บทที่ ๔ แลกเปลี่ยน
เวลา 19.30 น.
ทุกอย่างเรียบร้อย สัญญากู้ยืม แม่กับพ่อนวิยาก็ได้เงินไปใช้หนี้เจ้าหนี้แล้ว และต่อไปก็เป็นขบวนการใช้หนี้ของนวิยาแล้ว
“ไปกินข้าวกันเถอะ”
ทัชชกรเอ่ยชวนคนตัวเล็กไปทานมื้อเย็นด้วยกันนอกบ้าน
“หมอหมาไปกินเถอะค่ะ นิ่มจะทำกับข้าวกินเองที่ห้อง”
“งั้นก็ทำเผื่อฉันด้วย ขออาบน้ำก่อนนะ เมื่อย”
แล้วเขาก็ลุกเดินไปยังห้องน้ำของเธอทำราวกับว่านี่เป็นห้องของตัวเอง
นวิยาก็ได้แต่มึนงงกับสถานการณ์ตอนนี้ ปกติทำงานกับเขา เขาสุภาพสุขุม เป็นผู้ชายอบอุ่น แต่พอได้เห็นอีกด้านที่เคยได้ยินของนายแพทย์หนุ่มก็ไม่อยากจะเชื่อและก็ตั้งรับปรับตัวไม่ทันกับทัชชกรในโหมดนี้
เวลาเดียวกัน ทางบ้านหลังใหญ่ของทัชชกร แม่ที่เคารพรักของเขากำลังนั่งคุยกับแม่บ้านคนสนิทของตนเอง วันนี้ลูกชายบอกว่าไม่กลับบ้าน ก็เป็นเหมือนทุกครั้ง วันไหนลูกหยุด ลูกชายจะไปกกอีหนูนอกบ้าน ไม่รู้จะทำตัวแบบนี้นานแค่ไหน อีกสองเดือน ศลิษาคู่หมั้นก็จะกลับมาจากเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพื่อจะพูดคุยเรื่องงานแต่งงานกันของทั้งสอง
“พี่วัน ฉันล่ะเหนื่อยจริงๆ พูดกรอกหูทุกวัน แต่ลูกชายฉันก็ไม่ยอมปรับตัวสักที ดูสิ วันหยุดทีไรไม่กลับบ้านทุกที” นางบ่นให้แม่บ้านคนสนิทที่อายุเยอะกว่าตนฟัง
“คุณหญิง เดี๋ยวถึงเวลาหมอหมาก็เบื่อหน่ายไปเองค่ะ คุณษาสวยขนาดนั้นต้องเอาหมอหมาอยู่แน่นอนค่ะ”
“แล้วผู้หญิงที่มันไปนอนกกไม่สวยรึไงพี่วัน แต่ละคนก็เห็นสวยๆ กันทั้งนั้น”
“ทองแท้อย่างคุณษา ยังไงก็ชนะผู้หญิงพวกนั้นค่ะ อย่าเก็บมาคิดให้กลุ้มใจเลยค่ะคุณหญิง”
“ไม่ให้ฉันกลุ้มใจได้ไงพี่วัน ลูกชายตัวดีของฉันทำตัวแบบนี้ หมอผู้ใจดีงั้นเหรอ ใส่หน้ากากสิไม่ว่า” คุณหญิงทองเปลวเอ่ยถึงลูกชายคนเดียวของตนเองด้วยความกลัดกลุ้มใจ ใครก็ต่างชื่นชมว่าลูกชายนางดีเลิศแบบนั้นแบบนี้ แต่คนเป็นแม่อย่างนางรู้ดีว่าทุกอย่างคือหน้ากากที่ลูกสวมใส่เข้าหาผู้คนเท่านั้น
“อย่างน้อยออกไปข้างนอก คนก็พูดถึงแต่เรื่องดีๆ นะคุณหญิง”
“แต่ฉันรู้ไงพี่วันว่าไอ้หมอหมาของฉันน่ะมันดีแต่เปลือก มันน่ะหน้าเลือดตัวพ่อเชียวล่ะ ก็ดูแต่มันจำกัดเงินรายเดือนของฉันสิพี่วัน ดูลูกชายฉัน พ่อคนหน้าเลือด กระทั่งกับแม่ก็ควบคุมรายจ่าย ทั้งๆ ที่ทรัพย์สมบัติทุกอย่างของมันคือฉันกับพ่อมันสร้างมาให้มันแท้ๆ”
“คุณหญิงก็ชอบไม่ใช่เหรอจ๊ะ”
“ก็...” นางเม้มปากแน่นเมื่อแม่บ้านพูดถูก นางชอบให้ลูกชายเผด็จการด้วยและควบคุมตัวเองแบบนี้ มันทำให้รู้สึกว่าสามียังอยู่กับนาง ทัชชกรถอดแบบนิสัยมาแบบผู้เป็นพ่อทุกกระเบียดนิ้ว ชอบบงการชีวิตคนอื่นก็ที่หนึ่ง
“เห็นไหม เนี่ยยาความดันนะคะ กินแล้วนอนกันค่ะ วันนี้ไม่มีละครสนุกให้ดู” วันเอ่ยบอกคุณหญิงของตนพร้อมส่งยื่นถ้วยยาที่เตรียมไว้ให้
“พี่วันก็กินยาไขมันตัวเองรึยังถึงได้มาเตรียมให้ฉัน”
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหญิง นังวิเตรียมให้ฉันแล้วจ้ะ”
คุณหญิงทองเปลวทานยาความดันก่อนนอนตัวเองแล้วก็ลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อจะไปพักผ่อน ส่วนแม่บ้านคนสนิทเองก็ลุกเดินตามขึ้นไปส่งบนชั้นสอง
เวลา 20.00 น.
มื้อเย็นเรียบง่ายเสร็จแล้ว นวิยาทำผัดมาม่าใส่ไข่และอกไก่ที่มีในตู้เย็น พอทำเสร็จคนตัวโตก็อาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำ เธอเห็นเขานุ่งพันผ้าเช็ดตัวของตัวเองออกมาจากห้องน้ำก็ต้องรีบหันหน้ามองไปทางอื่น เมื่อเขามีแค่ผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวสอบเท่านั้น ส่วนท่อนบนเปลือยเปล่าอวดกล้ามเนื้อแข็งแรงและผิวขาวๆ ของเขา
“หอมจัง ทำอะไรกินเหรอ” ทัชชกรเดินเข้ามาถามพร้อมมองดูผัดมาม่าสองจานบนโต๊ะเล็กๆ ที่อยู่ในครัว มีไว้สำหรับนั่งทานข้าวของเจ้าของห้อง
“ทำไมหมอหมาไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยคะ และทำไมใช้ผ้าเช็ดตัวของนิ่ม”
เธอถามเขาโดยไม่หันมามองเขาที่ยืนอยู่ตรงข้ามอีกฝั่งของตน
“ก็หมอไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยน อีกอย่างผ้าเช็ดตัวของนิ่มไม่ใช่เหรอ หมอไม่รังเกียจ ยืมหน่อยนะ” แล้วเขาก็ดึงลากเก้าอี้ออกนั่งลงแล้วดึงจานผัดมาม่าตรงหน้ามาทาน
“อ่า...อร่อย หมอไม่เคยกินผัดมาม่าแบบนี้มาก่อน นิ่มทำอร่อย”
เสียงดูดเส้นและคำชมของเขาทำให้เธอหันกลับมามองเขาที่ก้มหน้าทานผัดมาม่าฝีมือตนเอง เธอก็กลืนน้ำลายลงคอแล้วท้องน้อยก็ร้อง
โครก!
“นั่งสิ หิวก็ต้องกิน จะมายืนทำไม แล้วกินอิ่มจะได้อาบน้ำทำงาน” ทัชชกรได้ยินเสียงท้องสาวเจ้าร้องก็สั่ง
“แต่นิ่มยังไม่พร้อมทำงานวันนี้”
“เดี๋ยวหมอทำให้พร้อมเองน่า กินเถอะ เนี่ยก็สองทุ่มแล้ว ถ้าทำช้าได้นอนดึก พรุ่งนี้ไปทำงานไม่ไหวเอานะนิ่ม”
ตอนนี้เขาต่างจากเมื่อตอนกลางวันมาก ต่างจากสองปีที่รู้จักมา ทำงานกับเขามาตลอด แต่ไม่เคยเห็นมุมนี้ จากเป็นผู้ช่วยในห้องตรวจมาตลอดสองปี เมื่อเช้ายังเป็นแค่พยาบาลกับหมอ แต่ตอนนี้กำลังจะเป็นเจ้าหนี้กับลูกหนี้และเธอก็จะเป็นนางบำเรอของเขาด้วย มันเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอคิดประมวลไม่ทัน
“กินสิ อร่อยมาก วันหลังทำให้หมออีกนะ หมอว่าหมอชอบผัดมาม่าแล้วสิ” เขาเงยหน้าจากจานผัดมาม่ามาบอกคนตัวเล็กที่เอาแต่ยืนนิ่งไม่ยอมนั่งลงทานสักที
“คะ...ค่ะ” แล้วเธอก็ดึงลากเก้าอี้ออกทานมื้อเย็น