บทที่ 5 ความบันเทิงในวังหลวง
บทที่ 5 ความบันเทิงในวังหลวง
ด้านจ้าวไป๋ลู่นั้นก็กำลังให้หมิงอวี้สาวใช้ทายาที่ท่านหมอจัดให้ ก่อนจะเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
ขาของข้า!!! ฮือออ
จ้าวเฉียนที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มให้น้องสาวของตนด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะยื่นซาลาเปาไส้เนื้อไปตรงหน้านาง
เมื่อเห็นของกินมาวางตรงหน้า จ้าวไป๋ลู่ก็ยิ้มตาหยี ก่อนจะรับซาลาเปาไส้เนื้อลูกนั้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย ทั้งที่ยังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียง
"อย่างไรเจ้าคงต้องแต่งเข้าจวนโหว"
จ้าวเฉียนเอ่ยกับจ้าวไป๋ลู่ด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย เมื่อได้ยินผู้เป็นพี่ชายเอ่ยเช่นนั้น จ้าวไป๋ลู่ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเป็นอย่างมาก
"พี่ใหญ่ มันเป็นอุบัติเหตุ เอ่อ ข้าไม่ได้ตั้งใจ"
"ข้ารู้ ข้าเชื่อเจ้า แต่ชื่อเสียงของเจ้าย่ำแย่เช่นนี้ จะให้ทำเช่นไรได้เล่า"
"ช่างสิ!!! ข้าจะอยู่ให้ท่านพี่เลี้ยงดูไปจนแก่ ดีกว่าต้องแต่งกับจอมมารผู้นั้น"
จ้าวเฉียนรู้สึกขบขันน้องสาวของตนยิ่งนัก เขายื่นมือไปลูบศีรษะน้องสาวด้วยความรักใคร่
"ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด ก็ยังเป็นน้องสาวของพี่เสมอ"
จ้าวไป๋ลู่พยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างปลงไม่ตก
เห็น ๆ อยู่ว่าจอมมารหลี่ผู้นั้นมีคู่รักอยู่แล้ว เหตุใดท่านแม่และองค์หญิงหงลี่จึงยังดึงดันจะให้นางแต่งกับเขาให้ได้กันนะ!!!
วังหลวง
ตำหนักมังกรสวรรค์
"โอ้ววว อารั่ว วันนี้เจ้าออกเยอะกว่าข้าเสียอีก แถมยังพุ่งแรงเสียด้วย"
ฮ่องเต้หงหยวนปรายตามองหลี่รั่วหานหลานรักที่ยามนี้กำลังรูดชักลำแท่งอย่างถี่ระรัวพร้อมกับน้ำสีขาวขุ่นที่พุ่งลงไปในถ้วยน้ำชาด้วยแววตาที่เจ้าเล่ห์ หลี่รั่วหานที่ชักเสร็จแล้วจึงรีบเอ่ยขึ้นมาทันที
"มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ แม้ของหลานจะเยอะ แต่ดูจากความเข้มข้นย่อมมิอาจสู้เสด็จลุงได้"
ฮ่องเต้หงหยวนที่ได้ยินเช่นนั้นก็แย้มพระสรวลด้วยความเบิกบานใจ
ยามนี้ต้าฉินไร้ซึ่งสงคราม ทั่วแคว้นต่างปรองดองพึ่งพากัน เขาเองก็ว่างจากราชกิจ จึงชักชวนให้หลี่รั่วหาน หลานชาย สุดที่รัก มาแข่งชักด้วยกัน
ชักสิ่งใดน่ะหรือ หุ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ!!!
แม้ด้านหน้าตำหนักจะทรงงานหนัก แต่ยามที่ว่างเว้นเขามักจะมีงานอดิเรกเฉพาะเครือญาตินั่นก็คือ
การรีดพิษ!!!
ไม่ได้รีดพิษงู แต่รีด... ออกจากหว่างขาต่างหาก ฮ่า ๆ ๆ ๆ!!!
เมื่อสนุกสนานกับกิจกรรมยามว่างจนพอใจแล้ว ฮ่องเต้หงหยวนจึงสวมฉลองพระองค์ก่อนจะทิ้งกายนั่งลง
"อารั่ว ยามนี้ท่านแม่ของเจ้าคงสุขสบายดีกระมัง"
"พ่ะย่ะค่ะ ท่านแม่ทรงสบายดี"
ฮ่องเต้หงหยวนพยักหน้าเล็กน้อย เขากับองค์หญิงหงลี่เป็นพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน ยามนี้นางแต่งเข้าจวนโหวมีชีวิตสุขสบายเขาเองก็ดีใจไม่น้อย
หลี่รั่วหานที่เห็นเช่นนั้น จึงรีบเอ่ยกับผู้เป็นเสด็จลุงในทันที
"เสด็จลุง ที่หลานมาขอเข้าเฝ้าในวันนี้ เพราะมีเรื่องต้องการให้เสด็จลุงทรงช่วยเหลือพ่ะย่ะค่ะ"
"หืม เรื่องใดหรือ หลานรักว่ามาเถิด"
"หลานอยากจะขอพระราชทานสมรสพ่ะย่ะค่ะ เสด็จลุงได้โปรดพระราชสมรสให้หลานกับหนิงเสวี่ยด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ"
ฮ่องเต้หงหยวนที่ได้ยินเช่นนั้น มือที่ถือจอกสุราเอาไว้ก็พลันชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหวนนึกถึงข้อความในจดหมายที่องค์หญิงหงลี่ส่งให้เมื่อสองวันก่อน
ห้ามช่วยเหลือหลี่รั่วหานเรื่องงานแต่งเด็ดขาด หากเสด็จพี่ไม่เชื่อคำน้อง ก็อย่าหวังจะได้สูตรยาโด่สะท้านฟ้าจากน้องอีก!!!
ฮ่องเต้หงหยวนที่คิดได้เช่นนั้นจึงทอดถอนใจคราหนึ่งก่อนจะมองหน้าหลี่รั่วหานด้วยความหนักใจ
หลานชายเขาก็รัก
แต่ถึงอย่างไรความแข็งย่อมต้องมาก่อน!!!
"อารั่ว ข้าคงก้าวก่ายเรื่องในจวนของเจ้ามิได้ ข้ามิอยากมีปัญหากับท่านแม่ของเจ้า"
"เสด็จลุง!!!"
"อารั่ว"
"หลานเข้าใจแล้วพ่ะย่ะค่ะ ว่าเสด็จลุงมิทรงมีใจอยากช่วย หลานจะไม่บังคับอีก หึ หลานรู้ว่าเสด็จลุงต้องการสูตรยาโด่สะท้านฟ้าของท่านแม่มากกว่าหลาน เชิญเสด็จลุงโด่ให้เต็มที่เถิดพ่ะย่ะค่ะ หลานขอทูลลา"
หลี่รั่วหานเดินจากไปโดยที่ไม่สนใจฮ่องเต้หงหยวนอีก ฮ่องเต้หงหยวนทำได้เพียงยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว ก่อนจะหันไปเอ่ยกับราชเลขา
"ไปตำหนักเฟิ่งหวง ข้าจะไปหาฮองเฮาเสียหน่อย"
ด้านฮองเฮา พอทราบข่าวว่าสามียอดรักจะมาหา นางก็รีบเก็บข้าวของเดินออกจากตำหนักเฟิ่งหวงอย่างรีบร้อน ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่อุทยานหลวงทันที
อยู่ไม่ได้แล้วเอะอะชัก เอะอะชัก นางจะไม่ทน!!!
ขันทีน้อยที่เห็นฮองเฮาหนีหายไปทางด้านหลังอุทยานหลวงก็ขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะครุ่นคิดในใจ
เมื่อก่อนเขาเคยได้ยินว่า วังหลังมักจะหาทางแย่งชิงความโปรดปรานจากฮ่องเต้ แล้วเหตุใดภาพตรงหน้าที่เขาเห็นจึงเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า!!!
ฮ่องเต้เสด็จมา แต่ฮองเฮาวิ่งหนี!!!
วังหลวงแห่งนี้แปลกประหลาดยิ่งนัก คล้ายกับสติไม่สมประกอบกันทั้งวัง?
หรือจะมีอาถรรพ์!!!
ช่างเถิด!!! อย่าได้เอ่ยวาจาส่งเดชเดี๋ยวหัวจะหลุดจากบ่าเอาได้!!!