ไปนอนในห้องกับหนูก็ได้
“ อาจะนอนตรงนี้เหรอคะ ”
“ อืมใช่ เออ อาว่าจะขอผ้าห่มสักผืนน่ะ ”
“ มันไม่สบาย ไปนอนในห้องกับหนูก็ได้ค่ะ เตียงหนูเบ้อเริ่ม ” คำพูดใสซื่อของหลานกลับทำให้คนเป็นอาชะงัก
“ ไม่ดีกว่า อาขอนอนตรงนี้แหละ ”
“ ทำไมล่ะคะ ตอนเด็ก ๆ อาก็มานอนกับหนูออกจะบ่อย ”
“ ก็ตอนนี้หนูตัวโตแล้ว เดี๋ยวนอนดิ้นมาทับอาขี้แตก ” เขาพูดขำ ๆ เธอทำปากยื่น
“ โห่ หนูตัวนิดเดียว อานั่นแหละ ตัวบิ๊กเบิ้ม ”
“ งั้นก็ยิ่งไม่ดีใหญ่ เพราะเดี๋ยวอาทับหนูขี้แตก ”
“ อาใหญ่อย่าเรื่องมากสิคะ น้า ไปนอนกับหนูน้าเล่านิทานให้หนูฟังด้วย ” หลานสาวเร้าหรือพลางไปดึงแขนกำยำของคนเป็นอา จนกระทั่งเขาใจอ่อนเดินตามเธอขึ้นไปบนห้อง
เมื่อเข้าไปในห้อง ทั้งคู่นอนบนเตียงกว้างแล้ว เธอก็เข้าไปนอนหนุนแขนเขาเหมือนสมัยเด็ก ๆ
“ เอาเรื่องบ้านหนมปัง ” คนเป็นอาหัวเราะลั่น
“ นี่ เป็นสาวแล้วยังจะอยากฟังนิทานอีก ”
“ น้าค้าาา ” เธอออดอ้อนพลางเงยหน้าทำตาเว้าวอน แน่นอนว่าอาใหญ่ก็ทนลูกอ้อนแบบนั้นไม่ไหว จึงเล่านิทานให้ฟังตามที่เธอต้องการ
“ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว... ”
จนกระทั่งจบ เธอก็ถอนใจยาวหากแต่เป็นการถอนใจอย่างมีความสุข
“ ดีจังเลยค่า ในที่สุดพ่อก็รู้ความจริงเรื่องแม่เลี้ยงใจร้าย สงสารสองพี่น้องจังนะคะ ” คำพูดของหลานทำให้อาใหญ่ฉุกคิด
“ น้องแยม น้าเพ็ญเมียใหม่พ่อเขาดีกับหนูหรือเปล่า ” เธอเงียบไปพักหนึ่ง
“ ก็ดีนะคะ แต่หนูไม่ค่อยคุยกับเขาหรอก ”
“ เพราะว่าหนูหวงพ่อใช่ไหม ” คราวนี้เธอเงียบ ไม่ตอบอะไรทั้งนั้น
“ อารู้ดีว่าพี่ยศน่ะรักน้องแยมมาก แต่ด้วยความที่เป็นผู้ชายอาจจะไม่ละเอียดอ่อนได้เท่าผู้หญิง บางสิ่งบางอย่างเขาอาจไม่เข้าใจหนูที่กำลังเป็นวัยรุ่น ถ้ามีอะไรก็ค่อย ๆ ปรับความเข้าใจกัน อย่าเอาแต่คิดไปเองและน้อยใจอยู่ฝ่ายเดียว รู้ไหม ”
“ พ่อเค้าไม่มีเวลาให้หนูแล้วล่ะค่ะ อีกหน่อยน้องออกมาก็คงต้องทุ่มเวลาให้น้องอีก ”
“ ไม่เอาสิ ไม่คิดแบบนี้ นี่เคยคุยกับพ่อบ้างหรือเปล่าว่าแอบน้อยใจเค้าเนี่ย ” เธอส่ายศีรษะ
“ แล้วกัน ไม่พูดแล้วจะรู้ได้ยังไง เอางี้ ไว้มีเวลาเดี๋ยวอาจะคุยกับพ่อให้นะ ”
“ ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูไม่ได้สำคัญอะไรนัก ”
“ พูดแบบนี้ได้ยังไง หนูสำคัญที่สุดสำหรับพ่อนะ และสำหรับอาด้วย ” คำพูดของอาทำให้เธอต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง
“ จริงนะคะ ”
“ จริงสิคะ ”
“ อาอย่าทิ้งหนูนะ ”
“ ไม่ทิ้งค่ะ ”
“ อาจะมาอยู่ข้างบ้านหนูเหมือนเคยใช่ไหมคะ ” คำถามของเธอทำให้อาใหญ่หัวเราะ
“ อยู่ไม่ได้แล้ว เพราะว่าแม่อาขายที่ไปแล้วไง ”
“ อ้าว ” เธอหน้าม่อย
“ งั้นอามาอยู่กับหนูที่บ้านนี้เลยสิคะ ”
“ ได้ยังไงเล่า ”
“ แล้วยังไงล่ะคะ ไหนว่าอาจะอยู่เคียงข้างหนู แบบนี้ก็โกหกชัด ๆ ” เด็กสาวหน้าง้ำ ขยับลงจากการหนุนแขนแข็งแรงไปนอนชิดริมเตียง คนเป็นอาหัวเราะแล้วขยับเข้าไปรวบเธอเข้ามากอดแน่น
“ ไม่ต้องมากอดเลย ”
“ ขี้งอนจังเลย เด็กงอแง ”
“ ก็ไหนอาบอกว่าจะอยู่กับหนูไงคะ ”
“ อาหมายถึงอาจะกลับมาอยู่เมืองไทย แต่ไม่ได้ความว่าจะมาอยู่กับหนูที่บ้านได้ พ่อหนูก็มีน้าเพ็ญ มีน้อง มีหนูอยู่แล้ว ”
“ งั้นอาก็ไม่ควรพูดว่าจะกลับมาอยู่กับหนูหรอกค่ะ ” เธอกระเง้ากระงอด เขารัดเธอเข้ามาแนบอก
“ แม่ของอาซื้อที่ไว้แถวเมืองเหนือ อาว่าจะไปอยู่ที่โน่น ทำรีสอร์ทหรือร้านอาหาร ร้านกาแฟเล็ก ๆ แล้วอาก็จะได้มาหาหนูได้บ่อย ๆ ไง ”
“ ให้หนูไปอยู่กับอาด้วยได้ไหมคะ ” เธอหันมาจ้องเขาแล้วพูดจริงจัง ทำให้อาใหญ่ตอบไม่ถูก
“ เออ จะเอางั้นเหรอ แต่หนูต้องเรียนนี่ ”
“ หนูจะจบมอหกแล้ว ปีหน้าก็เรียนมหาลัย หนูเรียนมหาลัยเปิดก็ได้ ระหว่างนี้หนูจะไปเรียนทำอาหาร ทำกาแฟ จะไปเป็นลูกจ้างร้านอาใหญ่ค่ะ ” คำพูดของหลานทำให้อาใหญ่ยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
“ ได้สิ เด็กดีของอา ”
“ อามีเมียหรือยังคะ ” คำถามนั้นแทบจะทำให้เขาแทบสำลักก่อนส่ายหน้า
“ อามัวแต่ทำงาน ไม่มีเวลาไปรักใครหรอก ”
“ ดีเลย หนูไม่อยากให้อามีเมียหรอกค่ะ เดี๋ยวจะลืมหนูเหมือนพ่ออีก ” เขาก้มลงหอมหน้าผากเธอเบา ๆ