ้นบ้าง ถึงจะชินแต่ก็ไม่ยอมให้ใครมาด่าเฉยๆ หรอกนะ
“เหอะ คนคุยเหรอ เธอมีคนคุยกี่คนล่ะ” ฉันนั่งนับนิ้วกับสิ่งที่ธีถาม ใช่ ผู้ชายที่ฉันนั่งอยู่ในรถเขาตอนนี้ชื่อธี หนึ่งในคนที่ฉันคุย เรียกว่าไงล่ะ ก็แค่คนที่คุยๆ กันอยู่ ไม่ได้เป็นแฟน ไม่ได้เป็นเพื่อน
“ไม่รู้สิจำไม่ได้” ฉันยักไหล่ตอบเขา ชีวิตฉันไม่มีอะไรมาก หรือบางทีฉันอาจจะคิดไปเองว่ามันไม่มีอะไรมาก
“หมวย” ธีตะโกนใส่ฉันแล้วเหยียบเบรกเลี้ยวรถเข้าข้างทาง
“จะตะโกนทำไมเนี่ย ตกใจหมด แล้วจอดรถทำไมยังไม่ถึงเลย”
“ฉันไม่ทนกับเธอแล้ว ลงไปเลย ยัยผู้หญิงไม่รู้จักพอ”
“ทีนายไปนอนกับคนอื่นฉันยังไม่ว่าเลย”
“ก็ฉันเป็นผู้ชาย ลงไป” เขาไล่ฉันอีกรอบ ฉันมองรอบๆ ก็เห็นว่าตรงนี้เป็นซอยข้างมหาลัยแต่มันก็มืดแล้ว เขาจะปล่อยฉันลงตรงนี่เนี่ยนะ
“ผู้ชายผู้หญิงมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน” ฉันเถียงต่อ
“เออ ลงไป ฉันจะเลิกยุ่งกับผู้หญิงแบบเธอแล้ว เชิญโทรเรียกคนคุยของเธอคนอื่นมารับเถอะ” เขาตะโกนไล่ฉันอีกรอบ
“ธี อย่างน้อยก็ไปส่งฉันที่คอนโดก่อน”
“ไม่” ไอ้ผู้ชายไม่มีน้ำใจ
“เออ นายจำไว้เลยนะ ต่อไปถ้านายไปจีบใครขอให้ไม่ติดสักคน ไอ้คนเฮงซวย” ฉันเปิดประตูลงจากรถ แล้วปิดประตูกระแทกสุดแรงเกิด
ปัง
แล้วธีก็ขับรถออกไปเลยโดยไม่ลังเลสักนิด ฉันยืนกระทืบเท้าเต้นเร่า ๆ อยู่ข้างถนน
ธีเป็นคนที่ฉันคุยด้วยล่าสุดและคุยด้วยบ่อยที่สุดในบรรดาผู้ชายทั้งหมดในคอลเลคชัน เขาเคยบอกฉันว่าเขาอยากจริงจังกับฉัน และขอให้ฉันหยุดคุยกับคนอื่น ฉันก็บอกเขาว่าจะพยายาม
ซึ่งฉันก็รับปากส่งๆ ไปอย่างนั้น ขอให้ฉันหยุดแต่ตัวเองไม่หยุดมันจะไปมีประโยชน์อะไร ผู้ชายเห็นแก่ตัว
แล้วชื่อเสียงเรื่องผู้ชายของฉันไม่ใช่น้อย ๆ ดังไปทั่วมอ ว่าฉันมันทั้งแรดทั้งร่าน เอาไม่เลือก ซึ่งมันเป็นการโปรโมทของผู้ชายทุกคนที่ฉันคุยด้วย แต่ฉันก็ไม่แคร์เพราะมันก็ไม่มีใครได้ฉันสักคน
ซึ่งตอนนี้ ณ ปัจจุบันธีคงทนฉันไม่ไหว เขาเลยระเบิดอารมณ์ใส่ฉัน แล้วไล่ฉันลงจากรถ ฉันก็ได้แต่ถอนหายใจ ฉันชินแล้วละกับเรื่องแบบนี้ ทำไมผู้ชายต้องมาด่าว่าเราทั้งแรดทั้งร่าน ไม่มองดูตัวเองสักนิดว่าเอาไม่เลือกแค่ไหน
ไม่มีหรอกผู้ชายที่จะหยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนเดียว ผู้หญิงอย่างฉันเลยไม่คิดจะหยุดอยู่ที่ผู้ชายคนเดียวบ้างไง แฟร์ ๆ ไม่โกง
แต่ฉันก็ไม่ได้ง่ายนะ คุยมากี่คน พวกนั้นมันไม่ได้นอนกับฉันสักคน อย่างมากก็แค่จูบ อย่าถามว่าฉันรอดมาได้ไง ก็เกือบไปหลายครั้งเหมือนกัน แต่ฉันพยายามมีสติ ไม่ไปห้องผู้ชายหรือพาผู้ชายที่คุยด้วยขึ้นห้องเด็ดขาด
และตอนนี้ฉันต้องโทรหาใครสักคนเพื่อที่จะมารับฉันไปส่งที่คอนโด แต่พระเจ้า แบตโทรศัพท์ฉันหมด มันเป็นวันเฮงซวยอะไรของฉันเนี่ย
บึ้มๆ ๆ
และความซวยก็เพิ่มขึ้นมาอีก เมื่อฉันได้ยินเสียงฟ้าร้อง นี่เทวดาฟ้าดินกำลังลงโทษฉันใช่ไหมที่หักอกผู้ชายเป็นว่าเล่น
ฉันเริ่มมองหาแท็กซี่ซึ่งมันไม่ค่อยจะผ่านเข้าในซอยนี้ จะให้ฉันเดินมันก็ไกลอยู่นะ ฉันคงต้องโบกรถเอาสินะ ฉันรอไม่ถึงห้านาทีก็เห็นแสงไฟรถกำลังวิ่งมาทางนี้ แล้วไอ้ฝนบ้ามันก็ตกลงมาทำไมตอนนี้เนี่ย
ฉันโบกรถคันนั้นทันทีแต่ไม่มีท่าทีว่าจะจอดจนมันเคลื่อนเข้ามาใกล้ฉันเรื่อย ๆ ฉันก็เลยตัดสินใจด้วยความกล้าหาญกระโดดไปขวางทางทันที ยกมือขึ้นปิดตา ตอนนี้ฉันเปียกไปหมดทั้งตัว ทำไมนางฟ้าอย่างฉันต้องโดนเทวดากลั่นแกล้ง
เอี๊ยดดดด เสียงเบรกรถดังสนั่นแข่งกับเสียงฝน ฉันหายใจเข้าออกแรงๆ ไม่ชน ฉันไม่ได้โดนรถชน ฉันเอามือลูบหน้าแล้วหรี่ตามองรถคันหรู เฟอร์รารี่สีดำ ที่จอดอยู่ตรงหน้า เมื่อได้สติฉันก็วิ่งไปเคาะประตูรถ ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง
เจ้าของรถเลื่อนกระจกลง ฉันเอากระเป๋าบังเม็ดฝนที่กระหน่ำลงมาหรี่ตามองหน้าเจ้าของรถ ผู้ชายหรือผู้หญิงนะ เพราะผมยาว แต่ที่สังเกตให้เห็นได้ชัดๆ คือ ใส่เสื้อชอปมหาลัยฉัน น่าจะเรียนวิศวะอะไรสักอย่าง ผู้ชายชัวร์เพราะเขาตัวใหญ่
“นาย ขอติดรถไปด้วยหน่อยสิ ฉันรอแท็กซี่นานแล้วไม่มีสักคัน” ฉันพูดปลด แล้วก็เห็นว่าเขาทำหน้าเบื่อหน่ายเมื่อฉันพูดแบบนั้น
“นะ หรือว่าถ้านายกลัวว่ารถจะเปียกฉันจ่ายค่าล้างให้ก็ได้ นะ นะ ฉันหนาวจะตายอยู่แล้ว” ฉันอ้อนวอนเขาต่อ แต่เขาก็ยังไม่ขยับ มันยากนักรึไงที่จะปลดล็อกประตูให้ฉัน
ปากฉันพูดไปด้วยมือก็ดึงประตูรถไปด้วย ถ้าเขาอนุญาตให้ฉันขึ้นคงเปิดได้เอง และฉันก็เปิดได้จริง ๆ ฉันรีบขึ้นไปนั่งบนรถ แอร์เย็นฉ่ำทำให้ฉันรู้สึกสะท้านไปทั้งตัว
“ขอบคุณนะ นี่นายกำลังจะไปไหนเหรอ”
“กลับคอนโด” เขาหันมาตอบ แล้วก็ออกรถ ตอนนี้ฉันเห็นหน้าเขาไม่ชัดมันมืดมาก จะว่ากลัวไหมก็กลัว ขึ้นรถคนแปลกหน้าแบบนี้ใครจะไม่กลัว แต่จะให้ทำไงได้ฉันไม่มีทางเลือก
เขาคงไม่ทำอะไรผู้หญิงเบาะบางอย่างฉันหรอกมั้ง
หนาวจัง
“เบาแอร์ได้ไหม” ฉันยกมือขึ้นกอดตัวเอง พอก้มมองก็เห็นเลยว่าเสื้อของตัวเองบางมาก ฉันรีบเอากระเป๋าขึ้นมากอด เขาเอื้อมมือไปเบาแอร์ให้ น่ารักไปอีก
“นายไปส่งฉันที่คอนโด K หน่อยได้ไหม” หน้าด้านแล้วก็ต้องหน้าด้านต่อไป เขาไม่ตอบแต่หันมามองทางฉันแวบเดียว ที่เห็นเพราะแสงไฟข้างนอก
นี่ฉันคุยกับคนหรือผีทำไมเขาต้องเงียบขนาดนี้ด้วยเนี่ย
ฉันเงียบแล้วก็มองทางดูว่าเขาจะยอมไปส่งไหม ปรากฏว่าเขากำลังขับรถไปทางคอนโดฉันจริง ๆ
และตอนนี้รถก็จอดอยู่หน้าคอนโดฉันเรียบร้อยแล้ว
“ขอบคุณนะ นายจะเอาเงินหรือว่าจะให้ฉันทำยังไง” ฉันหันไปถามเขาเมื่อรถจอดสนิท ไฟในรถก็สว่างวาบขึ้นให้ฉันได้สำรวจคนตรงหน้า ผมเขายาวประบ่านิดๆ ฉันตะลึงเมื่อเห็นเขาเต็มๆ ตา หล่อมาก ฉันกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ รู้สึกถึงการเต้นของหัวใจที่ผิดจังหวะ เขาเองก็จ้องฉันเหมือนกัน
แต่คงไม่ได้จ้องเพราะฉันสวยเพราะสภาพฉันมันเหมือนลูกหมาตกน้ำขนาดนี้
“ฉันไม่เอาเงิน” เขาพูดขึ้นเสียงเนือยๆ ทำหน้าเหมือนรำคาญ ฉันเม้มปากเมื่อเห็นท่าทางแบบนั้น และก็คิดว่าจะเอายังไง
“งั้นเอาเบอร์นายมา ฉันจะใช้ให้วันหลัง” ฉันแบมือขอโทรศัพท์จากเขา เขามองมือฉันแล้วเงยขึ้นมองหน้าฉัน คิ้วขมวดเข้าหากัน อะไรยะ แค่นี้ต้องคิดหนักขนาดนั้นเลยเหรอ
แต่ในที่สุดเขาก็หยิบขึ้นมาพร้อมปลดล็อกให้ ฉันกดเข้าไปในไลน์เขาแล้วแอดไอดีตัวเองลงไป แล้วก็ไม่ลืมที่จะกดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองโทรออก พอได้ยินว่าฝากหมายเลขโทรกลับฉันก็กดวาง แล้วจัดการเมมเบอร์ตัวเองไว้ในเครื่องเขาพร้อมใส่ชื่อลงไป ไม่อยากได้ก็จะให้
โทรศัพท์ฉันแบตหมด แต่พอเปิดมันคงมีข้อความเข้ามาว่ามีเบอร์นี้โทรหา
“อะ เสร็จแล้ว ขอบคุณนะ แล้วฉันจะติดต่อไป” ฉันลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปในคอนโดทันทีโดยไม่ได้หันไปมองด้านหลังอีก เพราะฝนกระหน่ำลงมาอีกรอบ
นี่ฟ้ากำลังลงโทษฉันใช่ไหม อยากจะบ้าตาย
พอเข้ามาในห้องฉันก็รีบจัดการกับตัวเอง อาบน้ำสระผม ทำให้รู้สึกสบายตัวขึ้นมาหน่อย พอไดร์ผมเสร็จ ฉันก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ชาร์จแบตโทรศัพท์เลยหยิบมาชาร์จแล้วก็เปิดเครื่อง
ท้องก็ร้องเพราะรู้สึกหิว ฉันยังไม่ได้กินข้าวเย็นเลยนี่นา
ที่ฉันไปกับธีก็เพราะจะไปหาอะไรกิน แต่หมอนั่นดันหาเรื่องฉันซะก่อน ว่าแล้วฉันก็เดินออกไปหาอะไรกินในห้องครัว เปิดตู้เย็น ฉันกลอกตาไปมา วันนี้คงต้องกินมาม่าสินะ
พอกินเสร็จก็รู้สึก หนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาก ไข้เล่นงานฉันแน่ๆ ว่าแล้วฉันก็ไปกินยากันไว้
ผู้หญิงแบบฉันมันต้องดูแลตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาถามมาบอกหรอกนะ
“ฉันลืมถามชื่อเขาเลย” เมื่อขึ้นมานั่งบนเตียงฉันก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้ถามชื่อคนที่มาส่ง
อย่างน้อยในตอนที่ฉันโดนสวรรค์ลงโทษท่านก็ยังมีเมตตาส่งเทพบุตรสุดหล่อมาให้
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เห็นหนุ่มๆ ส่งข้อความเข้ามาหามากมาย แต่ฉันไม่มีอารมณ์สนใจ อันดับแรกที่ฉันสนใจคือข้อความที่ฉันต้องดู ก็เห็นทันทีว่ามีเบอร์แปลกโทรเข้ามาว่าพยายามก็ติดต่อคุณเวลา
ฉันก็กดเข้าไปดูในไลน์ก็เห็นว่ามีคนแอดมา ชื่อ เวย์ สินะ ฉันกดรับทันที แอดเองรับเอง ฟินไปอีก ฮ่า ๆ
นี่ฉันกำลังคิดอะไรบ้าๆ ใช่ไหม ปกติฉันจะไม่เข้าหาผู้ชายคนไหนก่อนเพราะมีแต่ผู้ชายเข้าหา สวยไปอีก แต่มันก็เรื่องจริง แต่ถ้าใครมาจีบมาขอไลน์ฉันก็ให้หมดนะ ง่ายไหมล่ะ นี่ไงฉันถึงได้ฉายา ทั้งแรด ทั้งร่าน
กริ๊งๆ
“ไง” ฉันกดรับสายที่โทรเข้ามา
(ชะนี ตอนนี้อยู่หลุมไหนย่ะ ไหลไปกับน้ำรึยัง) มันพูดเหมือนรู้
“อยู่ห้องนี่แหละ มีอะไร” ฉันตอบกลับเซ็งๆ เป็นกีกี้หรือกี้เพื่อนชายใจหญิงของฉันที่โทรมา
(ถึงว่าฝนตกหนัก ชะนีแรดอยู่ห้องได้)
“ขี้เกียจ ฝนตกด้วยเลยไม่อยากออกไปไหน แล้วนี่มึงอยู่ไหน” ตากฝนเปียกมาขนาดนี้ใครจะมีอารมณ์ออกไปข้างนอก
(อยู่ผับ ตอนนี้มาเข้าห้องน้ำเลยโทรหา จะมาไหม) โห่...ฝนตกขนาดนี้ยังไปผับ
“ฝนตกขนาดนี้มึงยังจะไปผับ กลัวเขาไม่มีเงินจ่ายค่าไฟรึไงไปทุกวัน” เพื่อนฉันคนนี้มันเป็นอย่างนี้จริง ๆ
(แหม อิหอยอยู่ห้องวันเดียวพูดได้ วันนี้มึงออกไปกับธีไม่ใช่เหรอทำไมกลับไว) ฉันหัวเราะเบาๆ ใช่ มันไปทุกวันฉันก็ไปเกือบทุกวันเหมือนกัน แต่เห็นไปเที่ยวแบบนี้การเรียนไม่เคยขาดนะจ๊ะ เที่ยวได้ก็ต้องเรียนได้
“ตายไปแล้วมั้งอย่าไปพูดถึงมันเลย กูเลิกคุยกับมันแล้ว” ฉันพูดอย่างหัวเสีย
(ทำไมเหลามา)
“กูสวยเกินไป”
(อิแรด ไปแล้ว ไปหาผู้ต่อดีกว่าส่วนชะนีก็นอนแห้งอยู่ห้องไป) พูดเสร็จมันก็วางสายไปเลย