บทที่ 11
"ขอนั่งด้วยคนสิคะ" หญิงสาวเดินมาถึง ก็เอ่ยพูดขึ้นกับเขาที่ถูกผู้หญิงนั่งรายล้อมอยู่ ข้างซ้ายพี่สาว ข้างขวาผู้หญิงที่แม่จัดหามาให้
"นั่งเลยครับ" คฑารีบลุกขึ้นให้เธอนั่งเก้าอี้ตัวนั้นแบบสุภาพบุรุษ แต่ไม่ใช่หรอกอยากจะสลัดใครบางคนแถวนี้ออกต่างหาก
"นี่เธอ!" กัลยาตะคอกเสียงไม่พอใจใส่รรรรรร
"อาหารที่นี่ท่าจะอร่อยนะคะคุณพี่"
"ใครพี่เธอ"
"คุณพี่เป็นพี่สาวของสามี ก็เท่ากับเป็นพี่ของฉันนั่นแหละค่ะ" หญิงสาวยังแสร้งพูดต่อเหมือนไม่คิดอะไรกับคำพูดของพี่สาวเขา
กัลยารีบมองหาสามีของตัวเอง เพื่อที่จะให้มาจัดการผู้หญิงปากเก่งคนนี้ แต่พอมองไปเห็นสามีกำลังชนแก้วอยู่กับสาวที่ไหนไม่รู้ ก็รีบลุกขึ้นแล้วเดินตรงไปหา คนที่เป็นสามีในทันที
"คฑาทำไมลูกทำแบบนี้ ช่วยไว้หน้าแม่หน่อยได้ไหม!" อัญชัญเดินมาถึงก็นั่งข้างๆ ลูกชาย ซึ่งตอนนี้เขานั่งแทนที่พี่สาว
"เมื่อกี้ผมได้ยินคุณถามว่าอาหารที่นี่คงอร่อย ผมแนะนำจานนี้เลยครับ เป็นราชินีอาหารของโรงแรมพี่สาวผมเลย" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ตักอาหารจานที่พูดถึงวางลงใส่จานให้กับเธอ โดยที่ไม่สนใจคำพูดของแม่
"ต้องลองชิมดูก่อนค่ะ ว่าจะอร่อยเท่าคุณไหม" ว่าแล้วหญิงสาวก็ตักอาหารขึ้นมาชิมดู "ก็อร่อยดีนะคะ แต่สู้คุณไม่ได้" ดวงตางามส่งยิ้มหวานให้ในขณะที่พูดด้วย
เพล้ง! ช้อนในมือของคฑา ร่วงลงใส่จานตรงหน้าแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะเขามัวแต่มองหน้าเธอเวลาที่พูด
"แม่ทนไม่ไหวแล้วนะคฑา!"
"อะไรนะครับคุณแม่" ชายหนุ่มต้องได้รีบละสายตาจากเธอ แล้วหันมาคุยกับแม่บ้าง
"แม่ทนพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้ไม่ไหวแล้ว ลูกพาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากงานเลี้ยงของแม่เดี๋ยวนี้เลยนะ!"
และนี่แหละมันคือสิ่งที่รรรรรรต้องการ เพราะถ้าขืนอยู่ต่อ ไม่รู้ว่าเธอจะทนผู้ดีพวกนี้ได้มากน้อยแค่ไหน
ทั้งสองออกมาจากงานเลี้ยงพร้อมกัน พอมาถึงรถคฑาก็นึกขำ แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาให้เธอเห็น
"ฉันกลับเองได้ค่ะ" หญิงสาวไม่ยอมขึ้นรถกับเขา
ชายหนุ่มมองดูชุดที่เธอสวมใส่ เพราะถ้าปล่อยให้นั่งแท็กซี่กลับคนเดียวคงอันตรายแน่
"เรื่องชุดเดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะเอาไปคืนให้" แต่เธอกลับคิดว่าเขาคงกลัวเธอยึดชุดที่ใส่มาในคืนนี้
"ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ถ้านั่งแท็กซี่เจอพวกอารมณ์เปลี่ยวมันจะอันตราย"
"ฉันคงจะไม่ซวยมากกว่านี้แล้วล่ะค่ะ ขอตัวนะคะ" ในขณะที่หญิงสาวกำลังจะเดินผ่านหน้าเขาไป ชายหนุ่มมองไปที่หน้าโรงแรม ก็เห็นพี่เขยเดินออกมา
"อุ๊ย" รรรรรรตกใจอยู่ดีๆ ก็ถูกเขาคว้าตัวเข้ามากอด
"อย่าเพิ่งพูดอะไร" ชายหนุ่มกระซิบพูดในขณะที่กำลังกอดเธออยู่
แค่นี้หญิงสาวก็รู้แล้วว่าคงมีคนตามออกมา
แต่พอมองไปอีกทีเขาก็เห็นแค่หลังรถของพี่เขย และทันใดนั้นพี่สาวก็เดินตามมา
"คุณสันติ!!" กัลยาตะโกนตามหลังรถสามีแบบโมโห เพราะทั้งสองมีปากเสียงกัน เรื่องที่สามีไปดื่มกับผู้หญิงในงาน
"จะขึ้นรถกลับด้วยกัน..หรือจะให้ยืนกอดอยู่แบบนี้" ในเวลานี้เขามีสองทางเลือกให้เธอ แน่นอนว่าหญิงสาวต้องเลือกขึ้นรถกับเขาแน่ ใครจะอยากให้เขากอดล่ะ
แต่กัลยาก็ไม่ได้สนใจคู่ของน้องชายหรอก เพราะตอนนี้ยังโมโหให้กับสามีอยู่
หญิงสาวนั่งรถมากับเขาจนถึงป้ายรถเมล์เธอก็เลยขอลง และเขาก็จอดให้โดยที่ไม่เอ่ยพูดอะไรสักคำ
เช้าวันต่อมา..ที่โรงพยาบาล
เมื่อคืนนี้พอแยกทางกัน เธอก็รีบกลับมาหาพี่สาวที่โรงพยาบาล และเช้ามาก็ต้องไปทำงานตามปกติ
"ฉันไปทำงานก่อนนะ ถ้าพี่ขี้เกียจนอนแล้วก็รีบตื่นล่ะ" รรรรรรคุยกับพี่สาวก่อนออกมา ทำไมเธอจะไม่ทุกข์ใจ เพราะตอนนี้ชีวิตครอบครัวมืดมนไปหมด แต่ก็ต้องทำตัวให้เข้มแข็งเข้าไว้
[บริษัท]
หญิงสาวลงจากแท็กซี่พร้อมกับกระเป๋าชุดราตรีที่เธอใส่เมื่อคืนนี้มาด้วย
"อะไร" ชายหนุ่มที่เพิ่งจะเดินเข้ามาในห้องทำงาน และมีเลขาเดินตามมา เธอได้วางกระเป๋านั้นลงตรงหน้าให้เขา
"ชุดเมื่อคืนนี้ค่ะ"
"ชุดเมื่อคืน? เธอเอามาทำไม"
"ก็มันเป็นของคุณ"
"ฉันซื้อให้เธอ"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ"
"เธอเอามาคืนแบบนี้คิดว่าฉันจะเอาไปใช้ที่ไหนได้ล่ะ"
"ใช้ที่ไหนก็เรื่องของคุณสิ" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินมาที่ประตู "แต่ฉันยังไม่ได้ซักนะ คุณส่งซักเองด้วย"
ได้ยินแบบนั้นสายตาของเขาก็มองต่ำลงไปดูของในถุง
"ก็ค่าซักมันแพงนี่คะ และฉันก็ทำงานให้คุณด้วย" ว่าแล้วเธอก็เปิดประตูออกจากห้องไป
แล้วเขาจะทำอะไรได้ ในเมื่อเธอพูดมาหมดแล้ว ..มือหนาจับถุงนั้นวางลงข้างโต๊ะทำงาน แล้วเขาก็นั่งทำงานต่อ
เวลาผ่านไปจนใกล้จะถึงเที่ยงวัน
ก๊อก ก๊อก
"นัดทานข้าวกับลูกค้าตอนเที่ยง ผมจองโรงแรมไว้แล้วครับ"
"ถ้างั้นก็ออกไปกันเลย แล้วลูกค้าเดินทางมาหรือยัง" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นคว้าเสื้อสูทมาสวมใส่
"คงใกล้ถึงโรงแรมแล้วครับ"
ทั้งสองออกมาจากห้องพร้อมกัน ..สายตาคมมองหาเลขาหน้าห้อง แต่ก็ไม่เจอ
"เธอออกไปได้สักพักแล้วครับ ไม่ได้บอกใครด้วยว่าไปไหน"
โรงพยาบาล..ที่พี่สาวของเธอรักษาตัวอยู่
"พี่ริน" มือเรียวกุมมือพี่สาวไว้แน่น พอได้รับข้อความจากทางโรงพยาบาลว่าพี่สาวของเธอฟื้นแล้ว หญิงสาวก็ทิ้งงานทุกอย่างมา
"จะร้องไห้ทำไม" มือของพี่สาวเอื้อมขึ้นไปซับน้ำตาให้กับน้อง
"พี่อย่าทำแบบนี้อีกนะฉันตกใจ" พี่สาวของเธอก็เหมือนแม่ เพราะทั้งสองขาดพ่อและแม่ไปตั้งแต่ยังเยาว์วัย
"พี่ไม่ทิ้งเราไปไหนหรอก"
"พี่เห็นรักหรือยัง"
"ยังเลย" แค่รู้ว่าลูกปลอดภัยรรินธรก็ดีใจมากแล้ว
"พี่ชอบชื่อรักนรินทร์ที่ฉันตั้งให้หลานไหม"
"ชอบสิ" จริงๆ พยาบาลก็เล่าให้ฟังครั้งหนึ่งแล้ว รรินธรก็เลยไม่ได้สงสัยว่าใครที่ชื่อรัก
"เรามาแบบนี้ใครดูงานให้"
"ไม่มีหรอกเดี๋ยวฉันก็จะกลับแล้ว" ว่าแล้วรรรรรรก็ออกมา เพราะอยากให้พี่สาวพักผ่อนต่อ
เรื่องร้ายๆ ผ่านไปแล้วใช่ไหม ขออย่าให้เรื่องร้ายๆ แบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของเธออีกเลย หญิงสาวได้แต่ภาวนาในขณะที่นั่งแท็กซี่กลับมาที่บริษัท
14 : 30 น.
ก๊อก ก๊อก
"เชิญ"
"ฉันขอโทษด้วยค่ะที่ออกไปไม่ได้บอก" หญิงสาวเห็นโน๊ตที่วางไว้ตรงโต๊ะทำงาน ก็เลยต้องรีบเข้ามาขอโทษ
"เธอต้องศึกษาการเป็นเลขาที่ดีแล้วล่ะ"
"แต่ฉันมีธุระด่วน.."
"ไม่ว่าธุระนั้นจะด่วนแค่ไหน ก็ต้องบอกคนอื่นไว้บ้างว่าตัวเองจะไปไหน"
"ฉันขอโทษอีกครั้งค่ะ"
"ออกไป" เขาไม่เคยให้สิทธิพิเศษกับใครมาก่อน ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร
วันต่อมา.. ที่โรงพยาบาล
"พี่จะทำอะไร" รรรรรรออกมาจากห้องน้ำก็เห็นพี่สาวพยายามลุกขึ้นจากเตียง
"พี่ขอย้ายโรงพยาบาล"
"จะย้ายโรงพยาบาลไปไหน"
"เราอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้หรอกมันแพง"
"พี่พักรักษาตัวอยู่ที่นี่จนหายก่อนค่อยออก"
"รู้ไหมว่าค่ารักษามันเท่าไรแล้ว จะเอาเงินที่ไหนมาให้เขา"
"เรื่องนั้นพี่ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันรับผิดชอบเอง"
"แกไปเอาเงินมาจากที่ไหน"
เธอตอบพี่สาวไม่ได้ว่าไปเอาเงินมาจากที่ไหน พี่สาวก็เลยไปลุกขึ้นอีกครั้ง
"ฉันยืมมาจากท่านประธาน"
"ท่านประธานเนี่ยนะจะให้ยืมเงิน?" มันยิ่งสร้างความสงสัยให้กับพี่สาวมาก แต่ก็อาจจะมีข้อยกเว้นหรือเปล่าเพราะเธอประสบอุบัติเหตุ
"พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก"
"จะไม่ห่วงได้ยังไงยืมเขาก็ต้องได้ใช้หนี้ รู้ไหมว่าค่ารักษามันเท่าไรแล้ว" รรินธรถามเรื่องค่ารักษากับทางโรงพยาบาลมาแล้ว
"เท่าไร"
..พอได้ยินตัวเลขรรรรรรถึงกับตกใจ ทีแรกคิดว่าเงินที่ขอกับเขามาจะพอ แต่นี่... ค่ารักษาอะไรจะแพงขนาดนี้