ตอนที่ 11 : เจอกัน
22.50 น.
ครืน...
เสียงกลไกของตู้เก็บหนังสือค่อยๆ เปิดออกจนคนที่อยู่อีกฝั่งสามารถแทรกตัวผ่านได้ โยชิค่อยๆ เดินเข้ามาในห้องที่หญิงสาวนอนพักแบบไม่รู้สึกตัว จากนั้นจึงเดินมาหยุดอยู่ข้างเตียง
หึ...จะให้รู้สึกตัวได้ยังไงในเมื่อเขาแอบให้คนเอายานอนหลับใส่ในอาหารเพื่อให้เธอนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อรับศึกหนักในวันพรุ่งนี้ ถ้าไม่ทำอย่างนั้นมีหรือผู้หมวดบ้าระห่ำอย่างเธอจะไม่ลุกขึ้นมาก้านคอเขาหักตายคาพื้น
ได้ยินว่าทักษะการต่อสู้ของเธอเป็นที่โจษจันจนน่ากลัว แค่ได้ยินก็ขนลุกแล้ว คนอะไรมุทะลุบ้าบิ่น
"หลับสบายเลยนะ มีคนแอบย่องเข้ามาในห้องยังไม่รู้สึกตัว แต่ถ้าคุณตื่นขึ้นมา ผมคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้"
เขาเอ่ยขึ้นแทรกผ่านความมืดสลัวของเงาจันทร์ที่สาดส่องอยู่ด้านนอก
"..."
"ถ้างั้นก็พักผ่อนให้เต็มที่ ฝันดีนะครับ"
เขาค่อยๆ โน้มตัวลงมาจนริมฝีปากประทับกับหน้าผากของหญิงสาว จากนั้นจึงเดินไปที่ตู้หนังสือแล้วปิดประตูกลไกลลง
พรุ่งนี้คงมีอะไรสนุกให้ทำเยอะแยะ…
แพรวาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า นึกแปลกใจที่ตัวเองนอนยาวแบบไม่รู้สึกตัวทั้งคืน เธอจึงเดินไปหน้าประตูแต่ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ หญิงสาวจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ชั้นหนังสือ
จริงดังคาด เมื่อคืนมีคนเข้ามาในห้อง สังเกตได้จากผงแป้งที่โรยไว้ ตรงนั้นมีรอยเท้าของใครบางคน และรอยนั่นยังมาหยุดข้างเตียง
อันดับแรกต้องรู้ให้ได้ก่อนว่าคนที่พักใกล้ๆ กับเธอเป็นห้องใคร
เมื่อวานตอนริวยะแนะนำสถานที่ให้ฟัง เขาไม่ได้พูดถึงห้องพักแถวที่เธออาศัย บอกแต่เพียงว่าพักห้องนี้เท่านั้น
ความจริงแค่ดูกล้องวงจรปิดก็จะรู้ทันทีว่ามีใครผ่านแถวนี้ แต่การทำแบบนั้นจะยิ่งสร้างความสงสัยให้คนในคฤหาสน์ หากคนที่อยู่ในกล้องเป็นคนในที่ไม่ได้ดูน่าสงสัยสำหรับพวกเขา ทุกคนในที่นี้อาจเบี่ยงความสนใจมาจับผิดเธอแทน เพราะเธอดันเผลอแสดงว่าตัวเองกำลังถูกบางอย่างจับผิดทั้งที่เข้ามาใหม่
และนั่นไม่ดีต่อการล้วงข้อมูลของเธอ หากทำให้พวกเขาหมดความเชื่อใจ
หญิงสาวเดินกลับมาที่ประตูเลื่อน จากนั้นจึงเปิดออกสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า
"อรุณสวัสดิ์พีระ"
แพรวาหันมองตามเสียงก็พบว่ามีชายคนหนึ่งเลื่อนประตูห้องและโผล่หน้าออกมาทักทายเธอด้วยรอยยิ้มสดใส แต่นั่นไม่สำคัญ ประเด็นคือชายคนนั้นคือคนเดียวกันกับที่เดินมาหาเธอในสนามปะลอง
แล้วเขามาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง
"..."
แพรวาไม่แยแสกับท่าทางของอีกฝ่าย เธอทำเพียงมองตอบกลับเท่านั้น
"เย็นชาจังนะ แต่ไม่เป็นไรฉันไม่ถือ"
"นายเป็นใคร"
คำถามของหญิงสาวเรียกรอยยิ้มจากเขา ชายหนุ่มจึงเดินออกมาจากห้อง เขาสวมชุดยูกาตะตัวโคล้งมัดเชือกอย่างหมิ่นเหม่ รูปร่างแบบนี้ ท่างทางแบบนี้ เรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์อันเหลือร้าย
"ไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร"
ไม่เข้าใจว่ามนุษย์ในโลกนี้สมองตายหรือปัญญาอ่อนกันแน่ ไอ้คำถามเช่น 'รู้มั้ยฉันลูกใคร' หรือ 'รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร' ถึงยังมีเกลื่อนอย่างกับผักสดตามท้องตลาด
"หึ..นายยังไม่รู้จักตัวเองแล้วจะให้ฉันรู้จักนายได้ยังไง"
หญิงสาวทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แถมเมินอีกฝ่ายแบบสุดๆ
เขาค่อนขอดอยู่ในใจ คงไม่ใช่แค่ฝีมือดีอย่างเดียวแล้วล่ะ แต่ปากก็ดีด้วย มิน่า...ถึงได้มีศัตรูมากมายนับไม่หวาดไม่ไหว
ให้ตายสิ มือขวาคนนี้ท่าจะรับมือยากหน่อยแล้วมั้ง
"งั้นนายก็รู้ไว้ซะ ฉันเป็นเจ้าของห้องนี้ แล้วก็เป็นทายาทคนเดียวของตระกูลเซคุนาวะ แล้วทีนี้นายพอจะรู้จักฉันบ้างรึยัง"