หลงกลรักมาเฟียร้อยเล่ห์

196.0K · จบแล้ว
ทิพย์วารี
163
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ลูกหว้า” คลินท์กัดฟันเรียกยัยตัวร้ายที่มองเขาอย่างรังเกียจเหมือนตัวเชื้อโรคอย่างโมโห “ฉันไม่รับแขกต่อให้ตึกถล่มอย่าให้ใครขึ้นมาชั้นนี้” เสียงห้วนสั่งคนสนิททั้งสองดังลั่นแม้แต่คนที่อวดเก่งยังสะดุ้งก่อนจะเดินอ้อมโซฟาไปทางประตูที่เล็งไว้แล้วก้าวเท้าวิ่งไปไม่ถึงสี่ก้าว “ว้ายยย์!!..” ร่างบางลอยลิ่วขึ้นไปอยู่บนไหล่แกร่งหน้าท้องพาดบ่ากว้างลำตัวด้านหน้าแนบติดแผ่นหลังแข็งแรงห้อยหัวร่องแร่งมือนุ่มแกว่งไปมาก่อนจะยกขึ้นทุบตีบั้นเอวสะโพกของคลินท์เต็มแรงแต่ชายหนุ่มไม่สะดุ้งสะเทือน “เพี้ยยะ ๆ.” “ดิ้นเข้าไป ถ้าตกหัวทิ่มไปอย่ามาโทษพี่นะลูกหว้า” คลินท์ฟาดฝ่ามืออีกข้างลงบั้นท้ายกลมกลึงไปสองครั้งลงน้ำหนักมือพอประมาณและพูดขู่ร่างแพรียวที่อยู่บนบ่ากว้างก่อนจะเดินไปที่ห้องพักผ่อนส่วนตัวที่เขาบอกให้เทอรี่เฝ้ายัยตัวร้ายไว้อย่าให้คลาดสายตาแล้วเป็นไงล่ะเทอรี่ทำงานพลาดแค่ดูแลผู้หญิงตัวเล็กยังทำไม่ได้ เดี๋ยวเขาจะจัดการกับคนสนิททีหลังตอนนี้จะปราบพยศยัยตัวร้ายก่อนถ้าทำไม่ได้อย่ามาเรียกเขาว่า คลินท์ โคลนี่ย์ “ปล่อยเค้านะ ไอ้โรคจิต ไอ้หื่น ไอ้...” “ถ้ายังไม่หยุดพูดพี่จะเอาลูกหว้าตรงทางเดินนี่แหละ รู้ใช่มั้ยว่าพี่ยังเอาไม่เสร็จ..” เสียงห้าวพูดแล้ววางฝ่ามือลูบบั้นท้ายกลมกลึงแล้วขยำเบาๆ “อย่านะ ไอ้มาเฟียลามก ไอ้ซาดิสต์ ปล่อยนะ หว้าบอกให้ปล้อยยย.” ร่างบางบนบ่ากว้างทั้งร้องด่าทั้ง ดิ้นรนทุบตีแต่ร่างสูงใหญ่ล็อกเรียวขาไว้แน่นก่อนจะเดินเข้าห้องพักผ่อนส่วนตัวที่เทอรี่เปิดประตูอำนวยความสะดวกให้และปิดประตูล็อกให้เรียบร้อย

นิยายรักโรแมนติกหนุ่มเจ้าสำราญเศรษฐีมาเฟียนางเอกเก่งพระเอกเก่ง18+โรแมนติกเจ้าเล่ห์รักหวานๆ

บทที่ 1 จับได้คาหนังคาเขา

The Bangkok Sky

ภัตตาคารลอยฟ้าชื่อดังชั้น85บนยอดตึกที่สูงที่สุดในประเทศไทยและเห็นวิวทั่วกรุงเทพมหานครในยามค่ำคืนได้360องศาที่สวยงามอลังการมาก ห้องอาหารทั้งชั้นจะหมุนไปอย่างช้าๆเพื่อให้ลูกค้าที่มารับประทานอาหารได้สัมผัสบรรยากาศสวยงามเพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศ

“คุณแม่ขาลูกหว้าหิวแล้วค่ะ” ลูกหว้าหรือเด็กหญิงรัตติยากร กาจณานุวัฒน์วัย12ปีหน้าตาน่ารักปากนิดจมูกหน่อยถักเปียรอบศีรษะมีมงกุฎเล็กประตับด้วยคริสตัลสวมบนศีรษะเล็กสวยชุดสีชมพูฟูฟ่องตรงหน้าอกติดเข็มกลัดคริสตัลรูปหัวใจสวยน่ารักราวเจ้าหญิงตัวน้อย

“ได้สิลูก หนูจะกินอะไรคะลูก” จีรนันท์ กาญจณานุวัฒน์ คุณแม่คนสวยถามลูกสาวอย่างอ่อนโยนวันนี้เป็นวันเกิดของลูกสาวสุดที่รักของเธอ เธอกับแม่คุณเพ็ญนภา ทรัพย์ไพศาล คุณยายของลูกจึงพาเจ้าหญิงตัวน้อยมากินอาหารที่ภัตคารลอยฟ้าส่วน วาทิน กาญจณานุวัฒน์ พ่อของลูกนั้นไม่รู้ไปไหนเพราะเธอโทรหา

เขาไม่ติดคิดว่าอาจจะติดงานก็ได้

“คุณยายขา ลูกหว้าจะกินอะไรดีคะ กินกุ้งไม่ได้งั้นกินปลานะคะคุณแม่ขา” เสียงแหลมเล็กดังเจื้อยแจ้วถามคุณยายและตอบเองเพราะรู้ว่าตัวเองแพ้กุ้ง

“ดีจ้ะ กินปลาเยอะหลานยายจะได้ฉลาดลูก” คุณยายเอาใจหลานสาวและสั่งอาหารให้ตามที่หลานสาวชอบ เมื่ออาหารมาเสิร์ฟเต็มโต้ะทั้งสามคนยายหลานก็กินอาหารกันไปอย่างมีความสุข

“คุณแม่ขาแล้วเค้กวันเกิดของลูกหว้าล่ะคะ” เด็กหญิงเคี้ยวข้าวเต็มปากถามถึงเค้กวันเกิดของตัวเองว่ามีหรือเปล่า

“อืม เค้กของลูกอยู่ที่บ้านค่ะ เดี๋ยวเราไปเป่าเค้กพร้อมคุณพ่อนะคะ” คุณแม่คนสวยบอกลูกสาวแล้วหอมแก้มอย่างแสนรักแก้วตาดวงใจของเธอ

“งั้นเรารีบกินข้าวกันนะคะ ลูกหว้าอยากเป่าเค้กค่ะ” เจ้าหญิงตัวน้อยตื่นเต้นอยากเป่าเค้กเพราะเธอจะได้ของขวัญมากมายจากคุณพ่อคุณแม่ก็ชวนยายกับแม่กินข้าวเพื่อจะได้รีบกลับบ้าน

“เอ่อ” คุณเพ็ญนภาเห็นลูกเขยควงนางร้ายคนสวยเข้าประตูมาถึงกับพูดไม่ออกเพราะท่าทางของทั้งสองไม่ใช่แค่คนรู้จักทั้งโอบเอวหอมแก้ม ท่านรู้ว่าลูกเขยเจ้าชู้เป็นถึงอดีตพระเอกหนุ่มหล่อชื่อดังพอแต่งงานกับลูกสาวของท่าน วาทินก็ไม่มีข่าวเยอะเขายังรับบทพระเอกอยู่จนตอนหลังคลื่นลูกใหม่เข้ามาเยอะทำให้บทบาทเปลี่ยนไปและอายุก็เยอะขึ้นก็รับบทพ่อ ทั้งที่มีลูกแต่กระแสนิยมก็ยังไม่ตกมีผู้จัดติดต่อมาตลอดจนมารับบทพ่อของกษัตริย์ในละครพีเรียดประวัติศาสตร์สมัยอยุธยาที่คนดูติดกันทั่วบ้านทั่วเมืองเขาก็โด่งดังขึ้นมาอีกครั้ง

“อะไรคะคุณแม่” จีรนันท์เงยหน้ามองแม่ที่อ้าปากค้างจ้องไปด้านหลังของเธอเหมือนเจอผี

“มะ ไม่มีอะไรหรอกยัยนันท์ กินข้าวเถอะลูกเดี๋ยวอาหารจะเย็นไปซะก่อน” คุณเพ็ญนภาบอกลูกสาวที่ยอมกินข้าวต่อเมื่อท่านบอกไม่มีอะไรเพราะหันไปมองก็ไม่เห็นอะไร

“คุณยายไม่กินเหรอคะ เดี๋ยวลูกหว้าจะได้กลับไปเป่าเค้กกับคุณพ่อค่ะ” เจ้าหญิงตัวน้อยบอกคุณยายที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกสงสารทั้งลูกทั้งหลานขณะที่ลูกเขยก็ยังไม่เห็นท่านกับลูกเมียที่พาหลานสาวมาเลี้ยงวันเกิด

“กินค่ะ แต่ยายยังไม่หิวเท่าไหร่ เดี๋ยวยายจะกลับไปกินเค้กน้องลูกหว้าด้วยไงคะ” คุณยายยกมือลูบศีรษะหลานสาวเบาๆคิดว่าจะต้องคุยกับลูกเขยสักหน่อยว่าทำไมไม่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับท่านและสามีว่าจะรักและดูแลลูกสาวของท่านให้ดีที่สุดจะไม่ทำให้เจ็บช้ำน้ำใจแล้วที่ท่านเห็นนี่ล่ะมันคืออะไร ปกติคุณเพ็ญนภาจะไม่เชื่อข่าวลือทางสื่อออนไลน์ทั้งหลายแหล่แต่นี่ท่านเห็นกับตาและไม่ได้โง่จนดูไม่ออกว่าทั้งสองเป็นแค่เพื่อนกันหรือเพื่อนบนเตียง

“ดีค่ะคุณยาย เค้กของลูกหว้าต้องอร่อยแน่ๆค่ะ คุณแม่ขาพาน้องไปฉิ่งฉ่องหน่อยค่า” เจ้าหญิงน้อยหันไปบอกคุณแม่คนสวยให้พาไปห้องน้ำที่ทางเดินจะต้องผ่านโต้อาหารของวาทินที่นั่งใกล้ทางเดินและมีความเป็นส่วนตัว

“เอ่อ แม่ว่าเรากลับกันดีมั้ยยัยนันท์ น้องลูกหว้าพาน้องไปฉิ่งฉ่องกับคุณยายชั้นล่างมั้ยคะ” คุณเพ็ญนภาชวนลูกสาวกลับท่านไม่อยากให้เจอลูกเขยที่พาคู่ควงมากินอาหาร

“ไม่เป็นไรค่ะคุณแม่ นันท์พาลูกหว้าไปห้องน้ำแป๊บเดียวค่ะ”

“คุณแม่ขา ลูกหว้าไม่ไหวแล้วนะคะ น้องจะเปียกแล้วค่ะ” เสียงหลานสาวเร่งทำให้จีรนันท์ลุกขึ้นพาลูกสาวไปห้องน้ำ คุณเพ็ญนภาหลับตาลงอย่างปลงๆก่อนจะลุกตามไปท่านรู้ว่าต้องเกิดเรื่องแน่

สองแม่ลูกเดินจูงมือคุยกันไปกระหนุงกระหนิงจนเกือบจะถึงโต้ะของวาทินที่มีนางร้ายคนสวยอิงแอบแนบซบป้อนอาหารราวกับคู่รักข้าวใหม่ปลามัน

“คุณพ่อขา คุณพ่อขา” มือเล็กสะบัดหลุดจากมือเรียวของแม่วิ่งไปหาพ่อที่ได้ยินเสียงลูกสาวเรียกก็หันไปมอง

“ลูกหว้า คุณนันท์” วาทินครางออกมาเบาหวิวมองลูกมองแม่สลับกันก่อนจะลุกขึ้นปัดมือคู่ควงออก

“ลูกหว้า” ร่างสูงโปร่งสมาร์ทก้มลงจะกอดลูก

“ไปห้องน้ำกันค่ะลูกหว้า เดี๋ยวเราจะกลับบ้านกันคุณยายรออยู่นะลูก” จีรนันท์บอกลูกสาวเสียงอ่อนหวานไม่ได้สนใจสามีเพราะเธอเจ็บเกินกว่าที่จะมาพูดต่อหน้าลูกให้รับรู้เรื่องข่าวฉาวของพ่อ

“แล้วคุณพ่อละคะ” เจ้าหญิงน้อยยังไม่ยอมเพราะอยากเจอพ่ออยากให้ไปเป่าเค้กวันเกิดกับเธอ

“คุณพ่อไม่ว่างค่ะ ไปเถอะคุณพ่อจะได้คุยกับเพื่อนให้หนำใจ” จีรนันท์เน้นเสียงให้รู้ว่าเธอโกรธมากแต่ยังเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยากเป็นข่าวฉาวโฉ่ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์

“นันท์ครับ ผม..”

“คุณนันท์คะ มันไม่ใช่อย่างที่คุณนันท์คิดนะคะ โยกับคุณทินเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันนะคะ” โยทะกานางร้ายคนสวยที่แสดงละครร่วมกับวาทินบอกภรรยาของดาราหนุ่มหล่อที่เธอแอบกินกันมานานกว่าหกเดือนตั้งแต่แสดงละครด้วยกันมาจนจบเรื่อง

“ลูกหว้าไปห้องน้ำกับยายนะลูก” ห่วงลูกก็ห่วงห่วงหลานก็ห่วงคุณเพ็ญนภาจึงเลือกหลานเพราะลูกโตแล้วส่วนหลานยังเด็กท่านไม่อยากให้เห็นเหตุการณ์แบบนี้

“เธอรู้เหรอว่าฉันคิดอะไรโยทะกา” เมื่อลูกสาวไม่อยู่เธอก็ไม่ให้เกียรติผู้หญิงหน้าไม่อายกับผู้ชายมากชู้หลายใจอีกต่อไป

“นันท์ใจเย็นๆก่อนสิครับ” วาทินเดินเข้าไปจับแขนภรรยาเพื่อไม่ให้เสียงดังแต่ตอนนี้เริ่มมีคนมาเมียงมองแล้วเพราะจำเขากับโยทะกาได้

“ใจเย็นเหรอคะทิน คุณบอกให้นันท์ใจเย็นทั้งที่สามีควงชู้มากินอาหารหน้าระรื่นแต่ลูกเมียติดต่อไม่ได้นี่เหรอคะทิน แล้วคุณบอกให้นันท์ใจเย็น” จีรนันท์เก็บอารมณ์ไม่อยู่เธอแผดเสียงใส่สามี

“นันท์ครับ”

“อย่ามาจับฉัน ฉันขยะแขยงคุณอย่าเอาเนื้อตัวสกปรกของคุณมาแตะต้องตัวฉัน” จีรนันท์ปัดมือของสามีออกอย่างแรงใบหน้าสวยแดงก่ำยืนตัวสั่นเทาไม่รู้จะจัดการกับสามียังไงความรู้สึกมันชาไปหมดทั้งตัวเหมือนใครเอาไฟนับหมื่นโวลต์มาช็อตตัวเธอแต่เสียงลูกสาวทำให้เธอได้สติจึงนิ่ง

“นันท์กลับไปคุยกันที่บ้านนะครับ” วาทินพูดเสียงอ่อนรู้สึกผิดกับภรรยาแต่เขาทนแรงรบเร้าออดอ้อนของโยทะกาไม่ได้จึงพาเธอมากินอาหารหลังจากที่ไปทำงานของช่องมาด้วยกันและจะไปต่อกันที่รังรักของเขากับเธอที่คอนโดหรู

“แต่คุณทินคะ” โยทะกาเรียกร้องความสนใจบ้างเธอคิดว่าวาทินหลงใหลรสสวาทที่เธอป้อนอย่างถึงอกถึงใจและคิดว่าเธอก็เป็นเมียของเขาคนหนึ่งเหมือนกันจึงมีสิทธิ์มีเสียงเรียกร้องบ้าง

“คุณกลับไปก่อนโยทะกา” วาทินหันไปบอกโยทะกาเสียงเข้ม

“เรื่องของเราละคะ ในเมื่อคุณจีรนันท์รู้แล้วก็คุยกันเลยสิคะ” ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้วเธอก็จะไม่ถอยเหมือนกัน