บทนำ
นางตั้งครรภ์ลูกของใครกัน ในเมื่อคืนหนึ่งบนแท่นนอนในตำหนักของนางมีชายชู้นอนร่วมแท่นนอน ฝ่าบาทไม่อาจทนดูจึงปลิดชีพชู้รักของนาง หลังจากนั้นไม่นานนางฆ่าลูกในไส้เพียงเพราะนางบ้าใบ้หรือด้วยความแค้นเคืองที่ฝ่าบาทไม่ใส่ใจนาง
ไม่นานนางก็กล้าทำร้ายแม้กระทั่งไทเฮา
ฝ่าบาทสั่งจองจำนางในคุกใต้ดิน นางกรีดร้องจนสิ้นเสียง
สามเดือนหลังจากนั้น ผู้คนก็ได้ยินเสียงเพลงเห่กล่อมเด็ก ล่องลอยออกมาจากคุกใต้ดินทั้งกลางวันและกลางคืน
ไม่มีใครย่างกลายไปที่นั่นเพราะเสียงเพลงกล่อมเด็กช่างหลอกหลอน และทำให้เศร้าสร้อยพร้อมจะหลั่งน้ำตาเสมอ
แล้ววันหนึ่งร่างสูงชะลูดใบหน้าหล่อเหลาของเฉินหยวนฮ่องเต้ก็สาวเท้ายาวๆอย่างเร่งรีบยังคุกใต้ดินที่ที่คุมขังสนมบ้าใบ้นาม..หนิงอัน…คนนั้น
“หากดาวที่แขวนบนฟ้านั่น…..แม่จะเก็บมันมาเผื่อเจ้า…..
แก้วแหวนเงินทองในหีบห่อ….แม่จะเก็บมันไว้ให้เจ้า…..
หลับตาเสียเจ้าก้อนแป้ง….. พรุ่งนี้จึงตื่นจากหลับฝัน
แม่จะเคียงข้างเจ้านิรันดริ์…..เพื่อให้เจ้าหลับฝันพรรณราย
ให้เจ้าไร้ซึ่งทุกข์โศก…..
แม้โลกไม่เป็นดั่งใจหวัง……
แม้ไร้ซึ่งแรงกำลัง จะยังเห่กล่อมเจ้าลำพัง……”
ร่างซูบผอมนางไม่แตะต้องข้าวปลา ถ้วยข้าวถูกวางไว้มีแมลงวันไต่ตอม
หยาดน้ำตาอาบแก้มเกรอะกรังใบหน้าซีดขาวมือเรียวยังเห่กล่อม ก้อนฟ่างที่ถูกมัดรวมกันเป็นก้อนในอ้อมแขน คล้ายร่างของทารกสองคน
เฉินหยวนฮ่องเต้หลับตาลงช้าๆ
“ออกไปจากที่นี่เถิดข้ามารับเจ้าแล้ว”
ดวงตาเหม่อลอยไร้ซึ่งการตอบรับยังคงร้องเพลงเห่กล่อมวนเวียนไปมาซ้ำๆ
“หากดาวที่แขวนบนฟ้านั่น…..แม่จะเก็บมันมาเผื่อเจ้า…..
แก้วแหวนเงินทองในหีบห่อ….แม่จะเก็บมันไว้ให้เจ้า…..
หลับตาเสียเจ้าก้อนแป้ง….. พรุ่งนี้จึงตื่นจากหลับฝัน
แม่จะเคียงข้างเจ้านิรันดริ์…..เพื่อให้เจ้าหลับฝันพรรณราย
ให้เจ้าไร้ซึ่งทุกข์โศก…..
แม้โลกไม่เป็นดั่งใจหวัง……
แม้ไร้ซึ่งแรงกำลัง จะยังเห่กล่อมเจ้าลำพัง……”
เฉินหยวนฮ่องเต้เอื้อมมือแตะที่ข้อศอกของสนมหนิงอันอย่างอ่อนโยน แต่ทุกอย่างยังคงเช่นเดิมนางยังคงเห่กล่อมก้อนฟางในอ้อมแขน หยาดน้ำตาไหลรินอาบแก้มทั้งสอง ดวงตาเหม่อลอยไร้จุดหมายบางครั้งก็ก้มลงจุมพิตมัดฟางด้วยความรักใคร่ไม่ได้สนใจคนตรงหน้าแม้แต่น้อย
“พอได้แล้ว พอที”
เฉินหยวนฮ่องเต้เฝ้ามองด้วยความเจ็บปวดในใจ หมอหลวงหนุ่มเยว่เทียนถอนหายใจยาวสุดจะสะกดกลั้นความรู้สึกหดหู่นั้นได้เช่นกัน
“ฝ่าบาท พระสนมไม่รับรู้สิ่งใดแล้ว นอกจากโลกที่นางสร้างขึ้นมา โลกที่มีเพียงนางกับโอรส ธิดาทั้งสอง”
“พอกันที เจ้าเลิกทำแบบนี้ได้แล้ว หนิงอัน”น้ำเสียงแหบแห้งในลำคอ
เฉินหยวนฮ่องเต้คว้ามัดฟางโยนทิ้งไปคนละทิศละทาง รวบร่างบางไว้แนบกาย
“ลูกแม่ลูกแม่ อย่าๆๆๆอย่าพาพวกเขาไป เอาลูกข้าคืนมา ได้โปรดคืนพวกเขามาฮือๆๆๆๆๆ ได้โปรดคืนพวกเขาให้ข้า….”
หนิงอันสะอื้นอย่างหนักมือไขว่คว้าหามัดฟางสายตาเหม่อลอยแสดงอาการตื่นตกใจและหวาดกลัว มองหามัดฟางที่เฉินหยวนฮ่องเต้โยนทิ้งไป แม้เฉินหยวนฮ่องเต้จะกอดไว้แน่น ไม่ยอมให้นางไปเก็บเอามัดฟางเหล่านั้น
“ฝ่าบาท อย่าทำร้ายพระสนมอีกเลย”
ท่านหมอไป๋เยว่เทียน ส่งเสียงเตือนเบาๆรีบเก็บมัดฟางส่งให้สนมหนิงอัน นางรับมาไว้ในอ้อมแขนเห่กล่อม ด้วยบทเพลงโศกสลด ริมฝีปากเผยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่ยังสดใสเหมือนเมื่อครั้งแรกที่เฉินหยวนฮ่องเต้ได้พบนาง เขายังจำมันได้ดี
“ไม่เป็นไรแล้วลูกแม่ พวกเขาทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้หรอก…..เสด็จพ่อจะต้องปกป้องเรา”