อารมณ์ขึ้น
ไอเดีย...
"แกคิดว่าแกไม่สวยจริงดิพูดตามตรงเลยนะเดีย ถ้าแกหัดแต่งตัวแต่งหน้าทำผมให้ดูดี ไม่ใช่แต่งเป็นยัยป้าอย่างที่เด็กนั่นมันเรียกแกจะเป็นผู้หญฺิงที่สวยและเพอร์เฟคมากๆ เลยนะ"
"แกอย่ามาชมฉันยัยปุ้ยฉันไม่หลงกลแล้วก็อินไปกับคำพูดของแกหรอก"
"ฉันพูดเรื่องจริงแกน่ะสวยนะสวยมากด้วยไม่งั้นตอนปีหนึ่งรุ่นพี่ในคณะเค้าคงไม่มาชวนแกไปประกวดดาวคณะหรอก" เรื่องจริงอย่างที่ยัยปุ้ยพูดนั่นแล่ะคือตอนปีหนึ่งยัยปุ้ยมันจับฉันแต่งหน้าทาปากพอแต่งเสร็จก็มีแต่คนมองโดยเฉพาะนักศึกษาผู้ชายฉันไม่ชอบก็เลยจะลุกไปล้างหน้าเอาเครื่องสำอางออกแต่ยังไม่ทันเดินไปถึงห้องน้ำก็มีรุ่นพี่เดินเข้ามาทักแล้วชวนฉันให้ไปประกวดดาวคณะแต่ฉันก็ปฏิเสธพี่เขาไปเพราะฉันไม่ชอบเป็นจุดเด่นให้ใครมามองฉันอยากอยู่อย่างสงบสุขมากกว่าเพราะแบบนี้ฉันถึงไม่แต่งหน้าอีกเลย
"แกก็รู้ว่าฉันชอบอยู่แบบเงียบๆไม่ต้องการให้ใครมาสนใจ"
"แปลว่าแกรู้ว่าถ้าแกแต่งตัวแต่งหน้าสวยๆแกจะสวยใช่ป่ะ^^"
"เออออ"
"เห้อจะว่าไปน้องนักรบก็ดูหล่อดีนะถ้าฉันไม่มีพี่ช้างนะฉันอาจจะเข้าไปจีบน้องเขา^^"
"อย่าแม้แต่จะคิดยัยปุ้ยถ้าแกรู้ว่านิสัยของนักรบว่าเป็นยังไงแกจะรีบถอนคำพูดทันที หึฉันอยู่ด้วยแค่ไม่กี่วันฉันยังเอือมระอากับนิสัยเอาแต่ใจของเขาเลย เห้อพูดแล้วก็เหนื่อย นี่ฉันต้องทนอยู่กับเด็กนี่ปีนึงเลยเหรอ ฉันคงต้องซื้อยาระงับประสาทมากินแล้วล่ะ"
"แกพูดมาซะขนาดนี้แปลว่าพ่อแม่คงตามใจมาตั้งแต่เด็กสินะ"
"แหงสิลูกชายคนเดียวนี่"
"แต่แกบอกกับฉันว่าน้าอนงค์แม่ของนักรบวานให้แกช่วยดูแลเขาไม่ใช่เหรอแกทำไมไม่ลองปรับเปลี่ยนนิสัยเขาดูล่ะ เผื่อเขาจะดีขึ้น"
"โอ๊ยพ่อแม่เขายังทำไม่ได้แล้วฉันเป็นใคร"
"อืมนั่นสินะ ถ้าอย่างงั้นฉันก็ขอเอาใจช่วยแกละกันนะขอให้ผ่านหนึ่งปีนี้ไปให้ได้โดยสวัสดิภาพ แต่...."
"แต่อะไรของแก"
"แต่ฉันก็หวังว่าแกจะไม่ได้มีผัวเด็กชื่อนักรบนะ555555"
"กรี๊ดดด แค่คิดฉันก็ขนลุกแล้วยัยปุ้ย ฉันจะบอกแกให้นะว่าถ้าฉันจะหาผัวสักคน ผู้ชายนั้นต้องเป็นคนดีแล้วก็รักฉันมากๆ รักเดียวใจเดียวไม่มีเล็กมีน้อยให้ฉันต้องหวาดระแวงและเขาก็ต้องดูแลเอาใจใส่ฉันไม่ยอมให้ฉันลำบากไม่ว่าจะลำบากใจหรือลำบากกายและต้องเป็นสุภาพบุรุษด้วยนะและที่สำคัญที่สุดก็คือหล่อและรวยนี่แล่ะคือสเป๊กของผู้ชายในฝันของฉันแต่คงไม่มีอยู่จริงหรอก" ที่ฉันบอกยัยปุ้ยคือเรื่องจริงทุกอย่าง ไม่มีหรอกที่ว่าขอแค่เป็นคนดีแต่ต้องมากัดก้อนเกลือกินน่ะ ถ้าเป็นคนดีแต่พาฉันไปลำบากก็ไม่ไหวมั้ย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงนิสัยดีอะไรมากมายหรอกนะฉันแค่ไม่อยากลำบากก็เท่านั้นเพราะฉันลำบากมามากพอแล้ว ฉันคงไม่ผิดใช่ไหมที่อยากจะหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองถ้าหาไม่ได้ฉันก็จะอยู่ด้วยตัวเองแบบโสดๆไปตลอดชีวิต
นักรบ...
"สเป๊กสูงซะด้วยนะป้า แบบนี้ไม่ต้องหาหรอกอยู่เป็นโสดไปเถอะ55555" ผมหันไปบอกคนที่นั่งอยู่ด้านหลังพอยัยป้ากับเพื่อนหันมาเจอผมก็ทำหน้าตกใจเหมือนโดนผีหลอก ผมไม่ได้ตั้งใจมาแอบฟังหรอกนะพอดีว่าผมนั่งอยู่ด้านหลังยัยป้าพอดีก็เลยได้ยินทุกสิ่งอย่างที่ยัยป้าพูดรวมถึงเรื่องของผมด้วย เล่นสรรเสริญเยินยอผมซะอย่างดีแบบนี้มันน่าจับโยนลงเตียงซะจริงๆ
"นายมาแอบฟังฉันคุยกับเพื่อนหรือไง ไม่มีมารยาท" ยัยป้าหันมาด่าแล้วทำตาขวางใส่ คิดว่าผมกลัวรึไง
"เอ่อ คือพวกผมไม่ได้มาแอบฟังนะครับผมกับไอ้นักรบนั่งกันอยู่ก่อนแล้วครับพี่เดียพี่ปุ้ย" ไอ้ซีแก้ตัวแทนผมมันคงกลัวโดนหางเลขไปด้วยเพราะมันนั่งอยู่กับผม
"พี่ไม่ได้ว่าเราหรอกพี่ว่าเพื่อนเราคนเดียว"
"อ้าวไหงงั้นล่ะป้า แบบนี้มันสองมาตรฐานชัดๆ"
"ใช่แล้วจะทำไม" ยัยป้าลุกมาที่โต๊ะผมเหมือนจะเข้ามาหาเรื่อง
"คิดว่าเป็นรุ่นพี่แล้วจะมาหาเรื่องรุ่นน้องก็ได้งั้นเหรอป้า" ผมทำเป็นโวยวายเสียงดังเพื่อแกล้งให้ยัยป้าโมโหแล้วมันก็ได้ผลจริงๆ
"พอแล้วยัยเดียเราไปกันเถอะต้องไปช่วยอาจารย์ต่ออีกนะ" เพื่อนยัยป้าลากแขนยัยป้าออกไปผมก็เลยโบกมือบ๊ายๆแล้วหัวเราะใส่ตามหลัง
"ไอ้รบมึงนี่นะทำไมต้องไปหาเรื่องพี่เดียด้วยวะ ปกติมึงไม่หาเรื่องผู้หญิงนี่หว่า"
"คนนี้เป็นข้อยกเว้น" ผมบอกไอ้ซี
ไอเดีย....
"แกลากฉันออกมาทำไมเนี่ยฉันกะจะสั่งสอนเด็กนั่นซักหน่อยโทษฐานมาแอบฟังเราคุยกัน"
"แกลืมไปแล้วเหรอว่าแกอาศัยคอนโดแม่เขาอยู่นะ"
"ฉันไม่ได้ลืมแต่นี่มันมหาลัยนายนักรบนั่นเป็นรุ่นน้องเพราะฉะนั้นฉันเป็นรุ่นพี่ย่อมมีสิทธิ์ แต่ถ้าอยู่คอนโดค่อยว่ากัน"
"เห้ออออออฉันว่านะฉันมองเห็นอนาคตของแกแล้วล่ะ"
"อนาคตอะไรของแก"
"ก็อนาคตว่าที่ผัวแกยังไงล่ะ"
"แกพูดแบบนี้หมายความว่าไง"
"ช่างมันเหอะ" ยัยปุ้ยไม่ตอบคำถามซึ่งฉันก็ไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อ
หลังจากช่วยอาจารย์เสร็จแล้วฉันก็ขอตัวกลับเพราะฉันต้องไปซุปเปอร์มาเก็ตเพื่อซื้อของสดไปทำอาหาร อยากจะบอกว่าเมื่อก่อนฉันจะไปตลาดสดเพราะของราคาถูกแต่พอนักรบมาอยู่ด้วยและฉันต้องทำอาหารเผื่อเขาเขาก็บังคับให้ฉันไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตแทนเขาบอกมันสะอาดและไร้สารพิษซึ่งตอนแรกฉันก็เถียงเขาว่าของที่ตลาดสดก็สะอาดเหมือนกันแต่เขาก็ไม่ยอมบอกว่าถ้าไม่ทำตามที่เขาบอกเขาก็จะไม่กินกับข้าวที่ฉันทำฉันก็เลยต้องทำตามที่เขาต้องการถ้าไม่ใช่เพื่อเงินอย่าหวังเลยว่าฉันจะทำตามคำสั่งของเขา และในขณะที่ฉันกำลังจะเดินผ่านลานจอดรถฉันก็เห็นนักรบกำลังทำตัวเป็นสุภาพบุรุษเปิดประตูรถพานักศึกษาสาวหุ่นดีคนหนึ่งขึ้นรถพอดีซึ่งก็ไม่ใช่ใครหรอกเป็นยัยมินนี่ดาวคณะอักษรนั่นเอง หึ มามหาลัยวันแรกก็จีบสาวติดซะแล้วแถมยังจีบรุ่นพี่ซะด้วยไม่ธรรมดาจริงๆ ฉันเลิกสนใจแล้วเดินไปขึ้นรถรางของมหาลัยไปยังหน้าประตูมหาลัยเพราะถ้าให้เดินไปฉันต้องขาลากแน่ ส่วนยัยปุ้ยแฟนมันมารอรับตั้งแต่กลางวัน เห้อคิดละก้ออิจฉามันนะบางทีแต่ฉันก็ดีใจกับมันที่เจอแฟนนิสัยดีไม่เจ้าชู้ มันบอกกับฉันว่าพี่ช้างจะไปสู่ขอมันกับพ่อแม่มันถ้าเรียนจบแล้วก็จะแต่งงานกันเลย อะไรจะโชคดีขนาดนี้ ฉันจะมีวาสนาเจอคนดีๆแบบมันบ้างไหมนะ
ปรี๊นนนนน
"ว๊ายยย" ฉันตกใจเมื่อได้ยินเสียงแตรรถด้านไล่หลังเพราะกำลังจะเดินข้ามถนนพอฉันหันไปมองปรากฏว่าเป็นรถของนักรบ เขาขับมาขนาบข้างฉันก่อนจะลดกระจกลงมา
"ป้าวันนี้ไม่ต้องทำอาหารเผื่อนะแล้วก็ไม่ต้องรอด้วยคืนนี้ผมอาจจะไม่กลับคอนโด"
"อยากไปไหนก็ไปสิบอกกันทำไม"
"แค่บอกให้รู้เฉยๆไม่ได้หรือไง"
"อ้าวนักรบรู้จักไอเดียด้วยเหรอจ๊ะ" ยัยมินนี่ยื่นออกหน้ามาคงอยากให้ฉันเห็นสินะ ฉันลืมบอกไปว่าฉันกับยัยมินนี่ไม่ค่อยลงรอยกันมานานแล้วเรื่องมันยาวไว้ว่างๆฉันจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน
"ก็เพิ่งรู้จักไม่กี่วันนี้เองครับเค้าเป็นคนที่แม่ผมจ้างให้มาดูแลผมน่ะครับพี่มินนี่เรียกง่ายๆสั้นๆได้ใจความก็คือคนรับใช้ส่วนตัว"
"ห๊ะคนรับใช้ส่วนตัวเลยเหรอ"
"ใช่ครับ" ฉันรู้ว่านักรบอยากแกล้งให้ฉันอายแต่ฉันไม่สนใจก่อนจะเดินต่อ
เวลาต่อมา...
พอมาถึงคอนโดฉันก็รีบเอาของสดเก็บเข้าตู้เย็นแล้วต้มน้ำเพื่อใส่มาม่าเพราะฉันขี้เกียจทำกับข้าวแล้วอีกอย่างวันนี้ไม่ต้องทำอาหารเผื่อนักรบ หลังจากนั้นฉันก็เอาชุดที่ยัยปุ้ยให้มาเข้าเครื่องและอบแห้งก่อนจะเอาไปรีด ถามว่าฉันกล้าใส่ไหมก็ไม่กล้าใส่เท่าไหร่เพราะมันทั้งรัดทั้งสั้น แต่ฉันก็อยากลองใส่ดูอยากรู้ว่าตัวเองใส่แล้วจะเป็นยังไงจะสวยเหมือนคนอื่นไหม ฉันหยิบชุดที่รีดแล้วไปลองใส่ในห้องดู โชคดีที่ฉันกับยัยปุ้ยรูปร่างและความสูงใกล้เคียงกันก็เลยใส่ของกันและกันได้
"อื้มมหืมมม ทำไมเสื้อมันรัดหน้าอกได้ขนาดนี้หายใจแทบไม่ออกใส่กันเข้าไปได้ไงไม่อึดอัดหรือไงกันนะ กระโปรงก็สั้นจุ๊ดจู๋เลยก้มทีเห็นไปถึงไหนต่อไหน" ฉันยืนบ่นอยู่หน้ากระจก
"แต่ก็สวยอยู่นะว่าไป อิอิ" ถึงฉันจะบ่นว่ามันอึดอัดแต่ก็สวยอยู่นะว่าไม่ได้
วี๊ดดด วี๊ดดดด เสียงกาน้ำดังฉันรีบวิ่งออกจากห้องเพราะลืมไปว่าต้มน้ำทิ้งไว้ แต่พอเดินออกมาก็เจอกับนักรบนั่งเล่นมือถืออยู่ที่โซฟาพอเขาได้ยินเสียงฉันเดินออกมาเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า คือฉันไม่คิดว่าเขาจะกลับมาตอนนี้เพราะเขาบอกว่าจะไม่กลับห้อง
"เห้ย ป้า!!!!! ผมไม่คิดว่าป้าจะใส่จริง55555" ฉันเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองใส่ชุดนักศึกษาของยัยปุ้ยอยู่ ฉันทำอะไรไม่ถูกบอกเลยว่าอายมากเพราะฉันไม่เคยใส่ชุดแบบนี้แต่พอเห็นเขาเอาแต่จ้องตาไม่กะพริบก็ทำให้ฉันพอใจอย่างประหลาด เขามองแบบตกตะลึงอ่ะ เขาไม่คิดว่าฉันจะกล้าใส่สินะ หึ
"ฉันใส่ได้หมดแล่ะถ้าอยากจะใส่"
"ซ่อนรูปจริงๆ ว่ะป้าเนี่ยหุ่นโคตรเซี๊ยะ อกเป็นอกเอวเป็นเอวอื้มมมหืมมมม ซี๊ดดด อ่าาา เห็นละขึ้นเลยรู้ป่ะ"
"อะไรขึ้น"
"อารมณ์ทางเพศไง"
"อ๊ายไอ้เด็กทุเรศ"
"ผมพูดจริง โอ่ยไม่ไหวละขอไปจัดการตัวเองก่อน"
"จัดการอะไรของนาย"
"อย่ารู้เลยบอกไปก็ช่วยไรไม่ได้อยู่ดี ผมขอตัวก่อนนะ"
ด้วยความที่อยากรู้อยากเห็นฉันก็เลยแอบไปยืนอยู่หน้าประตูห้องนักรบแล้วก็เอาหูแนบประตู และแล้วฉันก็ได้ยินเสียงแปลกๆ ดังลอดออกมาจากห้อง
"ซี๊ดดดด อ่าาาา อ่าาาาา ไอเดีย ซี๊ดดดด จะแตกกกก ซี๊ดดดด อ่าาาา" ถึงฉันจะไม่เคยมีแฟนแต่ฉันก็พอจะรู้ว่าเสียงที่ว่านั่นมันคือเสียงอะไร
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ไอ้เด็กบ้า กรี๊ดดดดด"
นักรบ...
เสียงยัยป้าร้องกรี๊ดๆๆๆอยู่หน้าห้องทำเอาผมหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ
"555555555555 ผมหัวเราะด้วยความสะใจที่ได้แกล้งยัยป้า ใครมันจะมายืนช่วยตัวเองอยู่หน้าประตูห้องกันทุเรศตายห่าคนอื่นได้ยินหมด แต่ถามว่าเห็นยัยป้าใส่ชุดนักศึกษารัดติ้วแบบนั้นแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศจริงไหมก็ไม่หรอกใครมันจะบ้ากามหื่นกามขนาดนั้นถ้าผมเห็นนักศึกษาใส่ชุดแบบนี้แล้วเกิดอารมณ์ผมคงต้องเข้าห้องมหาลัยทุกๆชั่วโมงเพราะเท่าที่เห็นวันนี้นักศึกษาผู้หญิงส่วนใหญ่ก็ใส่แบบนี้กันทั้งนั้น แต่ถามว่ายัยป้าใส่ละสวยมั้ยก็..สวยอยู่นะ