บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 กุรักของกุมาตั้งนานแล้วมึงมาพรากดวงใจของกุ

หลังจากทั้งสามคนพักรับประทานอาหารเช้าเสร็จ ทีฮะก็ส่งสัญญาณเหมือนเขาเร่งรีบอยากจะออกเดินทางเสียเต็มทีด้วยเป็นห่วงความปลอดภัย หากลุงของดาวติดตามมา

มังลอกที่เข้าใจสถานการณ์ แต่ก็ยังอยากให้ดาวได้พักเหนื่อยเสียหน่อย แต่เมื่อดาวมองดูคนทั้งคู่ ต่างก็เข้าใจ

“เราออกเดินทางกันเถอะค่ะ ข้ามิอยากเป็นตัวถ่วงของพวกเจ้า” ดาวเอ่ยขึ้นท่ามกลางความรู้สึกอึดอัก

“แม่ดาวนั่งพักเสียก่อนเถอะ ถ้าหากเร่งรีบพี่กลัวว่าเจ้าจะเหน็ดเหนื่อยเกินไปหนา”

“มิเป็นกระไรค่ะ เกรงว่าที่นี้น่าจะมิปลอดภัย ข้าเห็นทีฮะ อยากออกเดินทางเสียเต็มทน”

“ขอบใจเจ้าที่เข้าใจ” ทีฮะ ก้มลงเก็บผ้าขาวม้าที่ใช้รองปู่นั่ง ก่อนจะเดินนำทางคนทั้งคู่หญิงสาวทำหน้ามุ้ย ท่าทางครุ่นคิด

“ข้าว่า ทีฮะไม่ชอบข้า ทำไมถึงเป็นเยี่ยงนั้น” เธอหันไปถามมังลอกที่กำลังสะพายดาบ

“เจ้าคิดมาก” เขาหันมายิ้มให้เธอก่อนจะเดินจากไป

ข้าเปล่าคิดไปเอง ข้ารู้สึกได้จริง ๆ นะคะ” มังลอกหยุดเดินแล้วถอดผ้าขาวม้าที่คาดเอวมาโพกหัวให้เธออีกครั้ง

“เมื่อเช้ากันหนาว ตอนนี้กันแดด ต้องเอาผ้าคลุมไว้ เดี๋ยวมิสบาย แล้วผ้าขาวม้านี้อย่าไปถอนทิ้งลืมเสียที่ไหน”

ดาวสีหน้าเจื่อนลง เธอเพิ่งคิดได้ว่า เมื่อถึงที่พักเธอได้ถอนผ้าขาวม้าที่ใช้คลุมศีรษะวางไว้ที่โคนต้นไม้ก่อนจะลืมหยิบมาด้วย

พวกเขาสามคนเดินผ่านทุ่งนาที่มีข้าวออกรวงพร้อมเก็บเกี่ยว มองเห็นต้นข้าวสีเหลืองอร่ามกว้างสุดลูกหูลูกตา

ดาวรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากเสียกว่าจะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง

“ที่นี้สวยงามเสียจริงค่ะ เกิดมาไม่เคยพบเจอ” เธอเร่งฝีเท้าให้เดินนำหน้าทีฮะและมังลอก ปล่อยให้สองหนุ่มยืนมองหน้ากันก่อนหัวเราะออกมา ในท่าทางตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ออกไปเที่ยว

“ดูเหมือนแม่ดาวจะมิค่อยได้ออกไปไหนพระเจ้าค่ะ” ทีฮะที่ตามหลังมังลอกก้าวอย่างเงียบๆ

“อืม” สายตาหวานยังคงจับจ้องร่างบาง

“ว่ายังไงบ้าง ได้ข่าวแม่ดาวบ้างฤาไม่”

พ่อเพชรรีบเดินไปยังบ่าวที่ควบม้ากลับมา

“กระผมสอบถามชาวบ้านได้ความว่า พบผู้ชาย2คนอีกคนเป็นหญิงแต่งตัวละหม้ายคล้ายผู้ชาย อยู่จากนี้ประมาณ ครึ่ง โยชน์ขอรับ”

“ดี!!” พ่อเพชรกระโดดขึ้นหลังม้าแล้วควบออกไป

“อ้าว!” พวกมึงมัวทำกระไร รีบไปเอาม้ามาแล้วขี่ตามหลานข้าไปซิ อย่าให้หลานข้าได้รับอันตรายแม้แต่น้อย”

เสียงร้องตะโกนลั่นของพระยาดำรง ทำให้บ่าวไพร่ลนลาน รีบทำตามเจ้านายสั่ง

ฝ่ายมังลอก

“แม่ดาวเหนื่อยฤาไม่” เขายังคงคอยถามไถ่เธอตลอดทาง

“มิเหนื่อย แต่เหนื่อยที่ต้องมาคอยตอบคำถามเจ้า” ใบหน้าเรียวงามเชิดคางใส่ก่อนจะเดินนำหน้าเขาและทีฮะ

“แม่หญิงอโยธยาผู้นี้แปลกไม่กลัวเกรงสิ่งใดเลยพระเจ้าค่ะ ต่างจากสตรีทั่วไป” ทีฮะปลายตามองดูดาว ที่ยังคงเห็นเธอยิ้มแย้มแจ่มใสท่ามกลางแดดจ้า ผิวขาวผุดผ่องไม่กระเทือนแม้แสงแดดจะแผดเผาในตอนเที่ยงวัน

“แม่ดาวได้โปรดรอพี่ด้วย”

“เจ้าหิวฤาไม่”

“ไม่! ข้ายังมิหิว”

“พักก่อนไหม”

“ไม่...ข้ายังมิอยากพัก”

“เจ้าอมยิ้มมีเรื่องน่าขันกระไรฤา” ดาวรีบคลำดูใบหน้าของตัวเอง

“หน้าข้าเปื้อนสิ่งใดฤา” เธอยื่นหน้าให้มังลอกช่วยดู

“มิมี” เขาตอบแต่ยังอมยิ้ม

“แล้วเจ้ายิ้มสิ่งใด”

“ข้าแค่รู้สึกมีความสุข ที่มีเจ้าร่วมเดินทาง”

“....”

อีกฝ่ายเสียงเร่งฝีม้าดั่งกระหึ่ม ฝุ่นตลบอบอวลไปทั่ว

ไม่นาน ~

ได้ยินเสียงม้าเร็ววิ่งมาทางนี้พระเจ้าค่ะ

ทีฮะเดินไปกระซิบมังลอกเบาๆ ข้าพเจ้าคิดว่า ต้องเป็นพวกที่ติดตามแม่ดาวมาแน่แท้

“เราเองก็คิดเช่นเจ้า นั้นเราเปลี่ยนเส้นทางไปอีกทางหนึ่งเถอะ”

“พระเจ้าค่ะ”

“แม่ดาว เราต้องเปลี่ยนเส้นทางไปอีกเส้น” คราวนี้ใบหน้าของมังลอก เรียบเฉยปราศจากรอยยิ้มบนใบหน้าแฉเช่นทุกคราว

เธอรู้ทันทีว่าต้องมีสิ่งผิดปกติ

“ค่ะ” เธอเดินตามทีฮะที่นำทางพาเธอเดินลัดเลี้ยวเข้าไปในป่าทางเดินรกชัฏ โดยมีมังลอกคอยเดินระวังตามหลังทุกคนเงียบไม่มีแต่แต่เสียงพูดคุยเหมือนสักครู่ จนเธอเองเหมือนได้ยินเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง ตึก ๆ ๆ

“กลัวฤาไม่เจ้า” มังลอกรีบเร่งฝีเท้าให้ประกบเดินเคียงข้างเธอ แม้จะเดินลำบากแต่เขาก็อยากให้เธอรู้สึกอุ่นใจ

เสียงหยุดม้าไม่ไกลจากที่ดาวเดินมา~

“หยุดทำไมเล่าทำไมไม่รีบตามไป” เสียงพ่อเพชรถามบ่าว 2-3 คนที่ขี่ม้านำทาง

“ร่อยรอยหายไปแล้วขอรับ”

“หายไปได้เยี่ยงไร” แววตาดุเหี้ยมเกรียมอย่างที่ไม่เคยปรากฏบนใบหน้าชายหนุ่ม ทำให้บ่าวที่ติดตามมามิกล้าสบสายตา

“ข้าถามว่าร่อยรอยหาไปได้เยี่ยงไร” เสียงร้องตะคอกของเขา ทำให้ดาวหยุดเดิน

“แม่ดาวมีกระไรฤา” แววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย

“ข้า ได้ยินเสียงพี่เพชร” เธอเอ่ยปากบอกเขา

ที่จริงในช่วงเวลา 2-3 วันที่ผ่านมา เธอก็เป็นกังวลกลุ้มใจมาตลอด เธออยากจะไปบอกลาแต่ก็กังวลใจว่าพ่อจะมิยอมให้เธอมา แล้วเรื่องราวจะใหญ่โต จนไปถึงหูเจ้าคุณลุงของเธอ ทำให้ความตั้งใจของท่านเจ้าคุณตาต้องล้มเหลว แต่พ่อเพชรก็เปรียบเสมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอมาตั้งเธอจำความได้ เธอไม่อยากจะจากไปด้วยความรู้สึกค้างคางใจ

“เจ้าอยากจะไปลาพ่อเพชรใช่ฤาไม่” มังลอกพอเดาความคิดเธอออก

“ใช่ แล้วข้าไปได้ฤาไม่” แววตาวิงวอนจากใบหน้างาม มีฤาที่เขากล้าปฏิเสธให้เธอเสียน้ำใจ

“นั้นข้า กับทีฮะ จะอยู่รอเจ้าอยู่ในนี้”

“พระองค์!!!” ทีฮะเผลอหลุดปากเรียก เจ้าชายนองดอจี้มี่น

“พระองค์จะตามใจนางเกินไปแล้วหนาพระเจ้าค่ะ นางอาจจะนำภัยมาสู่ท่าน ดูท่าทางแล้วพ่อเพชรกระไรนั้นก็มีใจให้แก่นาง ถ้าหากเห็นว่านางมากับท่าน ข้าพระพุทธเจ้าเกรงว่าพระองค์จักมิปลอดภัย

“ข้ารู้ แต่ข้าหากลัวไม่ ข้ามิอยากให้นางมีห่วงเมื่อต้องไปอยู่กับข้า” มังลอกแอบเดินตามแววตาจดจ่อที่ร่างบางมิให้คลาดสายตา

ทันทีที่ดาวเดินออกจากพุ่มไม้ พ่อเพชรที่นั่งถือบังเหียนบนหลังม้าเห็นเข้า เขารีบกระโดดลงจากหลังม้าวิ่งตรงไปหาเธอ

“ดาว แม่ดาวจริงๆฤานี่ โอ๋ขวัญเอ๋ยขวัญมา” เขาจับมือเธอแนบที่อกของเขา

“กราบขออภัยที่จากมา มิได้บอกคุณพี่” ดาวยกมือไหว้เป็นการขอโทษ

“มิเป็นไร แค่พี่เห็นเจ้าสบายดีพี่ก็หมดห่วง เจ้าจะไปที่ใดกันเล่า ทำไมต้องรีบร้อนเยี่ยงนี้ พี่ถามท่านเจ้าคุณปู่ ท่านก็มิตอบ เจ้าจะไปอยู่นานฤาไม่ เดี๋ยวพี่ไปส่ง เจ้าเดินมิไหวดอก เดี๋ยวเรากลับเรือนกันก่อน แล้วพี่จะให้บ่าวที่เรือนเตรียมม้า และเสบียงให้ เราจะได้เดินทางมิลำบาก ในป่ามันน่ากลัวนักเจ้ามิเคยไปที่ใด เจ้ามิรู้ดอก กลับเรือนกับพี่เถอะ แล้ววันรุ่งเราค่อยออกเดินทางกัน”

“เกรงว่าจะทำเยี่ยงนั้นมิได้ขอรับ ท่านเจ้าคุณพระยาสุรสิงห์ ได้ยกแม่ดาวให้กระผมแล้วๆเราสองคนก็ได้หมั้นหมายเป็นที่เรียบร้อย แม่ดาวเป็นคู่หมายของกระผม เกรงว่าถ้าหากกลับเรือนไปกับคุณเพชร มันจะดูมิงาม”

น้ำเสียงทุ่มต่ำของมังลอกที่ดังขึ้น ตามหลังร่างของหญิงสาว สายตาของพ่อเพชรจับจ้องดาวแลมังลอกสลับกัน

“นี่คือเรื่องจริงฤาเจ้า ฤามันแค่กล่าวให้ร้ายเจ้า ท่านเจ้าคุณปู่ไม่มีวันยกดาวให้มัน พี่มิเชื่อ”

“เรื่องจริงเจ้าค่ะ” น้ำใสๆเกือบเอ่อล้นดวงตากลมโต

“มึงเป็นผู้ใด มาแย่งดวงใจกุ” เเววตาสาดประกายอำมหิต เขาตะคอกด้วยน้ำเสียงโกรธ ไม่ถึงเสี้ยววินาที ทีฮะได้มายืนบังร่างของทั้งสองไว้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel