บท
ตั้งค่า

12 ผมอยากช่วย

พัณณ์ชิตาแนะนำนิโคไลให้กับเพื่อนๆ จนครบทุกคนจากนั้นก็เริ่มทานอาหารจนกระทั่งทุกคนทานอิ่ม ความโกลาหลก็เกิดขึ้น เพราะแต่ละคนดูเหมือนจะไม่ได้เจอกันนานมาก ต่างฝ่ายต่างเล่าเรื่องราวที่ตัวเองเจอมาให้เพื่อนๆ ฟัง จนแยกแทบไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร

เขาไม่เคยเห็นพัณณ์ชิตาในมุมนี้มาก่อนเลย วันนี้เธอดูร่าเริงสดใสและช่างคุยเรียกเสียงหัวเราะจากเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างดี คุยไปสักพักเธอก็หันมาถามว่าเขาเบื่อไหม พอนิโคไลส่ายหน้าหญิงสาวก็หันไปคุยกับเพื่อนต่อ

นิโคไลฟังที่พวกเธอคุยกันรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่ออะไร ในทางกลับกันเข้ากลับรู้สึกเพลินด้วยซ้ำ

“พั้นช์ ผมขอไปเข้าห้องน้ำนะ”

“ค่ะ ถ้าเบื่อจะรอข้างนอกก็ได้นะคะ”

“ไม่เป็นไรผมว่าพวกคุณคุยสนุกดี”

พอบอกหญิงสาวเสร็จเขาก็เดินมาเข้าห้องน้ำและบังเอิญเจอกับคุณหมอคนหนึ่งที่กำลังเดินออกมาพอดี

“คุณหมอครับ พอจะมีเวลาคุยกับผมนิดไหมครับ”

“มีสิครับ ว่าแต่คุณจะไม่เข้าห้องน้ำก่อนเหรอ”

“ไม่เป็นไรครับผมมีเรื่องจะถามคุณหมอนิดหน่อย”

“ไปคุยกันตรงนั้นไหม” คุณหมอชี้ไปทางด้านหน้าร้านที่มีเก้าอี้หินอ่อนตั้งอยู่

“ครับ” นิโคไลเดินตามมาจากนั้นทั้งสองก็นั่งลงบนเก้าอี้คนละตัวที่อยู่ติๆ กัน

“คุณจะถามผมเรื่องอะไรครับ เรื่องพั้นช์หรือเปล่า” เขาคิดออกแค่เรื่องเดียวเพราะเขากับชายคนนี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ความเชื่อมโยงเดียวที่พวกเขามีก็คือพัณณ์ชิตา

“ไม่ใช่หรอกครับ” นิโคไลปฏิเสธ

“งั้นเรื่องอะไรครับ”

“ผมได้ยินคุณคุยกับเพื่อนๆ ว่าที่โรงพยาบาลกำลังอยากได้เครื่องมืออะไรสักอย่างที่ใช้ประเมินสภาวะเด็กที่อยู่ในท้อง”

“อ๋อ เครื่องตรวจ NST ครับ”

“แล้วไอ้เครื่องที่ว่านี่มันแพงไหมครับ คุณต้องใช้กี่เครื่อง”

“ราคาก็แพงพอสมควรครับ ที่โรงพยาบาลของเรามีแค่เครื่องเดียว แต่พอคนไข้มาพร้อมกันสองคนมันก็ลำบากใจที่จะต้องถอดให้กับอีกคนใช้สลับกัน ผลก็เลยขอให้เพื่อนๆ ช่วยจัดหาเครื่องมือสองตามโรงพยาบาลเอกชนให้ครับ”

“ผมอยากช่วยสนับสนุนตรงนี้ คุณคงไม่คิดว่าผมดูถูกใช่ไหม” เขากลัวว่าคุณหมอหนุ่มจะมองเจตนาของตนเองผิด

“ไม่หรอกครับ มีหลายคนที่ร่วมบริจาค อย่างเพื่อนๆ ที่นัดกันมาวันนี้ก็กำลังคิดว่าจะระดมทุนกันยังไง”

“คุณรอผมสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมขอไปหยิบเช็คในรถก่อน” นิโคไลพูดจบก็เดินตรงไปยังรถของตนเอง

เขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับส่งเช็คเงินสดจำนวนห้าล้านบาทให้กับคุณหมอหนุ่ม

“คุณครับ ผมลืมบอกคุณไปว่าราคาเครื่องอยู่ที่ประมาณ สามแสนกว่าๆ เองนะครับ นี่มันเยอะเกินไปแล้ว”

“ที่เหลือคุณก็เอาไปซื้อของที่จำเป็น”

“ขอบคุณนะครับ แต่ผมถามหน่อยได้ไหมทำไมคุณถึงอยากช่วย”

“ผมเคยเสียลูกไปเพราะเด็กคลอดก่อนกำหนด พอผมได้ยินเรื่องไรที่เกี่ยวกับเด็กผมก็เลยนึกถึงเขาครับ บางทีการทำแบบนี้ก็อาจจส่งบุญให้เขาได้ครับ”

“ผมเสียใจด้วยนะครับ และก็เข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียดี”

“ครับ ผมเลยไม่อยากให้ใครต้องรู้สึกเหมือนผม เรื่องที่ผมบริจาคเงินคุณไม่ต้องบอกใครนะครับ บอกแค่ชายนิรนามก็ได้ครับ” เขาไม่ใช่พวกทำบุญเอาหน้าจึงไม่อยากให้ใครรู้

“แม้แต่พั้นช์คุณก็ไม่บอกเหรอครับ”

“ไม่จำเป็นหรอกครับ”

“ถ้าคุณกำลังจีบเธอ ผมว่าเรื่องนี้จะทำให้คุณได้คะแนนเพิ่มอีกมากเลยนะครับ” คุณหมอหนุ่มดูออกว่าชายคนนี้กำลังอยากพัฒนาความสัมพันธ์กับเพื่อนของตน

“ผมไม่อยากเอาเรื่องนี้มาทำให้เธออึดอัดครับ”

“คุณไม่ปฏิเสธว่ากำลังจีบเธอ”

“ครับ คุณคิดว่าไงล่ะ”

“เพื่อนผมเป็นคนจริงจังกับงานครับ เรื่องงานต้องมาก่อน ถ้าคุณนัดทานข้าวกับเธอแล้วมีเคสด่วนเข้ามาเธอก็จะทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหาร ถ้าคุณรับตรงนี้ได้ก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าคิดว่าจะเข้ามาเปลี่ยนเธอให้เป็นแบบที่คุณพอใจก็เลิกคิดที่จะจีบครับ”

“ผมเข้าใจงานของเธอดี ผมถามหน่อยได้ไหม ถ้าคุณไม่อยากตอบผมก็ไม่ว่าอะไรครับ”

“ลองถามมาสิครับ”

“พั้นช์เคยมีแฟนไหมครับ

“สวยอย่างยายพั้นช์นะมีแฟนมาแล้ว แต่ก็ต้องเลิกเพราะความบ้างานของเธอนั่นแหละครับ อาชีพอย่างพวกเราหาคนเข้าใจยากครับ ส่วนใหญ่ก็เลยมีแฟนเป็นหมอเหมือนกันหรือไม่ก็พยาบาลเพราะมีความเข้าใจเรื่องงานของกันและกันดี แต่บางคนก็เลือกที่จะเป็นโสดเพราะไม่อยากปวดหัวกับเรื่องความรักครับ”

“ผมว่าเป็นอาชีพที่เสียสละมากเลยครับ”

“ก็ประมาณหนึ่งครับ ผมเห็นการทำงานของพั้นช์มาเกือบเดือน เธอไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวเลย”

“แล้วคุณจะรับได้ไหมล่ะครับ”

“ผมคิดว่าได้นะครับ”

“ถ้าคุณมั่นใจผมก็ขอเอาใช่ช่วยคุณนะ หวังว่าพวกเราจะได้ยินข่าวดีจากคุณทั้งสอง”

“ขอบคุณนะครับ ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”

“ครับ ขอบคุณมากนะครับคุณนิโคไล”

“ยินดีครับ ถ้าคุณมีอะไรให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลยนะครับ” นิโคไลส่งนามบัตรให้คุณหมอหนุ่มก่อนที่ตัวเองจะลุกไปเข้าห้องน้ำ

ชายหนุ่มเดินมาที่หน้าห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงคนคุยกันมาจากด้านใน เขาไม่ได้สนใจฟังเท่าไหร่จนกระทั่งได้ยินชายคนหนึ่งเอ่ยชื่อของพัณณ์ชิตาขึ้นมา

“ตงลงจะเอาแน่เหรอไอ้หมอ มึงจะจีบพั้นช์ทั้งๆ ที่ยังไม่หย่ากับเมียเนี่ยนะ”

“ก็จีบไว้ก่อนไง พั้นช์อยู่กรุงเทพ เมียกูอยู่สระบุรี ยังไงก็คงไม่ได้เจอกันหรอก”

“แล้วถ้าเมียมึงไม่ยอมหย่าล่ะ”

“ไม่หย่าก็คบสองคนเลยไง พั้นช์น่ะ เอาแต่ทำงานไม่มีเวลามาสนใจเรื่องส่วนตัวของใครหรอก”

“ถ้าตอนนั้นมึงกับพั้นช์ไม่เลิกกันกูว่าป่านนี้คงมีลูกไปนานแล้ว”

“ตอนนั้นกูโง่ไง พอเจอคนที่เอาใจหน่อยกูก็เลยเอนเอียง แต่ใครจะคิดว่าก่อนแต่งกับหลังแต่งจะคนละเรื่องกันว่ะ ก่อนแต่งเอาใจกูสารพัด หลังแต่งแม่งโคตรเอาแต่ใจ”

“แล้วมึงคิดว่าพั้นช์จะยอมกลับมาคบกับมึงเหรอว่ะ”

“กูว่าเขายังรอกูว่ะ ถ้างั้นคงมีคนอื่นไปแล้ว”

“แต่วันนี้เขาก็พาผู้ชายมาด้วยนะ แฟนใหม่หรือเปล่า”

“กูว่าไม่น่าจะใช่นะ พั้นช์เคยพูดไว้ว่าถ้าจะมีแฟนก็อยากมีอาชีพเดียวกันเพราะคุยกันรู้เรื่อง”

“เวลาผ่านไปเธอก็อาจจะเปลี่ยนใจแล้วก็ได้”

“แต่กูว่ายังไงกูก็มีภาษีดีกว่าไอ้หน้าหล่อนั้น อย่าลืมนะกูกับพั้นช์คบกันตั้งแต่เรียน ไม่มีใครรู้ใจพั้นช์เท่ากูหรอก”

“กูหวังว่ามึงจะไม่หน้าแตกนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel