ตอนที่4(เสียซิง?)
10:30น.
โรงแรงรัตนบูรภาพิทักษ์
ชั้นที่30ชั้นดาดฟ้าของโรมแรม ห้องสวีทของท่านประธาน
อลิซ อลิศา.....
“อื้อออออ”ฉันร้องขึ้นอย่างโอดโอย รู้สึกเจ็บและหนักอึ้งไปทั้งตัว หัวก็หนัก อีเฮียเคเอาอะไรให้ฉันกิน ปกติฉันไม่เคยกินเหล้าแล้วปวดหัวขนาดนี้น่ะ
“อื้อออ อึดอัด!”ฉันพูดขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงรัดตัวฉันแน่นขึ้นจนฉันรู้สึกอึดอัด ฉันจึงค่อยๆเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งของฉันให้ลืมตามอง และสภาพที่ฉันเห็นคือแผ่นอกที่เปลือยเปล่าของผู้ชายที่ขาวเนียนใสยิ่งกว่าผู้หญิงแต่ถูกแต่งเติมด้วยรอยสักสุดเท่ห์บนตัวของเขา เขากำลังนอนเอาท่อนแขนโอบรอบตัวฉันแน่น ฉันของฉันรู้สึกชาไปหมด
“อื้ออออออ”เสียงครางของผู้ชายที่นอนกอดฉันอยู่ร้องขึ้นพร้อมๆกับมือหนาใหญ่ของเขาค่อยๆขยับลากไปตามสีข้างของฉันขึ้นมาถึง มาถึง
“เห้ย!ไอโรคจิต!”ฉันร้องขึ้นด้วยความตกใจดีดตัวลุกออกจากร่างหนาของผู้ชายคนนั้นอย่างไว
ตุ๊บ
“อะไรล่ะครับ คนสวย”เขาค่อยๆลุกขึ้นนั่งมองฉันที่ลงมายืนอยู่ข้างล่างเตียงนอนคิงไซส์ด้วยสายตางัวเงียแต่เเค่แปปเดียวดวงตาของเขาก็ลุกวาวขึ้นมาทันทีทำให้ฉันรู้สึกตัวว่าร่างกายของฉันมันเย็นๆวูบๆวาบๆยังไงแปลกๆฉันจึงก้มหน้าลงไปสำรวจร่างกายของตัวเอง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดอุ๊บอื้อออ”เมื่อฉันเห็นสภาพตัวเองที่ยืนเปลือยเปล่าท้าทายสายตาของเขาก็ร้องกรี๊ดขึ้นมาทันทีจนเขาวิ่งเอามือมาปิดปากฉันอย่างไว
“จุ๊ๆๆๆเงียบๆหน่อยสิครับ เมียจ๋า”เขากระซิบบอกฉันที่ข้างหูทำให้ฉันขนลุกซู่กับลมหายใจอุ่นๆของเขาที่เป่าลดต้นคอของฉัน
“งั๊บ”
“โอ้ย!พี่เจ็บนะครับ”เขาร้องโอดโอยขึ้นเมื่อฉันกัดฟันงับลงไปที่ฝามือของเขาที่ปิดปากฉันอยู่จนทำให้เขายอมปล่อยมือออกจากปากของฉัน แต่เขาไม่ยอมปล่อยมืออีกข้างจากการกอดฉันน่ะสิ
“เรื่องของนาย ฉันไม่ได้เจ็บหนิ อ้อแล้วใครเป็นเมียนายห๊ะพูดให้มันดีๆหน่อย ปล่อยฉัน!ได้แหละไอโรคจิต”ฉันหันหน้าไปมองมองค้อนเขาตาขว้างพลางเอ่ยบอกเขาเสียงดัง แต่คนตัวโตกว่าไม่มีทีท่ากลัวหรือสำนึกผิดใดๆเลย
“ก็หนูไงเป็นเมียพี่ เมื่อคืนนี้เรา เราสนุก”เขามองหน้าฉันพลางส่องสายตาแทะโลมร่างกายฉัน
“หยุด!หยุดพูด ฉันไม่อยากฟัง!”ฉันตะโกนบอกเขาพลางเอามือของฉันมาจับมือใหญ่หนาของเขาให้หลุดออกไปจากฉัน แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อฉันยิ่งขัดขืนเท่าไรเขาก็ยิ่งรัดร่างของฉันเเน่นขึ้นเท่านั้น
“ทำไมล่ะครับ ทำไมถึงไม่อยากให้พี่พูดล่ะ หนูแซ่บขนาดนี้”ไอบ้านี้ยังไม่หยุดพูดอีก ฉันหยิกแขนเขาพลางมองเขาด้วยสายตาโกรธแค้น หมดกันสิ่งที่ฉันสงวนไว้ให้พี่หมอกรูฟโดนใครก็ไม่รู้มาพรากมันไป
“ฮืฮๆๆๆๆๆ”ฉันร้องไห้งอแงออกมาเสียงดังเมื่อคิดว่าสิ่งที่ฉันเก็บไว้ให้พี่หมอกรูฟได้สูญเสียไปแล้วโดยชายแปลกหน้าที่ฉันไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเขา
“เห้ย!ร้องไห้ทำไมครับ”คนที่พรากสิ่งสุดท้ายที่ฉันมีอยู่เอ่ยถามขึ้นด้วยความตกใจ
“ฮืฮๆๆๆนาย นายทำลายฉันทำไมฮืฮ”ฉันเอ่ยว่าเขาพลางทุบกำมือลงไปบนแผงอกเปลือยเปล่าที่ทั้งเเข็งและเเน่น ฮืฮเจ็บยิ่งฉันทุบเขาเท่าไรฉันก็ยิ่งเจ็บ หุ่นของผู้ชายคนนี้เข้าขั้นดีมาก หน้าตาก็ดีเรียกว่าโคตรหล่อได้เลยล่ะ ไหนจะบอดี้ของเขาที่สาวๆคนไหนเห็นก็ต้องหลงใหลเขามีหุ่นที่เพอเฟคมากเผลอๆหุ่นของเขาดีกว่าพี่หมอกรูฟอีกน่ะ แต่ไม่ได้ อลิซไม่ได้ แกต้องซื่อสัตย์รักพี่หมอแค่คนเดียว
“เปล่านะ พี่ไม่ได้ทำลายหนูนะ พี่แค่ปลำ้หนูเอง”เขาตอบฉันหน้าตาเฉยชามากอ่ะ ฉันยกมือขึ้นมาปาดนำ้ตาแล้วมองหน้าเขาทันที
“ก็นั้นแหละ นายปลำ้ฉันทำไม นายรู้ไหมว่าฉันจะเก็บไว้ให้ป่ะป๊าของลูกฉันน่ะ!”ฉันเอ่ยบอกเขาไปด้วยนำ้เสียงจริงจัง จนแวบหนึ่งฉันเห็นเหมือนดวงตาคู่คมสวยเหมือนพญาเหยี่ยวของผู้ชายตรงหน้าสั่นไหวแต่เเค่แปปเดียวเขาก็เปลี่ยนเป็นดวงตาปกติ
“พี่หมออะไรของหนูนั้นน่ะเหรอ?”
“นายรู้ได้ยังไง?”
“ก็จะไม่รู้ได้ยังไงล่ะครับ ก็ตลอดเวลาที่พี่ปรนเปรอความสุขให้หนูเนี่ย หนูพรำ้เพ้อถึง แต่พี่หมอคะ พี่หมอขา”เขาว่าพลางจีบปากจีบคอพูดล้อเลียนฉัน
“รักเขามากขนาดนั้นเลย”
“อืม”ฉันตอบเขาไปทำให้เขาคลายท่อนแขนใหญ่ออกจากร่างของฉัน
“พี่ขอโทษ”เขาพึมพำบอกฉันแล้วเขาก็เดินหายเข้าไปในห้องอะไรสักอย่างฉันมองตามเขาจนร่างของเขาลับหายไป ฉันก็ค่อยๆเดินไปอีกห้องที่อยู่ตรงข้ามกับห้องที่ผู้ชายคนนั้นเดินหายเข้าไป เมื่อฉันเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับตู้เสื้อขนาดใหญ่ฉันรีบเดินเข้าไปหาเสื้อผ้าที่จะเอาพอมาใส่เพื่อจะกลับบ้านได้ โทรศัพท์ก็ไม่มีตังค์ติดตัวสักบาทก็ไม่มี
“อีลิซ แกจะซวยอะไรขนาดนี้วะ ซิงก็เสียให้ใครก็ไม่รู้ เวรกรรมๆ”ฉันเลือกเสื้อผ้าไปด้วยบ่นไปด้วย ตู้เสื้อผ้าถูกจัดเป็นระเบียบมากเสื้อเชิ้ตสีขาวถูกแขวนไว้ในตู้เดียวกัน ฉันจึงหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวออกมาจากตู้ตัวหนึ่งพลางรีบสวมร่างกายที่เปลือยเปล่าของฉันทันทีและเดินออกมาจากห้องเเต่งตัวเดินไปตู้ที่ตู้เก็บกุญแจรถที่ถูกติดตั้งไว้บนผนังห้องที่ถูกตกแต่งด้วยโทนสีขาวดำตามสไตล์ลุคแบดบอยของเจ้าของห้อง
“โห้!รถสปอร์ตทุกคัน รวยอะไรขนาดนี้วะ”ฉันร้องอถทานด้วยความตกใจเมื่อเปิดตู้กระจกใสก็พบกุญแจรีโมทรถสปอร์ตเกือบๆ20อันได้
“ขอยืมคันหนึ่งก่อนละกันนะคะ เดี๋ยวฉันให้เด็กที่บ้านเอามาคืนคุณให้”ฉันพูดไปพลางเขียนข้อความลงไปในกระดาวโพสต์อิทสีชมพูเสร็จแล้วก็แปะกระดาษไว้บนตู้กระจกที่เก็บรีโมทรถยนต์แล้วรีบเดินออกมาจากห้องใหญ่นี้
“โห้ เจ้าของโรงแรมรึป่าววะเนี่ย?”เมื่อฉันออกมาได้ก็ต้องร้องอุทานออกมาอีกเมื่อเปิดประตูกระจกใสที่จริงมันมีรหัสแต่สงสัยเจ้าของห้องปลดล็อคไว้ให้แล้วมั้ง ฉันก็พบกับที่จอดรถสปอร์ตเกือบๆ20คันจอดอยู่แต่ละคันสีแสบๆทั้งนั้นมีทุกสี
“รสนิยมใช้ได้หนิ”ฉันพึมพำๆขึ้นและรีบเดินไปหารถสปอร์ตเปิดประทุนสีขาวที่มันตรงรุ่นกับที่ฉันหยิบรัโมทออกมา
ติ๊ดดดด
ฉันกดปลดล็อครถและรีบขึ้นไปบนรถขับออกมาจากชั้นบนสุดของโรงแรมแห่งนี้ทันที ใช่มันอยู่ชั้นบนสุดจริงๆและโรงแรมที่นี้ไม่น่าจะตำ่กว่า5ดาวแต่ๆเพราะแต่ละชั้นของโรงเเรมมีโรงจอดรถทุกชั้นและโรงแรมใหญ่โตมองรวยงามถูกออกแบบสไตล์ทรงยุโรป เจ้าของโรงแรมต้องรวยมากแน่ๆเลย ฉันไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าขับรถกลับบ้านทันทีฉันใช้เวลาในการขับรถราวๆ20นาทีก็มาถึงบ้านหลังใหญ่ของม๊าฉัน
ปรั๊ก
“อลิซ!”ม๊าเฟื้องฟ้าที่กำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ห้องรับแขกก็ร้องเรียกฉันเสียงเมื่อฉันกำลังจะเดินขึ้นบันไดห้องของตัวเอง
“ม๊า ฮืฮๆๆ”เมื่อฉันได้ยินเสียงม๊าและหน้าของม๊าฉันก็ร้องไห้โห่ออกมาทันที
สวบ
ฉันรีบวิ่งเข้าไปกอดม๊าทันที
“เป็นอะไรลูก ร้องไห้ทำไม?”ม๊าเอ่ยถามฉันด้วยนำ้เสียงเป็นห่วงมือหนาลูบผมของฉันเพื่อปลอบโยน
“ฮืฮๆๆๆ”เมื่อม๊าถามและไม่รู้ว่าฉันจะตอบยังไง ฉันก็ยิ่งร้องไห้กอดม๊าแน่นกว่าเดิม ม๊าก็กอดตอบฉัน
“ไม่เป็นไรลูก หนูพร้อมเมื่อไรค่อยเล่าให้ม๊าฟังก็ได้นะ”เสียงที่อบอุ่นและอ่อนโยนของม๊าช่วนเยียวยาแผลในใจของฉันได้เยอะเลย ฉันร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของม๊าอยู่นาน จนฉันขอตัวเพื่อจะขึ้นห้อง ม๊าของฉันก็ไม่เอ่ยถามอะไรฉันเพียงแค่ส่งยิ้มที่อบอุ่นและใจดีมาให้ฉัน ฉันทีม๊าอยู่แค่คนเดียวฉันรักม๊ามากป๊าของฉันท่านเสียไปตั้งแต่ฉันเด็กๆฉันมีพี่ชายอยู่หนึ่งคน ชื่อเฮียเอคาร์แต่ตอนนี้เฮียคาร์ไปทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นนานๆทีจะกลับมาทีหรือก็ไม่กลับมาเลย ฉันเองก็เพิ่งจะกลับมาอยู่เมืองไทยเมื่อ3เดือนที่แล้วนี้เอง ที่จริงกำหนดกลับของฉันและฮันนี่คือสิ้นเดือนหน้าแต่ฉันคิดถึงม๊ามากจึงขอฮันนี่กลับมาก่อน ฮันนี่คือเพื่อนรักของฉัน เราสนิทกันตอนเรียนประถม เธอไปเรียนต่อที่อเมริกาฉันเลยขอตามไปเรียนกับเธอด้วยเพราะนิสัยของเราเข้ากันได้ดี รู้ใจกันไปซะทุกเรื่องล่ะมั้งเลยทำให้ฉันรักเธอ ตอนนี้ยัยนั้งคงจะเที่ยวช้อปแหลกอยู่ที่อเมริกาโน่นแหละ
“ฉันคิดถึงแกจัง ฮันนี่ ฉันอยากจะเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับฉันในวันที่แกไม่ได้อยู่กับฉันให้แกฟังฮืฮๆๆๆ”ฉันมองรูปถ่ายของเพื่อนรักที่ถ่ายคู่กับฉันที่วางไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียงนอนพร้อมกับเอ่ยบอกเธอพร้อมกับร้องไห้ ขยำ้เสื้อเชิ้ตตัวสีขาวจนยับยู่ยี่ไปหมด
“แล้วทีนี้ อลิซจะทำยังไงละคะพี่หมอ อลิซจะทำอะไรต่อไปดี อลิซยังมีสิทธิ์ในตัวพี่หมอได้อีกรึป่าวคะ”ฉันพูดขึ้นกับรูปถ่ายที่ฉันแอบถ่ายแล้วเอามาติดไว้เต็มผนังห้องบนหัวเตียงนอน เป็นรูปของพี่หมอทุกกิริยาบทที่ฉันเป็นคนแอบถ่ายตั้งแต่ที่ฉันกลับมาเมื่อไทยเมื่อ3เดือนก่อนและได้ตกหลุมรักพี่หมอกรูฟเข้าอย่างจัง