บท
ตั้งค่า

บทที่ ๑ ให้อภัยสักครั้ง

ถ้าพานวิยาไปคอนโดเธอ เธอคงให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไล่ออกมาแน่ เขาจึงเลือกมาคอนโดของตัวเอง แม้จะไกลจากโรงพยาบาลสามไฟแดงก็ตาม พอมาถึงเขาก็อุ้มคนตัวเล็กแต่ทว่าอวบอิ่มขึ้นกว่าเดิม เพราะตอนนี้นวิยาไม่ได้ตัวคนเดียว แต่มีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาอาศัยอยู่ในตัวด้วย

พออุ้มขึ้นมาบนห้องหรูของตนเอง เขาก็วางนวิยาลงบนโซฟาด้วยความระมัดระวัง แล้วตัวเองก็นั่งลงข้างหญิงสาวเบียดบนโซฟาตัวเดียวกันกอดรั้งเธอไว้ไม่ให้ลุกหนีหรือขยับเปลี่ยนไปนั่งโซฟาอีกตัว

“ปล่อยนิ่มเดี๋ยวนี้หมอหมา”

“ไม่ปล่อย เราต้องคุยกัน หมอบอกนิ่มแล้วไง”

“คุยได้ค่ะ แต่ปล่อยนิ่มก่อน หมอหมาไม่มีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัวนิ่ม”

“แล้วต้องทำยังไงถึงจะมีสิทธิ์แตะเนื้อต้องตัวเมียตัวเองล่ะฮึ”

“หมอหมาเลิกพูดคำว่า ‘เมีย’ สักทีเถอะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน หรือว่าเพราะเจ้าสาวหนีไปเลยคิดจะกลับมาหานิ่มคะ ขอโทษนะคะ นิ่มไม่ใช่ของเล่นของตายของหมอที่นึกจะกลับมาหาตอนไหนก็ได้ค่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันตั้งแต่แรกและตอนนี้ก็เหมือนกันค่ะ” เธอพูดพร้อมดันหน้าของเขาที่ซุกกับซอกคอระหงของตนเองออกห่าง

“นิ่มก็ไม่ใช่ของเล่นของตายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว นิ่มเป็น ‘เมีย’ หมอ และตอนนี้ก็ยังเป็นเมียหมออยู่ แถมยังอุ้มท้องลูกหมอด้วย”

“หมอหมาพูดไม่เข้าใจรึไงคะว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ปล่อยนิ่มได้แล้วค่ะ และอย่าเอาหน้ามาใกล้ได้ไหม เกลียดค่ะ!” นวิยาตอบกลับด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองน้อยใจอยู่ในอก ด้วยคิดว่าเขานั้นเห็นตนเองเป็นเพียงของเล่นที่คิดอยากมาหาก็มา ฝันไปเถอะ! เธอไม่ใช่นวิยาคนอ่อนแอที่เชื่อฟังเขาทุกอย่างและมองเขาเป็นคนแสนดีแล้ว เพราะได้รู้จักเนื้อแท้ของทัชชกรแล้วว่าเป็นคนเช่นไร

นายแพทย์หนุ่มตีมึน ไม่สนใจคำว่า ‘เกลียด’ ของนวิยา แม้จะเจ็บแปลบในอก แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น ถ้ายอมก็แสดงว่าเขาต้องยอมตลอด ตอนนี้เขาต้องการทำทุกอย่างเพื่อให้พยาบาลสาวกลับสู่อ้อมกอดตัวเอง

“ให้อภัยฉันสักครั้งไม่ได้เหรอนิ่ม เพื่อลูกของเรา” เขายังคงกอดเธอแน่นไม่ยอมปล่อย

“ให้อภัยเหรอคะ? หมอหมาทำอะไรผิดคะ นิ่มถึงต้องให้อภัย หมอให้นิ่มยืมเงิน นิ่มก็นอนกับหมอขัดดอกแล้วนี่คะ มีอะไรที่หมอทำผิดคะ”

“หมอ...” เขาตอบไม่ได้ เพราะที่เธอพูดมานั้นคือความผิดของเขาทั้งหมด

“ตรงไหนที่หมอหมาผิดคะ บอกนิ่มมาสิคะ นิ่มจะได้ให้อภัยถูก”

“ที่นิ่มพูดมาคือความผิดหมอทั้งหมด หมอผิดที่ฉวยโอกาสยามนิ่มเดือดร้อนเอาเปรียบนิ่ม”

“เหรอคะ รู้แล้วทำไมถึงทำ”

“ก็หมออยาก ‘ได้’ นิ่ม ถ้าไม่ทำแบบนั้น นิ่มจะเป็นของหมอเหรอ”

ก็จริงที่ทัชชกรพูด หากไม่ทำแบบนี้ เธอกับเขาคงไม่มีทางได้แนบชิดกัน และเธอคงได้แต่แอบมองเขาห่างๆ ไม่มีโอกาสได้รู้จักทัชชกรแบบลึกซึ้งจน ‘ท้อง’ ลูกของเขาแน่นอน

“เลว! เห็นแก่ตัว ปล่อยนิ่มได้แล้วค่ะ นิ่มจะกลับ อีกอย่างเรื่องนี้เราจะไม่พูดกันอีกแล้วนะคะ ถ้าอยากรับผิดชอบลูกก็คุยกันเฉพาะเรื่องลูกค่ะ ไม่ต้องมาทำแบบนี้ ไม่ต้องมายัดเยียดตัวเองให้นิ่ม นิ่มไม่ต้องการหมอหมาค่ะ”

เขายอมให้เธอด่าว่า ‘เลว’ โดยไม่โต้เถียง

“ปล่อยได้แล้วค่ะ” แล้วนวิยาก็แกะมือของเขาออกจากเอวของตนเอง

“หมอไปส่งนิ่มนะ นิ่มไม่ได้เอากระเป๋ามาด้วย”

“ให้ค่ารถนิ่มก็พอค่ะ นิ่มเรียกรถกลับเอง และคืนกุญแจมอเตอร์ไซค์นิ่มมาด้วยค่ะ พรุ่งนี้นิ่มจะไปฝากท้อง นิ่มเขียนชื่อหมอหมาเป็นพ่อของลูกได้ใช่ไหมคะ”

“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ นั่นลูกของหมอเหมือนกัน”

“ค่ะ ระหว่างเราหวังว่าหมอหมาจะเข้าใจนะคะว่าเราจะคุยกันเฉพาะเรื่อง ‘ลูก’ เท่านั้น ส่วนเรื่องส่วนตัว เราจะไม่ยุ่งเรื่องของกันและกัน หมอหมาอยากไปมีใครก็เชิญ ถึงไม่ได้แต่งงานกับหมอษาแล้วจะไปมีคนอื่นอีก นิ่มก็ไม่แคร์ ไม่สนใจค่ะ”

“แต่หมอแคร์และสนใจถ้านิ่มจะไปมีคนใหม่ นิ่มเป็นของหมอ” คนขี้หวงเอ่ยตอบกลับ

“เอ๊ะ! ไม่เข้าใจที่นิ่มพูดเหรอคะหมอหมาว่าเราไม่เกี่ยวข้องกัน เราจะคุยกันแต่เรื่องลูก”

อือ!

เขาครางรับแบบขอไปที จะใช้เรื่องลูกเพื่อเข้าหาเธอและไม่มีทางที่นวิยาจะใจแข็งไปได้นาน เพราะสองปีที่ทำงานด้วยกัน เขารู้จักหญิงสาวดี

“นิ่มจะกลับค่ะ” แล้วเธอก็ลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยวลงไปส่ง หมวกกันน็อกนิ่มอยู่ในรถหมอ”

“ไม่เป็นไรค่ะ พรุ่งนี้ค่อยเอาให้ก็ได้ แต่ตอนนี้ขอกุญแจมอเตอร์ไซค์ให้นิ่มก่อน ขอค่ารถด้วยค่ะ”

“หมอไม่มีเงินสดติดตัว หมอมี...”

“งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ นิ่มจะให้รถไปส่งที่โรงพยาบาลเอามอเตอร์ไซค์แล้วเอาเงินให้เขาเองค่ะ”

“ไม่ๆ หมอมี เดี๋ยวเอาให้” แล้วเขาก็ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดหยิบแบงก์สีเทาให้เธอหนึ่งใบ

“เดี๋ยวพรุ่งนี้นิ่มคืนให้นะ”

“ไม่ต้องคืนหรอก เงินหมอก็เหมือนเงินนิ่ม”

“จะเหมือนได้ยังไงคะ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ขอตัวนะคะ” แล้วเธอก็หยิบรับเงินและกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ตนเองที่เขาส่งให้เดินออกไป

ทัชชกรมองดูคนที่เดินออกไปจากห้องและมองประตูห้องของตนเองปิดสนิทแล้วก็เอนตัวพิงพนักโซฟา

“หมอไม่เชื่อหรอกว่านิ่มจะใจแข็งกับหมอจนให้อภัยหมอไม่ได้ นิ่ม” เขาพึมพำกับตนเองแล้วยกมือขึ้นนวดคลึงขมับให้ผ่อนคลาย ปกตินวิยาจะไม่ตอบโต้ ไม่เถียงและไม่โต้แย้ง แต่นวิยาคนนี้ทำให้เขาตื่นเต้นและสนุกที่ได้ต่อปากต่อคำกับพยาบาลสาวและมันก็จั๊กจี้ใจเหลือเกิน จากเมื่อก่อนจั๊กจี้อยู่แล้ว พอเธอดื้อพยศ เขาก็ยิ่งใจสั่นแรง

ณ โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เป็นโรงพยาบาลของตระกูลดังอย่างเจ้าสัวสุนทร แต่ตอนนี้เจ้าสัวสุนทรได้จากไปแล้ว โรงพยาบาลจึงตกอยู่ในมือของนายแพทย์หนุ่มทัชชกร ทายาทคนเดียวของเจ้าสัวสุนทรกับคุณหญิงทองเปลว

ศัลยแพทย์หัวใจและหลอดเลือด ทัชชกร ใจประเสริฐมากทรัพย์ หรือหมอหมา วัย 36 ปี ทายาทคนเดียวของโรงพยาบาล เป็นหัวหน้าแผนกพ่วงตำแหน่งผู้บริหารของโรงพยาบาลอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อพ่อจากไป เขาจึงได้นั่งแทนตำแหน่งท่านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนผู้เป็นแม่นั่งดำรงตำแหน่งรองประธานของโรงพยาบาลต่อจากเขาที่เป็นท่านประธานใหญ่ของโรงพยาบาล แม่ของเขาคุณหญิงทองเปลวเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ตอนนี้เกษียณอายุออกไปอยู่บ้านด้วยวัยหกสิบแปดปี

“คนไข้หมดรึยังครับ” เขาถามเมื่อผู้ป่วยเดินออกไปจากห้องตรวจ วันนี้ตั้งแต่เช้าจนบ่ายได้พักแค่ตอนเที่ยงเอง

“เดี๋ยวดูก่อนนะคะหมอหมาว่าหมดรึยัง” แล้วพยาบาลสาวผู้ทำงานติดตามคุณหมอมาได้สองปีก็เดินไปเปิดประตูห้องส่องหน้าออกไปส่องดูว่ายังมีคิวนั่งรอเข้าตรวจหน้าห้องไหม พอส่องดูแล้วก็ปิดประตูแล้วเดินกลับเข้ามารายงาน

“หมดแล้วค่ะหมอหมา”

“ครับ ขอบคุณที่เหนื่อยด้วยกันทั้งวันนะนิ่ม”

“ด้วยความยินดีค่ะ หน้าที่นิ่มอยู่แล้วหมอหมา ขอบคุณที่เหนื่อยเหมือนกันนะคะหมอ ขอตัวก่อนนะคะ แล้วเจอกันพรุ่งนี้ค่ะหมอหมา”

“ครับ แล้วเจอกัน”

ทัชชกรส่งยิ้มให้พยาบาลสาวที่ทำงานเข้าขาตนเองมาตลอดสองปี เธอทำงานเก่งมาก เขาชอบเวลามาทำงานแล้วเวรตรงกับพยาบาลสาว

นวิยายิ้มให้นายแพทย์หนุ่มแล้วเดินเปิดประตูห้องออกไป

ปึก!

เสียงประตูห้องปิดสนิท ทัชชกรก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เหยียดแขนบิดเอวไปมาไล่ความปวดเมื่อยก่อนจะถอดเสื้อกาวน์ตนเองแขวนไว้มุมห้องแล้วเดินเข้าห้องน้ำส่วนตัวในห้องเพื่อล้างมือและส่องดูความเรียบร้อยของตนเองแล้วเดินออกมาเปิดลิ้นชักโต๊ะทำงานหยิบโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์และกุญแจรถออกมา

“พรุ่งนี้หยุด จะจัดให้ฉ่ำเลยคอยดู ขออย่ามีเคสด่วนก็พอ” เขาพึมพำกับตนเองแล้วเดินฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีออกจากห้องทำงาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel