บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 บทนำ

สวัสดีครับผมชื่อตะวันที่ใคร ๆ ต่างก็คุ้นกับชื่อของผมดี ปีนี้ผมอายุ 25 ปีเต็ม ตั้งแต่เรียนจบมา ผมก็ลองผิด ลองถูกมาตลอด แต่ความรักความชอบที่มีมาตั้งแต่เด็ก ๆของผมตอนนี้ก็ประสบความสำเร็จแล้ว ที่ได้เป็นเจ้าของผับหรู The Sun ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทั้งยังเป็นที่ชื่นชอบและนิยมของเหล่าบรรดาวัยรุ่น

09:20 นาฬิกา

เช้าวันสดใสชายหนุ่มหล่อหน้าใส ขับรถสปอร์ตคันหรูแล่นเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ตั้งแต่เช้า ปกติแล้วเขาจะอาศัยอยู่ที่เพนต์เฮาส์เพราะมันสะดวกสบายต่อการเข้าไปทำงานและตรวจงานที่ผับ เพราะถ้าต้องให้เขากลับมาค้างที่บ้านทุกคืน คงถึงบ้านอีกทีตีสองตีสาม เขาจึงเลือกที่จะพักอยู่ที่เพนต์เฮาส์

และวันนี้ที่เขาขับรถมาบ้านแต่เช้าก็เพราะว่าคุณนายแก้วตาบอกมีเรื่องจะคุยด้วย ซึ่งแน่นอนว่าเขาเองก็รู้ดีว่าแม่ของเขาต้องการที่จะคุยเรื่องอะไร เพราะแก้วตามักจะหาคู่และจับคู่ให้เขาอยู่บ่อย ๆ หวังอยากให้เขามีครอบครัวสักที เพราะตั้งแต่พี่ภูกับพลอยดาวแต่งงานเป็นคู่ชีวิตกันจนมีเจ้าแฝดตัวน้อย แก้วตาเองก็อยากมีหลานน่ารัก ๆ บ้าง

"ตะวันลูก มาทานข้าวได้แล้ว" เสียงหวานของแก้วตาเอ่ยเรียกลูกชายหัวแก้วหัวแหวนพร้อมกับจัดอาหารจานโปรดที่ลูกชายชื่นชอบเป็นพิเศษไว้รอด้วยรอยยิ้ม

เมื่อสิ้นสุดคำพูดของแก้วตา ตะวันที่กำลังเดินสำรวจห้องของตัวเองอยู่ชั้นบนก็รีบสาวเท้าเดินลงมาชั้นล่างเพื่อทานข้าวเช้าพร้อมกับผู้เป็นแม่ทันที

15 นาทีผ่านไป...

สองแม่ลูกพากันนั่งทานข้าวด้วยกันอย่างเงียบ ๆ โดยตะวันเองก็กินตามปกติโดยไม่พูดไม่จา ส่วนแก้วตาก็พลอยหาจังหวะที่จะเอ่ยปากถามลูกชายอยู่ตลอดเวลาจนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเอ่ยขึ้น...

"วันนี้ลูกมีงานหรือจะไปไหนหรือเปล่า พอดีแม่นัดเพื่อนไว้ ตะวันจำน้าอรได้มั้ย แม่น้องพิมพ์น......"

"นั่นไงครับ คิดแล้วไม่มีผิด ธุระของแม่คือจะจับคู่ให้ผมอีกแล้วใช่มั้ยครับ ผมไม่ว่างครับแม่ วันนี้ผมแวะมาทานข้าวเช้าเป็นเพื่อนแม่เฉย ๆ เดี๋ยวช่วงเที่ยงผมมีนัดคุยเรื่องไวน์ที่โรงงาน งั้นผมขอตัวเลยนะครับผมอิ่มแล้ว"

แก้วตาพูดไม่ทันจบประโยคด้วยซ้ำ ตะวันที่รู้ว่าแม่ของตนจะสื่อถึงอะไร เขาก็รีบเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมกับให้คำปฏิเสธไปตรง ๆ เพราะตอนนี้เขาไม่โฟกัสเรื่องครอบครัวเลย แม้จะมีบ้างเรื่องความสุขทางกายแต่มันก็เป็นธรรมชาติของร่างกายที่ต้องการ การปลดปล่อย เขายังไม่อยากผูกมัดกับใคร เพราะตอนนี้เขาโฟกัสอยู่เรื่องเดียวก็คือเรื่องงาน พูดจบตะวันก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ราคาแพงแล้วเดินออกไปจากโต๊ะอาหารแล้วเดินตรงไปยังรถของตัวเองทันที

"อ้าว นั่นมันตาตะวันหนิ ทำไมมาไวไปไวขนาดนี้" ในขณะที่ลูกชายสาวเท้าเดินออกไปจากบ้านแล้ว ดนัยผู้เป็นพ่อที่พึ่งเดินออกมาจากห้องทำงานก็ได้แต่สบถออกมาเบา ๆ

"จะอะไรซะอีกละคะ พอจะจับคู่ให้หน่อยก็ชิ่งหนีไปเลยค่ะ" แก้วตาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระแทกเพราะลูกชายช่างไม่ได้ดั่งใจเลย ใบหน้าสวยแสดงออกถึงความเสียดายที่ลูกชายไม่เห็นด้วยกับความคิดของตน

"คุณก็เพลา ๆ ลงบ้างนะคุณแก้วตา เดี๋ยวคนที่ใช่ก็จะมาในเวลาที่เหมาะสมเองนั่นแหละ" ดนัยเอ่ยบอกภรรยาสุดที่รักด้วยน้ำเสียงอ่อน เขารู้จุดประสงค์ของภรรยาดีว่าทำไมถึงคอยจับคู่ให้ลูกชายอยู่ตลอด

"ก็ฉันอยากอุ้มหลานแล้วนี่นา แต่ตาตะวันช่างไม่เข้าใจคนแก่เลยจริง ๆ" แก้วตาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนถึงเธอจะเห็นแก่ตัวที่บีบบังคับให้ลูกชายไปดูตัวอยู่บ่อย ๆ โดยเธอก็คัดสรร หาแต่ลูกคุณหนูชาติตระกูลดีมาทั้งนั้นแต่ตะวันกลับไม่แม้แต่จะชายตามองเลย...

(พั้นซ์)

"สวัสดีค่ะป๊า ม๊า เช้านี้พั้นซ์ไม่ได้ทานข้าวเช้าด้วยนะคะ พอดีพั้นซ์ต้องรีบออกไปโรงงานค่ะ วันนี้อาหารทะเลเข้าล็อตใหญ่เลยค่ะ" เสียงหวานเอ่ยสวัสดีผู้เป็นพ่อกับผู้เป็นแม่ที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่อย่างมีความสุข

สวัสดีฉันชื่อพั้นซ์หลาย ๆ คนก็อาจจะเคยได้ยินชื่อหรือรู้จักฉันมาบ้างแล้ว ปีนี้ฉันอายุ 22 ปี ฉันเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อชัยพลกับแม่ดวงดาว ใช่ครอบครัวของฉันทำธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออกอาหารทะเล วันนี้ฉันจึงต้องรีบเข้าโรงงานอาหารทะเลแปรรูป PP Foods เพราะมีลูกค้าจากสิงคโปร์มาขอเซ็นสัญญากับทางบริษัท

"จ้ะ อย่าลืมหาอะไรกินด้วยนะลูก" ดวงดาวเอ่ยบอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแต่ก็ไม่วายที่จะแสดงสีหน้าเป็นห่วงออกมาให้เห็น เพราะตั้งแต่พั้นซ์ฝึกงานจบเธอก็รับช่วงต่อจากพ่อ จนทุกวันนี้เธอทำงานจนแทบไม่มีเวลาทานข้าวกับครอบครัวเลย

"ค่ะม๊า ไปก่อนนะคะ พั้นซ์สายแล้ว"

"ขับรถดี ๆ นะลูก" สิ้นสุดคำพูดของผู้เป็นแม่และได้กำลังใจที่ล้นเหลือ พั้นซ์ก็คลี่ยิ้มหวานออกมาอย่างมีความสุขก่อนจะรีบเดินออกไปจากบ้านหลังใหญ่แล้วเดินตรงไปยังรถคู่ใจแล้วขับออกไปทันที

45 นาทีผ่านไป…

ณ บริษัท PP Foods

"พี่ลูกน้ำคะ คุณมาร์คมาถึงหรือยังคะ" เมื่อเดินทางมาถึงบริษัทพั้นซ์ก็รีบเดินตรงเข้าไปในห้องทำงานแล้วถามหาแขกคนสำคัญทันที

"มาแล้วค่ะ พี่ให้คุณมาร์คนั่งรอที่ห้องประชุมแล้วค่ะ" เสียงเลขาสุดสวยเอ่ยบอกผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงที่ดูสนิทสนมพอสมควร ลูกน้ำคือเลขาส่วนตัวของพั้นซ์ซึ่งทั้งสองก็สนิทกันมาก เพราะนิสัยใจคอของทั้งสองนั้นเรียกได้ว่าเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

"พั้นซ์ขอบคุณพี่ลูกน้ำมากนะคะ งั้นเสิร์ฟกาแฟกับของว่างได้เลยค่ะ" พูดจบพั้นซ์ก็รีบเดินตรงไปยังห้องประชุมที่มีแขกคนสำคัญที่กำลังนั่งรออยู่ทันที

ณ ห้องประชุม

"สวัสดีค่ะ คุณมาร์คขอโทษที่ทำให้รอนานนะคะพอดีเช้านี้รถติดนิดหน่อยค่ะ" ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาปากเรียวสวยก็รีบเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือเรียวขึ้นมาไหว้เพื่อเป็นการขอโทษที่เธอมาสายทันที

"ไม่เป็นไรครับ สำหรับคุณพั้นซ์นานแค่ไหนผมก็รอได้ครับ ใช้ชีวิตในกรุงเทพรถก็ติดแบบนี้เป็นธรรมดาแหละครับผมเข้าใจ" มาร์คหนุ่มหล่อชาวสิงคโปร์เอ่ยขึ้นราวกับว่าเขาคุ้นเคยกับเมืองไทยดี

"แหม… รู้ดีจังเลยนะคะ" พั้นซ์เอ่ยแซวแขกชาวสิงคโปร์ด้วยน้ำเสียงหวานในขณะที่เธอเองก็กำลังจัดแจงเอกสารงานที่สำคัญที่ ต้องใช้ในวันนี้ไปด้วย

"หึ แน่นอนครับเพราะแม่ผมเป็นคนไทยครับ" ใช่แม่ของเขาเป็นไทยมันก็ไม่แปลก ที่เขาจะรู้ลึกเกี่ยวกับการจราจรที่ติด ๆ ขัด ๆ ของช่วงเช้า ในเวลาทำงานของประเทศไทยแบบนี้

"อ้อ งั้นเรามาคุยเรื่องเซ็นสัญญากันเลยดีมั้ยคะ"

"ได้ครับ" มาร์คตอบพร้อมส่งยิ้มให้เธอ

หลังจากที่ทักทายกันเล็กน้อย ตอนนี้ทั้งสองคนก็เริ่มพากันเขาสู่โหมดจริงจัง โดยเฉพาะพั้นซ์เธอมักจะใส่ใจและเก็บรายละเอียดของงานอย่างรอบคอบอยู่เสมอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel