หมั้นรัก บทที่ 4 : ยินดีต้อนรับ
เวลา 01.30 น. ณ บาร์โฮสของเฮเลน
เสียงเพลงดังสนั่นไปทั้งร้าน แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้การพูดระหว่างสามสาวลดลงได้เลย
“ไม่รู้อะฉันต้องได้กระเป๋า!” คิมเพื่อนสนิทของฉันกำลังแหกปากแข่งกับเสียงเพลง เธอกับเคททะเลาะกันเรื่องกระเป๋าคอลเลคชั่นใหม่ที่ออกมาแล้วหมดภายในห้านาที โดยที่ไม่มีเหลือให้สำหรับยัยคิมแม้แต่ใบเดียว
“ก็บอกว่ามันหมด!” เคทแหกปากแข่งกับเสียงเพลง ส่วนฉันนั่งมองทั้งคู่สลับกันไปมา
“สั่งทำพิเศษให้สำหรับฉันเดี๋ยวนี้!” คิมยังไม่ยอมแพ้ เมื่อเหล้าเข้าปากการเอาแต่ใจจึงเริ่มขึ้น
“ไม่ทำย่ะ!” เคทตะโกนใส่เพื่อนอีกครั้ง ก่อนจะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม
“แกเปลี่ยนไปเคท แกไม่รักฉันเหมือนเดิม!” คิมเบะปากและจ้องหน้าเคท
“ฉันไม่ได้เปลี่ยนไป แค่ฉันไม่มีหนังทำกระเป๋าให้แกแล้วยัยบ้า!”
“ฮึก!” เอาเข้าไปยัยสองคนนี้ อีกคนเมาก็ชอบมีอะไรแปลก ๆ ออกมา อีกคนเมาแล้วก็ชอบดุ ไม่ใจดีกับเพื่อน
“เออ ๆ หยุดร้องเดี๋ยวทำให้” เคทตัดบทด้วยความรำคาญ สุดท้ายยัยนี่ก็ยอมตามใจคิมอยู่ดีนั่นแหละ
“กรี๊ด! ทำไมเกิดมาแล้วสวย ใจดี รวยน้ำใจกับเพื่อนขนาดนี้เนี่ยฉันจะบวชให้แกหนึ่งพรรษา!” คิมโดดลงจากเก้าอี้บาร์ตัวสูง แล้วพุ่งตัวเข้าไปกอดเคทเอาไว้
“บวชคือไร” เคทหันมาถามด้วยสีหน้าสงสัย
“ไม่รู้อะ” ถามฉันแล้วฉันจะไปถามใคร
“เพื่อนน่ารัก รักเพื่อน~” คิมเริ่มซุกไซ้เคทเพราะความเมา ยัยนี่เอาร่างไหนออกมาอีกเนี่ย
“น่าเบื่อจัง” แม้ปากจะบ่น แต่มือก็ลูบหัวเพื่อนไม่ปล่อย
“ทำให้ไปเถอะ ยัยคิมเมาแล้ว”
“ยัยนี่เมาแล้วใครล่ะที่ต้องไปส่ง” เคทเริ่มทำหน้าเลิ่กลั่ก เพราะจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตัวเอง
“แกนั่นแหละ ฉันต้องอยู่จัดการบาร์ต่อ”
“นี่ ๆ” จู่ ๆ คิมก็ดึงเราทั้งคู่ล้อมวงเข้าหากัน
“อะไร” เคทถามด้วยความสงสัย อยู่ ๆ ก็เป็นอะไรขึ้นมาอีกเนี่ย
“มีผู้ชายมองมาทางพวกเราด้วย” คิมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“คนไหน” ฉันกำลังจะเงยหน้าขึ้นมองก็ถูกยัยคิมจับหัวไว้แล้วกดลงตามเดิม
“เดี๋ยวสิ มีหลายคนเลยนะ”
“เดี๋ยวให้เฮเลนจัดการ” ฉันพยักหน้าตามที่เคทพูด เพราะเราต่างรู้กันดีว่าคิมไม่สนใจผู้ชายคนไหนและไม่ชอบให้ผู้ชายเข้ามาวุ่นวายกับเธอ
“ปล่อยมือได้แล้ว เดี๋ยวฉันจัดการให้” พูดจบก็แกะมือเพื่อนออกจากหัวแล้วเงยหน้าขึ้นมองพร้อมกันกับที่ทั้งสองคนก็เงยหน้าขึ้นตามเช่นกัน ฉันเพ่งมองไปยังทิศทางที่คิมบอก สายตาจ้องมองผ่านความมืดและแสงสีภายในบาร์ กลุ่มชายชุดดำจำนวนหนึ่งเดินตรงเข้ามาทางเรา
“เคทพายัยคิมกลับบ้าน” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย สายตามองตรงไปยังกลุ่มผู้ชายที่ยืนเรียงกันอยู่ตรงหน้า
“ไหวเหรอเฮเลน~” เสียงพูดลิ้นพันกันขนาดนี้ ยังจะกล้ามาเป็นห่วงฉันอีก
“ฉันเข้าใจแกเฮเลน คิมเรากลับบ้านกันเถอะ” เคทที่พอจะมีสติหยิบกระเป๋าของตัวเองและคิมมาถือไว้พร้อมกับลากตัวเพื่อนขี้เมาให้เดินตาม
“ไม่~ ต้องอยู่ช่วยเฮเลน!” คิมยังคงพยายามยื้อตัวเองเอาไว้ จนเคทต้องออกแรงฉุดกระชากเธอให้เดินตามไปด้วยความยากลำบาก เมาหนักจนจำคนของฉันไม่ได้ ปล่อยไว้มีหวังสร้างเรื่องแน่ ฉันมองตามหลังเพื่อนที่เดินพ้นประตูออก แล้วจึงเดินนำหน้ากลุ่มลูกน้องตัวเองเดินไปยังห้องทำงานตัวเอง
“มีอะไร” ฉันทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตามองกลุ่มผู้ชายที่ยืนเรียงกันอยู่หน้าโต๊ะ
“ไฟลต์บินจากญี่ปุ่นมาอิตาลีที่ถูกจองในนาม ของมัสชิโม่รอบสองทุ่มผู้เดินทางในไฟลต์นั้นคือคุณมาร์ชินครับ”
“...พูดอีกที” ฉันหูฝาดไปหรือเปล่า
“ไม่ได้หูฝาดครับคุณมาร์ชิน มัสชิโม่กำลังเดินจากญี่ปุ่นมาอิตาลีในเที่ยวบินรอบสองทุ่ม คาดว่าจะถึงช่วงไม่เกิดเก้าโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ครับ”
“...” ฉันนั่งเงียบและทบทวนในสิ่งที่คนของตัวเองพูดอีกครั้ง
“แต่ไฟลต์บินรอบเที่ยงคืนตามเวลาประเทศญี่ปุ่นก็ถูกจองในนามของมัสชิโม่เช่นกันครับ” ฉันหันขวับกลับไปมอง
“ไฟลต์บินถูกจองสองรอบ” แม่ของเขากลับมาด้วยหรือเปล่า แล้วทำไมไม่กลับมาพร้อมกันล่ะ
“ใช่ครับ”
แต่...คนที่ปกปิดตัวเองได้นานถึงสิบปีอย่างเขา อยู่ ๆ ก็ปล่อยข้อมูลการเดินทางและเจาะจงเวลาให้ฉันรู้ได้อย่างชัดเจนเนี่ยนะ
“ส่งคนไปต้อนรับเขารอบเที่ยงคืน” คำสั่งของฉันทำเอาทุกคนหันมองหน้ากัน
“แต่คุณมาร์ชินมารอบไฟลต์บินสองทุ่มนะครับ”
“คนที่ปิดตัวเองได้นานตลอดสิบปีอย่างหมอนั่น ไม่มีทางปล่อยข่าวจริงออกมาหรอก” ฉันไม่หลงกลแน่
“แล้วรอบสองทุ่มล่ะครับให้ส่งคนไปไหม” ถ้าออกจากญี่ปุ่นสองทุ่ม ก็น่าจะถึงที่นี่ประมาณไม่เกิดเก้ามองสินะ
“ไม่ต้อง ๆ เอาแค่รอบเดียวพอ ว่าแต่พวกนายมีรูปเขาไหม”
“ก็มีแต่รูปตอนเด็กนะครับ รูปตอนก่อนเขาบินไปญี่ปุ่นที่คุณหนูมีไงครับ”
“ฉันเคยมีด้วยเหรอ” ไม่เห็นจะจำได้เลยว่าเคยเก็บอะไรแบบนั้นด้วย
“คิดไว้แล้วแหละครับว่าคุณหนูต้องทำหาย ผมเตรียมมาไว้ให้แล้ว”
ภาพถ่ายถูกวางลงบนโต๊ะ ภาพของผู้ชายคนหนึ่งในวัยที่กำลังย่างเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ผมสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาวซีด ดวงตาคมนิ่งสงบแต่ก็ดูมี ความน่ากลัวอยู่ภายใต้นัยน์ตานั่น สิบปีที่ผ่านมาจะเปลี่ยนมากแค่ไหนนะ อย่างน้อยก็คงส่วนสูงล่ะมั้ง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาเป็นผู้ชายที่ดูดีตั้งแต่เด็ก การหาตัวก็คงไม่ยากเกินไป ใบหน้าที่โดดเด่นนี่สะดุดตาฉันแน่
“ขอบใจ เอาตามที่ฉันสั่งก็แล้วกัน”
“ครับ” พวกเขารับคำสั่งของฉันแล้วเดินออกจากห้องทำงานไป มาแล้วสินะฉันต้องต้อนรับนายแบบไหนดีถึงจะทำให้ฉันรู้สึกพอใจ แต่คงจะไม่ยอมให้มันจบลงง่าย ๆ แน่ ฉันยังอยากสนุกกับนายอีกเยอะ มาร์ชิน
เวลา 08.45น. ณ สนามบินประเทศอิตาลี
ร่างสูงในชุดเสื้อฮูดตัวหนาสีดำ ใบหน้าหล่อถูกปกปิดด้วยแว่นสายตาทรงกลม เขาลากกระเป๋าออกจากทางประตู สายตาจ้องมองไปยังรอบตัว ทุกอย่างดูสงบนิ่ง ไม่มีกลุ่มคนมาดักรอต้อนรับนอกเหนือไปจากคนของเขาเอง สิ่งที่คาดการเอาไว้เป็นไปตามที่คิดสินะ ก็แค่ผู้หญิงซื่อบื้อคนหนึ่งที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษนักหนา นึกว่าจะมีอะไรน่าสนใจมากกว่านี้ เขาเดินตรงไปยังกลุ่มคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเขาเช่นกัน
แต่จู่ ๆ ก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นหอมชวนหลงใหลที่เดินผ่านตัวไป ผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งผ่านนำขึ้นหน้าไป ทำให้ต้องหยุดชะงักแล้วจ้องมองร่างบางตรงหน้า ดวงคมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ผมยาวสลวยสีดำพลิ้วไหวไปตามแรงหัน เธอยืนมองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะหันหลังกลับมาสบตา เธอขมวดคิ้ว จ้องมองหน้าเขา ก่อนจะยกภาพถ่ายในมือขึ้นชูในระดับสายตา เพื่อเทียบกับบุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ก่อนที่รูปภาพในมือจะถูกขย้ำกำไว้แน่น
“มาร์ชิน...” เสียงเล็กพึมพำ พร้อมกับรอยยิ้มของผู้ชนะปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“...” บุคคลที่ถูกไล่ตามจนโดนจับได้เอาแต่ยืนนิ่ง สายตาจ้องมองไปยังร่างบางตรงหน้า เธอมาคนเดียวไม่มีคนติดตาม แล้วก็เป็นฝ่ายเจอเขาก่อนด้วยและที่สำคัญ เธอสวยมากจริง ๆ เฮเลน
“มาร์ชิน...หรือเปล่า” เธอถามย้ำอีกครั้ง
“...ไง” แบบนี้ค่อยน่าเล่นสนุกด้วยหน่อย...เฮเลน