T : บทนำ
บทนำ!!!
“มินตราจะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีลดตัวเองไปเป็นเมียบำเรอของพ่อเลี้ยงเด็ดขาด”
“แต่ถ้าลูกไม่ทำ ครอบครัวของเราคงไม่เหลืออะไรคงต้องหมดตัวคุณพ่อและคุณแม่ต้องอับอายสังคม”
“ค่ะ คุณแม่รักษาหน้าตาทางสังคมไว้แต่คุณแม่ไม่รักษาศักดิ์ศรีของมินตราเลย มินตราลูกสาวของคุณแม่นะคะ คุณแม่ยอมขายลูกให้ไปเป็นเมียบำเรอของเขา เพื่อแลกกับศักดิ์ศรีครอบครัวศักดิ์ศรีของตัวเอง”
ผวะ!! ฝ่ามือขวาของหญิงสูงไว้ได้ฟาดตกลงใบหน้าของลูกสาว ด้วยความโมโหจึงทำให้หน้าของหญิงสาวหันตามแรงตบ
“ฮื่อๆ”
“จำไว้นะมินตรา แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกและเพื่อครอบครัว ในวันนี้อาจจะเป็นเมียบำเรอแต่ในอนาคตอาจจะเป็นเมียตัวจริงไง ทำตามแบบที่แม่บอกและแม่ต้องการ ถ้ายังเห็นแม่เป็นแม่อยู่”หยดน้ำตาทั้งสองข้างของหญิงสาวไหลหล่นลงที่แก้มจนหยดลงพื้น เธอเลือกที่จะเงียบและเอามือแก้มไว้
“ฮื่อๆ ก็ได้ค่ะอยากให้มินตราเป็นเมียบำเรอของเขามากก็ได้ค่ะ มินตราจะทำให้”พรึ่บสิ้นสุดคำพูดประชดของตัวเอง เธอรีบวิ่งขึ้นกับไปบนห้องพร้อมกับเสียงสะอื้นและน้ำตา
...“มินตรา” ...
เราปิดประตูห้องทันที และนั่งลงอยู่ที่เตียงชีวิตคนเราเกิดมาอยู่บนกองเงินกองทองก็ว่าได้ แต่เราไม่เคยทำตัวเกเรหรือว่านอกลู่นอกทาง แต่จู่ๆในวันนี้คุณแม่กลับให้เราไปใช้หนี้แทนหรือว่าไปเป็นเมียบำเรอของเจ้าหนี้ซึ่งเรารับไม่ได้จริงๆ เราชื่อว่า มินตราเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณพ่อธีรเดชและคุณแม่พิกุล เราเรียนจบแล้วแต่ยังไม่ได้ทำงาน คุณพ่อให้เราพักก่อนทางบ้านของเรามีบริษัทให้ธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งฐานะทางบ้านค่อนข้างมีหน้ามีตาทางสังคม ผู้คนรู้จักมากมาย แต่ใครจะรู้ลึกถึงในครอบครัว บริษัทของคุณพ่อ ว่ากำลังจะล้มละลาย คุณแม่บอกว่าเขาไปกู้เงินคนที่ชื่อพ่อเลี้ยงมาเพื่อยื้อบริษัทไว้ และพ่อเลี้ยงคนนั้นเป็นใครเราก็ยังไม่เคยเห็น แต่ที่รู้ๆเขาแต่งงานมีครอบครัวมีลูกอยู่แล้ว คุณแม่รับข้อเสนอของเขามาโดยที่ให้เราไปเป็นเมียบำเรอหรือว่าเมียน้อยของเขา เราเคยมีแฟนแล้วแต่เลิกกันไปเมื่อ 10 เดือนก่อน เหตุผลที่เลิกกัน ผู้ชายคนนั้นเขาบอกว่าเขาไปทำผู้หญิงคนอื่นท้อง แต่พอเรามารู้ทีหลังเขาไม่ได้ไปทำใครท้อง เขาแค่เจอคนที่ใช่และคนที่ชอบเขาเลยตัดสินใจทิ้งเราโดยที่ไม่สนใจว่าเราคบกันมากี่ปี กว่าจะตกลงเป็นแฟนกันได้ แต่ก็ช่างเถอะเรามองโลกในแง่บวกเสมอ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นแฟนกับเขาแต่ก็ขอให้เราได้รักเขาไม่ว่าในสถานะอะไรก็ยอม
ก๊อกๆๆๆๆๆ!!!
“มินตราเปิดประตูให้แม่”สองมือของเราเช็ดน้ำตาตัวเอง กอดผ้าห่มร้องไห้ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าชีวิตจะต้องตกไปเป็นเมียน้อยเป็นเป็นเมียบำเรอของใครก็ไม่รู้
“มินตราอยากอยู่คนเดียวค่ะ”
“แม่นับ 1-3 ถ้าไม่มาเปิดประตูแม่จะไม่กลับเข้ามาในบ้านอีก”คุณแม่เคยโกรธและออกจากบ้านไปโดยที่ติดต่อไม่ได้ ในตอนที่ทะเลาะกับคุณพ่อ เราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เราเป็นห่วงคุณไม่ให้เลยตัดสินใจลุกขึ้นจากเตียงและเดินมาเปิดประตู
“แม่ขอโทษ แม่ไม่ได้ตั้งใจ”ฝ่ามืออุ่นๆด้านขวาของคุณแม่สัมผัสมาที่แก้มของเราเบาๆในด้านที่เขาตบ
“ฮื่อๆ”ตั้งแต่เล็กจนโตเราไม่เคยถูกตี รุนแรงมากที่สุดก็ถูกดุ แต่ในวันนี้เราถูกคุณแม่ตบหน้า
“ทำเพื่อครอบครัวนะลูก ไม่มีคุณพ่อคุณแม่คนไหน อยากให้ลูกของตัวเองไปเป็นเมียบำเรอของใครหรอก แต่ที่คุณแม่กับคุณพ่อเลือกที่จะทำก็เพราะว่าลูกจะได้อยู่ในสังคมต่อไป”
“ฮื่อๆทำไมล่ะคะคุณแม่ เราไม่ต้องอยู่ในสังคมก็ได้เราอยู่แบบคนทั่วไปก็ได้นี่คะ”
“ลูกก็รู้ใช่ไหมว่าคุณพ่อเสี่ยงกับการเป็นโรคหัวใจ คุณหมอบอกเมื่อตอนไปตรวจสุขภาพ คุณพ่อเองเขาก็เสียใจและห้ามคุณแม่ไม่ให้พูดกับลูก ไม่ให้ลูกทำแต่แม่ยอมไม่ได้บริษัท ให้คุณพ่อสร้างมา กำลังจะล้มละลายมินตราไม่สงสารคุณพ่อหรอลูก”คุณพ่อรักบริษัทของท่านมากเป็นบริษัทที่คุณปู่ยกให้
“มินตราจะหาวิธีหาเงินให้กับคุณพ่อ คุณแม่โดยที่ไม่เอาตัวเองไปเป็นเมียบำเรอของใครก็ไม่รู้”
“ในบางครั้งมินตราก็พูดไม่รู้เรื่อง ทำไมต้องให้คุณแม่ดูด้วยห้ะ! ในเมื่อออนวอนและขอกันดีๆเงินตราไม่ยอมทำอย่างนั้นก็คงต้องใช้การบังคับแล้วแหละ”
“คุณแม่”
“เตรียมเก็บเสื้อผ้าอีก 1 ชั่วโมงรถจะมารับไปอยู่ที่บ้านของพ่อเลี้ยง”
“ไม่ค่ะฮื่อๆมินตราจะไม่ยอมไป”
“กล้าขัดคำสั่งแม่หรอมินตรา บอกให้เก็บเสื้อผ้า”คุณแม่มองจ้องหน้าเราพร้อมกับเสียงตะคอกให้เราเก็บเสื้อผ้า
“ฮื่อๆขอร้องนะคุณแม่ ให้โอกาสมินตราได้หาเงินมาใช้หนี้แทน อย่าเพิ่งให้มินตราไปเป็นนางบำเรอของใครเลย”สองขาของเราคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับมือทั้งสองข้างถนนไหว้คุณแม่
“เงินเกือบ 20 ล้านจะมีเวลาที่ไหนไปหา”
“ฮื่อๆ20 ล้านเลยหรอคะ”เราเพิ่งรู้เหมือนกันว่าคุณแม่กับคุณพ่อเป็นหนี้เขาเกือบ 20 ล้าน
“ใช่ไงศักดิ์ศรีทั้งสังคมยอมเสียไม่ได้แต่ศักดิ์ศรีของร่างกายเสียไป ใครจะไปรู้วันไหนที่หมดหนี้ หรือว่าพ่อเลี้ยงเขาเบื่อลูกก็เป็นอิสระ แล้วกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่จำไว้นะมินตรา มินตราต้องทดแทนพระคุณพ่อแม่”
“ฮื่อๆขอเวลามินตราสักพัก คุณแม่ออกไปก่อนนะคะขอร้องๆ มินตราขอร้องจริงๆ”เรายอมรับเลยว่าเราร้องไห้จนสั่นไปหมดพูดแทบไม่เป็นคำพูด เราเสียใจหลายๆอย่างและไม่เคยคิดว่าคุณแม่จะพูดกับเราแบบนี้มันจุกจนพูดไม่ออก และคุณแม่ก็เปิดประตูออกไปจากห้อง
“มินตราจะไม่ยอมเป็นเมียบำเรอของใครฮึ้ก!”เรารู้นะว่าต้องตอบแทนพระคุณพ่อแม่แต่เราทำไม่ได้จริงๆ เรายอมรับไม่ได้เราไม่อยากแย่งสามีใคร ไม่อยากพลากครอบครัวของเขา โดยการที่เราไปเป็นเมียน้อย สองขาของเราพยุงตัวเองขึ้นและเดินมาถึงลิ้นชักที่หัวเตียง ก่อนที่จะเปิดเอายานอนหลับออกมาเทใส่ฝ่ามือจนล้น
“ฮื่อๆมินตราขอโทษ คุณพ่อกับคุณแม่นะคะขอโทษที่ไม่ได้ตอบแทนพระคุณขอโทษที่ไม่ได้ทำตามที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการ”
อึกๆๆๆ!!!