หลงกลรักวิศวะตัวร้าย

103.0K · จบแล้ว
ดาวแคระ
45
บท
1.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

โจเซฟ คณะวิศวะ ปี 3 นิสัย : อยากได้ต้องได้ ชอบความท้าทาย ไม่ชอบถูกดูถูก มิวสิค คณะนิเทศ ปี 2 นิสัย : ไม่สนใจความรัก เป็นนักดนตรี(ครั้งครา) ตัวท็อป และรักอิสระ จะเป็นยังไงเมื่อคนนิสัยสองขั้วได้มาเจอกัน คนหนึ่งทำไปเพราะมีเหตุผลบางอย่าง อีกคนพยายามหลบหนีเพราะไม่มีความศรัทธาในความรัก

นิยายรักโรแมนติกนางเอกเก่งวิศวกรดาวมหาลัยสัญญาทางรักรักวัยรุ่นรักแรกพบโรงแรม/มหาลัยนักศึกษาฟินๆ

บทที่ 01 เลือดขึ้นหน้า

TWENTY SIX PUB

"มิวน้องรัก ~" ฉันหมุนตัวหันหลังกลับทันทีที่ได้ยินเสียงหวานที่ดังขึ้นมาแต่ไกล แต่เท้ายาวสวยเรียวยังไม่ทันจะได้ก้าวพ้นก็ถูกคนที่พยายามจะหนีล็อกคอเอาไว้แล้วดันให้นั่งลงบนโซฟากว้างในร้านของมัน

สวัสดีฉันชื่อมิวสิคหรือมิวนักศึกษาปีสองคณะนิเทศศาสตร์มหา'ลัยชื่อดังในย่านแห่งหนึ่งที่มีแต่ลูกคนรวยทั้งหลายแหล่ต่างแห่แหนกันมาเรียน และหนึ่งในนั้นก็เป็นฉันที่ถูกแม่ยัดเยียดให้เข้ามาอดทนเรียนมาแล้วถึงสองปี

ส่วนไอ้คนที่บีบเสียงหวานที่ว่าคือไอ้พี่กันย์พี่รหัสของฉันที่ไม่ได้เต็มใจอยากจะให้เป็นเลยสักนิด แต่แน่นอนว่าฉันเลือกไม่ได้ นอกจากมันจะไม่เคยเป็นที่ปรึกษาที่ดีในเรื่องเรียนให้ฉันแล้วมันยังจะชอบใช้งานฉันทำนู้นทำนี่ให้ อย่างเช่นวันนี้ที่มันพยายามหว่านล้อมโดยการบีบเสียงหวานใส่ฉันจึงรู้ได้ในในทันทีว่ามันต้องมีเรื่องให้ฉันทำแน่นอน

"มาเหนื่อย ๆ นั่งลงก่อนมิวสิคน้องรัก" ยิ่งคำว่า 'น้องรัก' ที่หลุดจากปากมันแล้วก็ยิ่งน่าขนลุกมากกว่าอะไรที่เคยได้ยิน ฉันจึงส่งสายตามองมันนิ่ง ๆ แล้วฉีกยิ้มมุมปากเพื่อให้มันพูดออกมาโดยไม่ต้องอ้อมค้อมให้เสียเวลา

"ขึ้นร้องเพลงให้พี่หน่อย ไอ้นักร้องแม่งป่วยอีกแล้ว" นั้นไง…ฉันว่าอยู่แล้วไม่มีผิด ถ้ามันไม่มีเรื่องให้ช่วยก็คงจะไม่มาโผล่หน้าให้เห็น ปกติก็ขลุกอยู่กับสาว ๆ ในห้องทำงานชั้นสองแต่พอมีเรื่องเดือดร้อนทีไร เป็นต้องลำบากฉันทุกที

"ไอ้มิวมันยังไม่ทันได้นั่งเลยนะพี่" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ตอบไอ้พี่กันย์โอโซนเพื่อนรักก็ทำงานแทนให้ โดยมันมาถึงก่อนฉันหลายนาทีก่อนหน้าเพราะนัดกันเอาไว้ นอกจากนั้นก็ยังมีซินดี้เพื่อนที่คณะอีกคนที่นั่งอยู่เหมือนกัน

"ก็ถึงบอกให้กินน้ำให้ใจเย็นก่อนไง ไม่ได้บอกให้ขึ้นไปร้องเลยครับน้องโซน" โอโซนกรอกตาใส่พี่กันย์ด้วยความเบื่อหน่าย ยามขอให้ช่วยก็เลียแข้งเลียขาดูแลเป็นอย่างดี ยามที่ฉันอยากจะขอช่วยบ้างก็หายหน้าหายตาไปในกลีบเมฆไอ้พี่รหัสจอมกะล่อนฉันรู้จักนิสัยมันดี

"ไอ้พี่กันย์…" หลังจากที่เงียบอยู่นานฉันก็ดึงมือที่ล็อกออกจากคอ ก่อนที่จะกดเสียงให้ดังแข่งกับดนตรีในร้านแล้วหันไปมองหน้าพี่รหัสอย่างจริงจัง

"ครับน้องมิว"

"ดูปากมิวนะ ไม่!" ฉันยกนิ้วชี้ปากสวยบางของตัวเอง ก่อนที่จะย้ำว่า 'ไม่' ใส่หน้าไอ้คนหน้าตาดีแต่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าอะไรดี

"ไอ้มิวววว…ช่วยกันหน่อยสิวะ ไอ้คิวมันไม่สบายจริง ๆ ถ้าไม่ใช่มึงกูก็ไม่รู้จะให้ใครช่วยแล้วนะเว้ย"

"แต่มิวตั้งใจมาดื่มกับเพื่อนไม่ได้อยากมาร้องเพลงเว้ยพี่" ถามว่าทำไมไอ้พี่กันย์ถึงขอร้องฉัน ก็เพราะว่าหลายครั้งที่ฉันต้องขึ้นร้องเพลงแทนพี่คิวกับพี่เวย์นักร้องสองคนที่ลางานพร้อมกัน ไอ้พี่กันย์ที่เคยเห็นฉันดีดกีตาร์ร้องเพลงที่ชมรมอยู่บ่อย ๆ ก็ใช้ให้ขึ้นไปร้องแทน บางวันที่ฉันเบื่อ ๆ ก็ยอมขึ้นไปช่วยมันง่าย ๆ แต่สำหรับวันนี้มันไม่ใช่ เพราะไม่ได้เตรียมใจจะมาร้องเพลงแต่มาเพราะอยากจะดื่มระบายความเครียดกับเรื่องที่บ้านที่ปวดหัวจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

"มิวมึงก็ช่วยพี่เขาไปเถอะ" ซินดี้ว่าจบก็พยักเพยิดให้ฉันยอม

"เห็นปะ น้องซินดี้ยังสงสารกูเลย" คนได้ทีมีพวกก็เอาใหญ่ทันที

"เปล่าอะพี่ ซินรำคาญ" สิ้นเสียงไอ้ซินดี้พวกเราทั้งสามก็พากันระเบิดหัวเราะยกใหญ่ ที่พูดแบบนี้ได้เพราะพวกเราทั้งสี่สนิทกันมาก ถึงพี่กันย์มันจะไม่ค่อยมีข้อดีให้น่าคบหาเท่าไหร่แต่มันก็ถือว่าเป็นคนจริงใจกับพี่น้องคนหนึ่ง นิสัยที่แสดงออกเป็นอย่างไรลึก ๆ ในใจมันก็เป็นคนแบบนั้น หมายถึงว่าเลี้ยทั้งภายในและภายนอกแทบที่ไม่มีอะไรปกปิด

"กูยอมให้พวกมึงหัวเราะเยาะแล้ว ไอ้มิวมึงขึ้นร้องเพลงให้กูด้วย"

"เออ ร้องก็ร้องวะ" สุดท้ายฉันก็ต้องฝืนใจยอมช่วยเหลือ เพราะหากไม่รับปาก ไอ้พี่รหัสฉันมันก็ตื๊อไม่เลิก รับรองว่าคืนนี้คงไม่ได้ดื่มเหล้าสบาย ๆ อย่างแน่นอน

"งั้นก็ตามนั้น กินเต็มที่ โต๊ะนี้กูเลี้ยงแลกกับค่าตัวไอ้มิว ไปละ" ว่าจบไอ้พี่กันย์ก็เดินหนีไปในทันที เป็นอย่างที่ฉันพูดไว้ไม่มีผิด พอมันได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วมันก็ไม่สนใจอะไรอีก แม้แต่จะถามไถ่สารทุกข์สุขดิบน้องรหัสมันเลยสักนิดก็ไม่มี

"กูละเชื่อไอ้พี่กันย์เลย" โอโซนส่ายหัวแสดงความเอือมระอา เช่นเดียวกับฉันที่หมดคำจะพูดกับคนแบบมันเหมือนกัน

"งั้นกูไปเตรียมตัวก่อนแล้วกัน ไอ้ซินยืมหมวกหน่อย" ฉันแบมือขอหมวกแก๊ปที่อยู่บนหัวซินดี้ เพราะไม่ค่อยอยากจะโชว์หน้าตอนขึ้นเวทีเท่าไหร่จึงอยากได้บางอย่างมาอำพรางบนใบหน้าเพื่อกันปัญหาที่จะตามมาทีหลัง

"เออ ๆ" ซินดี้ยอมถอดแล้วยัดใส่ในมือ ก่อนที่ฉันจะยกมือรวบผมมัดไว้ลวก ๆ แล้วดันหมวกสีดำปกปิดใบหน้าไว้

"ไปนะ อย่าชิงเมาไปก่อนล่ะ"

"ไม่รับปาก" โอโซนยักไหล่ใส่ฉันแล้วกระดกแก้วดื่มราวกับยั่วน้ำย่อยฉันเล่น ๆ ตอนแรกตั้งใจอยากจะนั่งดื่มย้อมใจที่ทะเลาะกับแม่เสียหน่อย ไอ้พี่กันย์ก็ทำเสียเรื่องจนได้ แทนที่จะได้มาถือแก้วเหล้ากลับต้องมาถือไมค์ร้องเพลงแทน

"ฝากไว้ก่อนเถอะ" ฉันชี้นิ้วคาดโทษโอโซนไว้ก่อนที่จะลุกขึ้นเพื่อจะเดินไปเตรียมตัวหลังเวที

แต่แล้ว…

ปึก!

ร่างสวยของฉันยังยืนขึ้นไม่ทันเต็มความสูง อยู่ ๆ ไอ้ร่างบึกบึนอกแข็งปึกมาจากไหนไม่รู้เดินมาชนฉันเข้าเต็มแรง แรงจนหมวกที่สวมหลุดออกจากหัวพร้อมกับผมที่สยายยาวสลวย

ภาพในจินตนาการตอนนี้ฉันคงจะออกมาดูดีราวกับนางเอกในละครล้มตึงในท่าสวย แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่เลยสักนิด เพราะตอนนี้ฉันนั้นก้นกระแทกพื้นนั่งจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นแข็ง ๆ จุกไปทั้งตัว

"เฮ้ย…มิว!!" สองเพื่อนรักอุทานขึ้นพร้อมกัน แล้วหลังจากนั้นมันก็ทำในสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดคือระเบิดหัวเราะออกมาอย่างชอบใจแทนที่จะมาช่วยพยุง

นี่สินะบททดสอบการเป็นเพื่อนรักของคนเรา เวลาเพื่อนเดือดร้อนแทนที่มันจะยื่นมือมาช่วยแต่มันกลับนั่งหัวเราะสบายใจเฉิบ

"ชนคนอื่นแล้วไม่คิดจะขอโทษเลยหรือไง!" ช่างเพื่อนที่ขำไว้ก่อน เพราะยังต้องคิดบัญชีกับไอ้คนที่ชนจนเป็นเหตุที่ทำให้ฉันเจ็บตัวอยู่แบบนี้ แล้วแม่งก็ไม่คิดจะช่วยเหลือกันเลยสักนิด แถมยังยืนล้วงมือในกระเป๋ากางเกงยืนมองฉันนิ่ง ๆ ไม่พูดไม่หือไม่อือเลยสักคำ

"ใครชนใคร?" แล้วดูคำตอบที่หลุดมาจากปากเขาสิ ให้ตายเถอะ…นอกจากจะหน้านิ่งแล้วยังไร้ความรู้สึกอีก กล้าตอบด้วยใบหน้าเรียบ ๆ แบบนั้นได้อย่างไรกัน แล้วไอ้ความหล่อบนใบหน้าเขามันไม่ได้ช่วยอะไรได้หรอกนะ นัยน์ตาสีน้ำตาลคมกริบ ริมฝีปากอมชมพูคล้ำนิด ๆ จมูกเป็นสันเข้ากับรูปหน้าเรียว ๆ ผิวขาวออร่าเปล่งประกาย มือเรียวยาวปูดนูนด้วยเส้นเลือด และหุ่นที่โคตรจะดูดีที่ดูก็รู้ว่าภายใต้เสื้อเชิ้ตสีดำนั้นต้องเต็มไปด้วยมัดกล้าม ไม่ได้ทำให้ฉันอยากให้อภัยเขาเลยสักนิด

แล้วคนบ้าอะไรจะดูดีทุกอย่างแบบนี้นะ!

"ไอ้เซฟทางนี้!" ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ต่อว่า อยู่ ๆ ไอ้คนดูดีก็ปรายไปตามเสียงที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังฉัน เขาพยักหน้าให้คนที่รู้จักกันก่อนที่จะหลุบมามองฉันเพียงนิดแล้วเดินหนีออกไปโดยไม่คิดจะขอโทษฉันสักคำ

"เฮ้ย! คิดจะเดินหนีง่าย ๆ แบบนี้เลยเหรอ!?" ฉันตะโกนไล่หลังเสียงดังลั่น โดยคิดว่าเขาได้ยินเสียงฉันอย่างชัดเจนเพราะหลายคนเริ่มหันมาให้ความสนใจที่ฉัน แต่คนที่อยากให้ได้ยินกลับไม่หันมาเลยสักนิดเดียว

"นี่นาย!!!"

"ไอ้มิวแกเลิกโวยวาย คนหันมาทั้งร้านแล้ว" ในที่สุดเพื่อนที่โคตรจะรักฉันก็ยอมเดินมาช่วยหิ้วปีกฉันคนละข้าง แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะพวกมันเป็นห่วงฉันแต่เพราะมันกำลังอายที่กำลังตกเป็นเป้าสายตาจากคนภายในร้าน

"กูจะตามไปเอาเรื่อง ชนแล้วหนีแบบนี้ได้ยังไงวะ!?" แต่นาทีนี้ฉันไม่ได้สนใจจะด่าเพื่อนเสียเท่าไหร่ อารมณ์ตอนนี้มันกำลังมุ่งไปอยู่ที่คนคนเดียว กล้าทำกับฉันแบบนี้ได้อย่างไรไร้มารยาทสิ้นดี

"ไอ้มิวหยุดเลย มึงต้องไปเตรียมตัวแล้ว" ซินดี้รั้งร่างฉันไว้ไม่ให้เดินไปหาเรื่อง แล้วพยายามลากฉันไปหลังร้านทั้งที่อารมณ์ยังเดือดดาลไม่หาย

"มึงไม่เห็นเหรอว่ามันเดินชนกูอะ"

"เห็น แต่ถ้ามึงมีเรื่องไอ้พี่กันย์เอาเรื่องมึงแน่"

"ก็เอาไปดิ กูไม่สน!" ฉันพยายามยื้อตัวเองสวนกับแรงของเพื่อน ทว่าเพื่อนมีตั้งสองคนมันทำให้ฉันสู้แรงไม่ได้ แม้จะเดือดดาลแค่ไหนแต่ก็เป็นต้องเก็บไว้ก่อน

แม่งเอ้ย…เจอกันอีกครั้ง ฉันคิดบัญชีนายแน่!