ตอนที่ 5 รักแรก
สิ่งที่หมอศุภกิตต์พูดออกมาดังพอที่คนในกาแฟนั้นจะได้ยินจนหมด และทุกสายตาก็กลับมาจดจ้องอยู่ที่อลิศแทนเมื่อถูกคุณหมอหนุ่มเนื้อหอมของโรงพยาบาลมาขอเป็นแฟนในร้านกาแฟของโรงพยาบาล
“เอ่อ….”
“พี่ว่าเราไปหาที่นั่งก่อนดีไหม”
“ค่ะ ดีค่ะ”
อลิศทำตัวไม่ถูกเธอทั้งดีใจ ทั้งอายและก็ตกใจเมื่อคนที่เป็นรักแรกของเธอมาเอ่ยปากขอคบกับเธอ ก่อนหน้านี้เธอแอบเอาขนม คุกกี้และของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปให้เขาตลอด เจอบ้างไม่เจอบ้างแล้วแต่โอกาส
มาจนถึงวันนี้ไม่นึกว่าเขาจะมองเห็นความพยายามของเธอจนได้ อลิศนั่งลงเพื่อสงบจิตใจแต่คุณหมอกลับเลือกจะมานั่งข้าง ๆ เธอ
“พี่สั่งให้แล้วนะ”
“ค่ะ”
“แล้วคำตอบล่ะ”
“คะ??”
“ที่พี่ถามไปเมื่อกี้นี้ไงลืมแล้วเหรอ”
“คุณหมอคะ…คือ…เมื่อกี้นี้พูด…จริงเหรอคะ”
“เอ๊าน้องอลิศครับมีใครจะพูดเล่นกันเรื่องนี้ล่ะ”
“ตะ…ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ที่…”
“หมายถึงพี่น่ะเหรอ พี่ชอบอลิศมานานแล้วตั้งแต่อลิศเรียนปีสองแต่ตอนนั้นพี่ต้องทำงานแล้วพึ่งเป็นหมอเต็มตัวช่วงนั้นก็เลยไม่มีเวลาน่ะ ว่ายังไง อลิศจะลองให้โอกาสพี่สักครั้งได้ไหมครับ”
“ให้โอกาสงั้นเหรอคะ อลิศ….ไม่คิดแบบนั้น คือว่าที่จริงแล้ว…”
“ครับ”
อลิศคิดไม่ถึงว่าจะมีวันนี้ วันที่เธอได้คบกับคนที่เธอชอบอย่างหมอกิต เธอเฝ้ามองเขาตั้งแต่วันแรกที่เขาแนะนำตัวเองในบ้านวันงานเลี้ยงวันเกิดคุณพ่อของเธอ นึกไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนเอ่ยปากเรื่องนี้เอง
“ค่ะ ตกลงค่ะ เรา…ลองคบกันก่อนก็ได้ค่ะ”
“เยี่ยมไปเลย งั้นวันนี้พี่ไปส่งอลิศนะ”
“คะ??”
“อลิศพักคอนโดไม่ใช่เหรอ พี่ถามรวิศมาก่อนแล้วเห็นบอกว่าแยกมาอยู่คนเดียวไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะวันนี้อลิศนัดนิวเอาไว้ว่าจะไปซื้อของด้วยกัน”
“งั้นเหรอ ไม่เป็นไรเอาไว้โอกาสหน้าก็แล้วกัน ว่าแต่วันเสาร์นี้ว่างไหมไปดูหนังกัน”
“ว่างค่ะ ว่าง….”
“งั้นวันเสาร์พี่ไปรับ”
“ค่ะ”
เรื่องที่เธอคบกับหมอกิตเป็นข่าวลือไปทั่วโรงพยาบาลจนเธอแทบจะนั่งไม่ติดเมื่อมีหลายคนที่พยายามมองเข้ามาที่เค้าน์เตอร์จัดยาที่เธอทำอยู่
“อลิศ เรื่องจริงเหรอที่แกกับหมอกิต…”
“ใช่ ๆ แต่เอาไว้คุยกันที่อื่นเถอะ วันนี้….”
“พวกเธอ ตามฉันมา”
นิศาเดินมาที่เธอสองคนอีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะมีเรื่องอะไรอีกเมื่อพวกเธอถูกเรียกไปแบบนี้ อลิศส่งยาถาดสุดท้ายให้เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์และเดินตามนิศาเข้าไป พี่หนิงรอพวกเธออยู่ในห้อง
“สวัสดีค่ะพี่หนิง”
“มาพอดีเลย เก็บของเถอะ พี่จะพาไปที่แผนกศัลยกรรม”
""อะไรนะคะ!!""
“ย้ายแผนกยังไงล่ะ โชคดีนะอยากก่อเรื่องดีนักนี่”
อลิศหันไปมองหน้านิศาที่เธอพึ่งจะมีเรื่องด้วยเมื่อวานนี้และยังเป็นเธอที่แจ้งเรื่องนี้ไปกับหมอภาส แต่นึกไม่ถึงว่านอกจากเขาจะไม่ทำอะไรญานิศาแล้วยังสั่งย้ายเธอกับนิวไปที่แผนกอื่นอีก
แต่ดูท่าทางของนิวจะดีใจมากกว่าที่จะอยู่ที่นี่ อลิศมองหน้าหนิงและรีบเก็บของโดยไม่ได้สอบถามอะไรเพิ่มเติม แต่ในใจนั้นทั้งโกรธและไม่พอใจคุณหมอหน้าโหดที่เธอคุยด้วยเมื่อวานนี้
“เป็นเขาใช่ไหมคะพี่หนิง”
“อะไรเหรอคะ”
“คนที่สั่งให้พวกเราย้ายแผนก”
“เฮ้อ…ใช่แล้วล่ะ”
“ทำไมคะ แทนที่จะ…”
“ฟังพี่ก่อนนะ เรื่องนี้หมอภาสมาปรึกษาพี่แล้วและคิดว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุด”
“เพราะอะไรคะ ทั้ง ๆ ที่คนที่กลั่นแกล้งคนอื่น ทำผิดซึ่ง ๆ หน้าคือ…”
“อลิศ!! พอเถอะ”
“นิวอย่าพึ่งพูด อลิศเกือบจะได้หลักฐานแล้วแต่ทางคุณหมอภาสกลับ….”
“รีบไปรายงานตัวเถอะ ถ้ามีคำถามก็ลองไปถามคุณหมอที่ดูแลต่อจากนี้เถอะนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่หนิง”
นิวดึงแขนเพื่อปรามอลิศเอาไว้เพราะพี่หนิงเองแม้จะเข้าใจว่าอลิศไม่พอใจแต่เธอเป็นเพียงแอตมินที่ทำหน้าที่ประสานงานและดูแลความเรียบร้อยรับคำสั่งจากที่ประชุมมาเท่านั้น
“ไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย”
“เอาเถอะฉันโอเคมากเลยที่ได้ย้ายแผนก”
“นิว แล้วแกแน่ใจได้เหรอว่าอยู่แผนกนี้แล้วแกจะไม่เจอคนอย่าง…ช่างเถอะเราก็แค่เด็กฝึกงานนี่นะ ฉันจะจำเอาไว้ว่าจะไม่มีทางใช้วิธีนี้แก้ปัญหาที่บริษัทเด็ดขาด”
“น้องคะ ที่นี่เราดำเนินการโดยอาศัยคนหมู่มากและมีกฎระเบียบ ถ้าน้องไม่พอใจทำไมไม่เลือกฝึกงานกับบริษัทที่บ้านแทนล่ะคะ พี่เองไม่เข้าใจว่าน้องต้องการจะให้ผู้ใหญ่จัดการอะไรแต่เท่าที่หาทางออกกันทางนี้ในเวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้วหากว่าน้องไม่พอใจ เชิญค่ะ เข้าไปคุยเองเลย”
พี่หนิงหันมามองหน้าอลิศที่ยังคงดื้ออยู่เพราะเธอเป็นลูกคนเล็กและไม่ชอบการเอารัดเอาเปรียบแบบนี้ที่สุด เธอไม่ได้ทำผิดอะไรแต่ทำไมต้องถูกย้ายแผนกแต่คนที่ทำผิดกลับลอยหน้าอยู่ที่เดิม
“พี่จะเตือนอะไรให้นะ เรื่องบางเรื่องแม้ว่าเราไม่ได้เห็นแต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่จะไม่รู้และไม่จัดการ แต่เขามีวิธีการจัดการที่เด็ดขาดมากกว่าจะฟังความอย่างเดียว”
อลิศเริ่มคิดได้จากที่พี่หนิงพูดขึ้นมานี่เองเพราะสายตาของหนิงอลิศเป็นคนที่มีความสามารถเพียงแต่เธอดื้อรั้นและหัวแข็งไปหน่อยเท่านั้นเอง การไปชนตรง ๆ กับญานิศาถือว่าเธอเสียเปรียบ เธอเข้าใจเหตุผลของหมอภาสที่สั่งย้ายเด็กฝึกงานในครั้งนี้ดี อลิศยกมือขึ้นไหว้หนิงอีกครั้ง
“หนูขอโทษค่ะพี่หนิง หนูใจร้อนเกินไปหน่อย”
หนิงยิ้มและตบไหล่ของอลิศเบา ๆ ด้วยความเข้าใจ
“ไม่เป็นไร พี่เข้าใจอลิศนะเพราะพี่รู้และพี่ก็เสียดายความสามารถของเด็กฝึกงานชุดนี้ ดีแล้วที่ย้ายแผนกมาที่นี่ ไม่ต้องไปทนกับเรื่องงี่เง่าที่นั่นหรอก คนเก่งอยู่ที่ไหนก็ฉายแววได้เสมอ สู้ ๆ นะ”
“ขอบคุณค่ะพี่หนิง”
“รีบไปรายงานตัวเถอะ”
พวกเธอเดินเข้าไปในห้องเพื่อรายงานตัวกับคุณหมอในแผนก พี่หนิงเป็นคนแนะนำพวกเธอ มีเพียงคนเดียวที่ไม่อยู่ในห้องนี้คือคุณหมอภาสเพราะเขามีผ่าตัดใหญ่ตั้งแต่เช้า
“ฝากตัวด้วยนะคะ”
“เอาล่ะอลิศ นี่เป็นหน้าที่คร่าว ๆ ที่ทางคุณหมอลิสต์ออกมา ลองดูหน่อยนะติดขัดยังไงบอกพวกพี่ได้เลย”
“ไปรับยาและส่งรายงาน ตรวจยาที่รับมาจากห้องยาเพื่อส่งให้แพทย์”
นับว่าการย้ายแผนกครั้งนี้เธอได้ทำหน้าที่ที่ดีกว่าการจัดยาเพราะพวกเธอมีโอกาสที่จะได้เรียนรู้สรรพคุณและคุณสมบัติบางตัวของยาบางประเภทผ่านจากคุณหมอผู้ชำนาญการ
และทุกครั้งคุณหมอที่สั่งให้พวกเธอเช็กรายงานก็จะถามเธอเกี่ยวกับยาที่ต้องไปเอาก่อนทุกครั้งซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างดีกว่าการนั่งอยู่เฉย ๆ ที่ห้องยามากนัก และที่สำคัญคือไม่ต้องเจอคนอย่างญานิศาอีก
“เฮ้อ…วันนี้เหนื่อยจริง ๆ”
“เหนื่อยแต่ทำไมถึงยิ้มล่ะ คิดถึงหมอกิตอีกแล้วเหรอ”
“บ้าเหรอไม่ใช่ เหนื่อยแต่ก็สนุกมากเลยได้ความรู้ใหม่ ๆ อีกเยอะเลย”
“นั่นสิ นึกไม่ถึงว่าสิ่งที่เรียนในแล็บกับสถานการณ์จริงจะแตกต่างกันขนาดนี้ สนุกกว่า….”
นิวส่งสายตาให้อลิศมองสาวสวยที่เดินมาที่เค้าน์เตอร์พยาบาลและถามหาหมอภาส ซึ่งเขายังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัดเลยตั้งแต่เช้า
“เธอก็มาที่นี่ทุกวันนั่นแหละ”
“จริงเหรอ มาทำไม”
คำตอบไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเมื่อนิศาเดินกลับออกไปแล้วเพราะพี่ ๆ พยาบาลที่แผนกยืนคุยกันจนพวกเธอได้ยิน
“เธอไม่รู้เหรอว่าหมอภาสดุขนาดไหน ทำแบบนี้บ่อย ๆ มีหวังโดนคุณหมอภาสทิ้งเข้าสักวัน”