หลงรักนายมาเฟีย

192.0K · จบแล้ว
เดย์ไลลา
74
บท
144.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

Writer : เดย์ไลลา Illust : Sin_SK. Proofread & Design : เดย์ไลลา สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติพุทธศักราช 2557 ห้ามดัดแปลงบทความ คัดลอกและนำไปใช้บางส่วนและนำไปเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษบัญญัติไว้สูงสุดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ 2537 คำเตือน นิยายเรื่องนี้มีการกระทำไม่เหมาะสมเรื่องเพศ คำพูดจาหยาบคาย การใช้ความรุนแรง มีฉากการร่วมเพศรุนแรง/ไม่สมยอม มีฉากNC20+ เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาในนิยายเป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น ไม่อิงตามความจริง อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ แนะนำให้โหลดตัวอย่างมาอ่านก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนซื้อเล่มเต็มนะคะ

นิยายรักโรแมนติกมาเฟียโรแมนติก21+นิยายปัจจุบันนิยายรัก

บทที่ 1 INTRO

มหาวิทยาลัย H

ตึก ตึก ตึก

เสียงกระทบของรองเท้าส้นสูงที่ก้าวอย่างรีบเร่งเข้ามาบริเวณใต้ตึกคณะบริหาร ร่างบางสมส่วนในชุดนักศึกษารัดรูป กระโปรงทรงเอ ใบหน้าสวยหวานราวตุ๊กตาบวกกับผิวขาวละเอียดของมิลินเรียกความสนใจจากกลุ่มนักศึกษาร่วมคณะที่นั่งอยู่บริเวณรอบได้เป็นอย่างดี

ร่างเล็กเดินสอดส่ายสายตามองหาเพื่อนรักของเธอที่คงนั่งรอเธออย่างหงุดหงิดแล้ว เพราะเธอมาถึงมหาวิทยาลัยสายกว่าเวลาที่นัดกันเกือบ 30 นาที

เมื่อเจอเพื่อนรักเธอก็รีบเร่งฝีเท้าตรงเข้าไปหา

“แฮกๆ ขอโทษนะยัยคลี ฉันไม่ได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก” เธอกล่าวพลางยกมือไหว้ถูไปมาด้วยความรู้สึกผิด กล่าวขอโทษขอโพยเพื่อนรัก ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูของเธอ ทำเอาคลีโอกลอกตามองบนด้วยความเอือมระอา

“ชิ ไม่ต้องมาทำท่าน่าสงสาร ยัยลินเธอปล่อยฉันนั่งรอนานมาก!!”

“ขอโทษจริงๆ แก เมื่อคืนกว่าจะเลิกงานดึกมากเลย กว่าฉันจะกลับถึงคอนโด กว่าจะอาบน้ำนอนอีก เกือบตี 3” เมื่อคืนเป็นเวรช่วยปิดร้านที่เธอทำงาน ทำให้ต้องอยู่รอลูกค้ากลับ เคลียร์โต๊ะ เก็บของ ปิดร้าน

“ก็เพราะรู้ไง ฉันถึงขี้เกียจจะบ่นแกแล้ว เรียนไปทำงานไประวังร่างสวยๆ นี่จะพังก่อนเรียนจบนะยะ” คลีโอบ่นเธอเช่นทุกครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอจะทำตาม หญิงสาวได้แต่ส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนรักที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“แกก็รู้ ฉันต้องหาเงินจ่ายค่าเทอม ค่ากิน ไหนจะเรื่องพ่อฉันอีก เลิกทำงานแล้วจะเอาตังที่ไหนกินหละ” เธอตอบพลางหยิบชีทสรุปเนื้อหาการเรียนในกระเป๋าส่งให้เพื่อน

“ก็บอกให้ยืมฉันไปก่อน แกเรียนจบเมื่อไหร่ทำงานก็ค่อยทยอยคืน หรือไม่ต้องคืนเลยก็ได้ ฉันไม่ซีเรียสเรื่องเงิน แต่ฉันเป็นห่วงแก” ยัยคลียังคงบ่นเธอต่อไป ก่อนจะหยิบชีทที่เธอส่งให้ไปเปิดดู

“บ้าน่าแก ฉันรับไม่ได้หรอก”

“ก็แค่เอาเลขบัญชีมา ฉันโอนให้ จะรับไม่ได้อะไรของแก”

“เงินแกก็เงินแกสิ มาให้ฉันได้ยังไง แค่ความเป็นห่วงก็พอแล้ว” เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่เพื่อนเธอพยายามยัดเยียดมาให้เธอตลอดพอๆ กับเรื่องที่บ่นเธอเรื่องงาน แต่ปัญหาทางบ้านของเธอมันไม่ได้มีท่าทีจะจบลงง่ายๆ ต่อให้จะขอยืมเงินเพื่อนเธอมา พ่อเธอก็คงใช้มันหมดลงอย่างรวดเร็วอยู่ดี เธอคงไม่มีปัญหาหาเงินมาคืนเพื่อนเธอในเร็ววันแน่ๆ

“แต่งานใหม่ของแกอันนี้ฉันว่ามันไม่โอเคเลยวะ ทำไมไม่ทำที่คาเฟ่ต่อ ไม่ต้องเลิกดึก ไม่ต้องเสี่ยงกับพวกขี้เมาด้วย”

“ก็งานนี้มันก็ได้เงินเยอะกว่าไง เหนื่อยกว่าหน่อย แต่ก็ได้ทิปจากแขกเพิ่มอีก”

เธอเปลี่ยนงานมาเป็นเด็กเสิร์ฟที่ผับได้ 2 อาทิตย์แล้ว ก็ต้องปรับตัวเยอะหน่อย กับบรรดานักท่องราตรีที่เมามาย พยายามเข้ามาทำความรู้จัก หรือลวนลามเธอ แต่เธอก็พยายามเซฟตัวเองให้มากที่สุด อีกทั้งที่ผ่านมาก็ยังไม่มีเรื่องอะไร มากสุดแค่ถูกลูกค้าลูบแขนเธอตอนยกเหล้ามาเสิร์ฟ

“โอ๊ยนั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่ได้ งั้นเปลี่ยนมาทำที่ผับพี่ชายฉันดีกว่าไหม อย่างน้อยฉันยังพอให้คนช่วยดูแลแกตอนทำงานได้”

เธอพอรู้มาว่าครอบครัวของคลีโอค่อนข้างมีฐานะมาก จนถึงมากที่สุด บ้านของเธอมีตั้งแต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จนไปถึงธุรกิจสีเทาๆ อย่างผับ บาร์ และชื่อเสียงของพี่ชายเธอทั้งเรื่องนิสัยและอำนาจที่เขามี ใครๆ ก็ต่างพูดกันว่าเป็นมาเฟียของเมืองไทยเลยทีเดียว

“น่าๆ ฉันเพิ่งเข้ามาทำงานที่นี่เอง ออกตอนนี้ก็น่าเกลียด อีกอย่างก็ยังไม่เคยเจอพวกลูกค้านิสัยแย่ๆ เอาไว้ถ้ามีปัญหาอะไร ฉันจะบอกแกคนแรกเลย โอเคไหม” เธอพยายามพูดจบประเด็นเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ

คลีโอมองมิลินด้วยสายตาเป็นห่วง เพื่อนเธอเป็นคนซื่อๆ ไม่ค่อยทันใคร แถมยังใจดีเกินไป จนชอบถูกคนอื่นเอาเปรียบเธออยู่บ่อยๆ เธอกลัวว่ายิ่งไปทำงานในสถานที่อโคจรแบบนั้น เพื่อนเธอจะเอาตัวรอดจากสถานการณ์แย่ๆไม่ได้

“รีบเข้าห้องเรียนกันได้แล้ว อีก 5 นาทีจะเริ่มคลาสแล้ว” เธอมองนาฬิกาที่ข้อมือ รีบตัดบทชวนเพื่อนลุกจากโต๊ะใต้ตึกคณะเพื่อเข้าเรียน

“เพราะใครกันจ๊ะที่มาช้า ฉันอุตส่าห์รีบมาก่อนเพื่อจะยืมชีทสรุปของเธอไปซีร็อกซ์ แล้วไปกินข้าวก่อนเข้าเรียน”

“ฮือ ขอโทษจริงๆ แก นี่ได้กินอะไรรองท้องหรือยัง”

“ซื้อแซนด์วิชมากินแล้วย่ะ ไปกันเถอะ” คลีโอไม่ได้ว่าอะไรเธอต่อ พลางเก็บชีทสรุปที่ขอยืมจากเธอมาถือไว้ แล้วเก็บแก้วน้ำกับของบนโต๊ะไปทิ้งถังขยะแถวนั้น

“เรียนเสร็จอยู่รอฉันชีร็อกซ์ชีทสรุปเลย”

“ได้ๆ เดี๋ยวรอเป็นเพื่อน เลี้ยงชานมไข่มุกไถ่โทษด้วย” เธอส่งยิ้มออดอ้อนเพื่อน แถมเสนอเลี้ยงชานมของโปรดของทั้งคู่ เพื่อให้เพื่อนเธออารมณ์ดีขึ้น

“ดีมากค่ะ รีบไปกันได้แล้ว จะเริ่มคลาสแล้ว” คลีโอตอบกลับด้วยท่าทางพอใจ

“เอาล่ะ จุดเมื่อกี้ทุกคนไปอ่านกันมาดีๆ เพราะอาจจะมีออกสอบด้วย ถ้าไม่มีใครสงสัยตรงไหนแล้ว วันนี้เลิกคลาสได้ครับ” เสียงของอาจารย์กล่าวปิดคลาส นักศึกษาทุกคนก็เริ่มเก็บของ ทยอยเดินออกจากห้อง

“โอ๊ยยยย นั่งจนเมื่อยไปหมดเลย” เพื่อนสาวที่นั่งข้างๆ บิดขี้เกียจพลางบ่นกระปอดกระแปดออกมา

“เอาน่า ใกล้สอบกลางภาคแล้ว ทนๆ อีกนิดเดียวเอง” เธอพยายามปลอบ

“แหม๋ กลางภาค แล้วยังต้องเจอปลายภาคอีก ไหนจะธีสิสปีหน้าอีก หนทางยังอีกยาวไกล”

“จ้าๆ ไปกินชานมไข่มุกเพิ่มพลังกันเถอะ”

ทั้งคู่เก็บของเข้ากระเป๋า แล้วลุกเดินออกจากห้องเรียนเช่นเดียวกับคนอื่นๆ

หลังจากทั้งคู่รอรับชีทสรุปเนื้อหาการเรียนเสร็จ ก็ยืนกินชานมไข่มุกของโปรดกันอยู่บริเวณลาดจอดรถหน้าคณะบริหาร เรียกความสนใจจากหนุ่มๆ ที่เดินผ่านบริเวณนั้นให้หันมามอง เนื่องจากใบหน้าสวยของทั้งคู่

คลีโอเธอเคยเป็นถึงดาวคณะบริหารสมัยเข้ามาปี 1 สาวเปรี้ยว สวย รวย เก่ง มั่นใจในตัวเอง รูปร่างดีราวกับนางแบบ จนเป็นที่จับจ้องของหนุ่มๆ แทบทุกคนในมหาลัย แต่ด้วยใครๆ ต่างก็รู้ว่าทางบ้านของหญิงสาวขึ้นชื่อเรื่องความโหด และอำนาจมืดที่มีในมือ ทำให้น้อยคนที่กล้าเข้ามาทำความรู้จักเธอ

ส่วนมิลินเป็นสาวหวาน ตัวเล็ก น่ารัก ขี้อาย ผิวขาวอมชมพู อีกทั้งหน้าอกหน้าใจที่ไม่ได้เล็กตามตัว จึงเป็นอีกหนึ่งสาวที่เป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ทั้งในและนอกมหาลัย

แม้จะมีหนุ่มๆ เข้ามาขายขนมจีบให้ตลอด แต่เพราะเธอต้องทั้งเรียนและทำงานไปพร้อมกัน ทำให้ไม่เคยมีเวลาสนใจเรื่องของความรัก ทำให้สองสาวโสดต่างสไตล์จึงถือเป็นแรร์ไอเทมประจำคณะไปโดยปริยาย แม้ปัจจุบันทั้งคู่จะเรียนอยู่ชั้นปีที่ 3 ไม่ใช่เฟรชชี่ ปี 1 ใสใส แล้วก็ตาม

“ขึ้นรถเถอะ เดี๋ยวไปส่งที่ห้อง” คลีโอว่าพลางกดรีโมตปลดล็อกรถสปอร์ตสีขาวมุกคันหรูที่ทั้งคู่ยืนพิงกันอยู่

“เกรงใจแก เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเองก็ได้”

“โอ๊ย อย่ามาลำไยค่ะ ยังไงก็ผ่านคอนโดแกอยู่แล้ว”

“แต่แกก็ต้องอ้อมไปส่งอยู่ดี เกรงใจ”

“ขึ้นรถ!! จะมาเกรงใจอะไร ฉันก็ไปส่งแกเกือบทุกวัน”

“ก็เพราะแบบนั้นแหละ ฉันเลยเกรงใจ” เธอบ่นอุบอิบ แต่ก็เปิดประตูข้างคนขับก้าวขึ้นไปนั่ง

“แกเป็นเด็กเสิร์ฟอยู่ผับชื่ออะไรนะ” คลีโอถามขึ้นโดยที่ยังขับรถไปด้วย สายตาคมสวยจับจ้องถนนด้านหน้า

“ที่ เดอะ กลาส รู้จักไหม”

“รู้จักสิยะ ผับนี้ดังพอๆ กับผับพี่ชายฉันเลย แต่ชื่อเสียงเจ้าของผับไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แกอย่าลืมนะ ถ้ามีปัญหาอะไรที่นั่นแกต้องบอกฉันคนแรก” คลีโอยังคงย้ำเรื่องที่ทำงานกับเธออีกครั้งด้วยความเป็นห่วง

“รับทราบค่าคุณแม่” เธอตอบรับเสียงใส จนเพื่อนสาวส่ายหัวเอือมระอาปนเอ็นดู