ตอน 3
“ไม่เป็นไร ในเมื่อไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไร” เขาไม่เคยเห็นหน้าสาวน้อยคนนี้ เป็นลูกเต้าใครกันถึงได้มาเล่นน้ำอยู่แถวนี้ ทิดยอดดึงใบหน้าแดงก่ำที่มีคราบน้ำตามาจูบแรงๆ ปล่อยอย่างรวดเร็ว “ร้องทำไมไม่มีใครตายซะหน่อย” สาวน้อยร้องไห้
“หนูจะกลับบ้าน ให้หนูกลับบ้านเถอะนะ” สาวน้อยข้อร้องทั้งน้ำตา
“ได้สิ มีข้อเดียวถ้าอยากกลับบ้าน ห้ามบอกเรื่องนี้กับคนอื่นเด็ดขาด ถ้าหนูบอกคนอื่นรับรองฉันจะฆ่าเธอแน่ คอยดูสิ” เขาขู่ความจริงไม่ได้อยากฆ่า อยากเก็บไว้กินอีกต่างหาก เผื่อมีโอกาสได้เจออีก เขาเองก็ไม่เคยข่มขืนใครแบบนี้ กับมะลิและเมียอีกคนก็ไม่เคยขืนใจ สมยอมกันทั้งนั้น
ยอดไม่เคยโหด อยากโหดปนหื่น หนูคนนี้ทำให้เขาต้องสวมบทโหดเป็นโจรจิตทรามข่มขืนเด็ก สาวน้อยปวดแปลบกลางกาย หยัดตัวลุกไม่ขึ้นรู้สึกตัวระบมเจ็บไปทั่วน้องสาว ยิ่งหว่างขาแทบขยับไม่ไหว เนื้อตัวเลอะเทอะ อยากล้างตัว กลับบ้านสภาพรับรองพ่อแม่ต้องซักจนขาวสะอาด ร่างเปลือยเปล่าอ่อนแรงค่อยๆ ขยับตัวจะลงไปลำห้วย
ยอดเห็นท่าลำบาก อดไม่ได้ก้มตัว
“ลุง...อย่า ลุงจะทำอะไรหนู อย่านะ พอแล้วหนูเจ็บ” สาวน้อยออกอาการหวาดกลัว ขยับหนีแต่ว่าอ่อนแรง ร่างกายเหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ หน้าขาเลอะไปด้วยเลือดสาว
“เฉยเถอะ” ทำหน้าเฉยเหี้ยมช้อนอุ้มสาวน้อยเดินจ๋อมๆ ลงไปในน้ำ วางเธอลงอย่างนุ่มนวล สาวน้อยมองหน้าลุงหื่น ด้วยความไม่เข้าใจ ข่มขืนเธอแล้วกลับทำดี เขาเป็นคนประเภทไหนกันแน่ คนร้ายหรือคนดี
“เอ่อ...” สาวน้อยพูดไม่ออกไม่รู้ควรด่า หรือว่าร้องไห้ กับสิ่งที่ตัวเองโดนกระทำก่อนหน้านั้น หรืออย่างไรตอนนี้งุนงง สับสนไปหมด
“มานี่” มือใหญ่คว้าสบู่ที่สาวน้อยใช้ถูตัว ลงมือฟอกกับร่างเปลือยเปล่าถูกเขารังแก ทั้งหมดจากความอยากเป็นเหตุ เขารู้ตัวเองทำผิดเกิดมาก็ไม่ได้ขืนใจใครเลย ใครสั่งใครสอนให้แม่สาวคนนี้ อวบอิ่ม เย้ายวนน่ากิน เขาก็ประเภทอดอยาก ตั้งแต่เลิกกับเมีย พลาดกับมะลิ ก็ไม่ได้แตะต้องผู้หญิงสักคน
เขาลงมือฟอกสบู่ถูตัวให้สาวน้อยเรือนร่างสวยงามไร้อาภรณ์ปกปิด ยิ่งลูบยิ่งไล้ สมองหื่นเขาก็เริ่มทำงานหนักขึ้นตามลำดับความหื่น ความตัณหาที่ฝังอยู่ในตัว
“เอ้า...อาบเอง” หลังจากฟอกสบู่ถูตัวให้สาวน้อย มือที่ปัดป้ายลูบไล้สุดต้านแรงอยากที่กระเด็นกระดอนอยู่ในกาย เขาทิ้งสบู่จ๋อมลงน้ำ เดินหน้าชาหนีไปดื้อๆ
สาวน้อยมองท่าทีบึ้งตึง เย็นเย็บดุจน้ำแข็งของลุงหื่น ไม่เข้าใจอะไรใดๆ ตกลงเขาเป็นคนยังไงกันแน่ ได้แต่หยิบสบู่ลงมืออาบน้ำเองจนเสร็จ คว้าผ้าถุงที่ติดอยู่กิ่งไม้มาสวมใส่ เดินไปหาเสื้อผ้าที่ตัวเองถอดกองไว้บนคันห้วย
ทิดยอดเดินกลับบ้านด้วยอาการตัวเบาหวิว ดวงหน้าประทับด้วยรอยยิ้มของความสุข สำเร็จในสิ่งที่ตนหวัง และหวังอีกอย่างว่าสาวน้อยบริสุทธิ์ผุดผ่องคนนั้นจะไม่เอาเรื่องที่เขาข่มขืนไปฟ้องผู้ปกครอง แล้วถ้าฟ้องล่ะ เขาควรจะทำอย่างไร ไม่ติดคุกหัวโตหรือวะ ติดก็ยอมวะอร่อยขนาดนี้
คราวนี้ไอ้หนุ่มใหญ่ถึงกับคิดหนัก ก้าวขาแต่ละทีเท่ากับก้าวเข้าคุกไปครึ่งตัว นึกยังไงถึงตนจะบ้าทำอย่างนั้น ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ ยกมือเขกกบาลตัวเอง ด้วยความตำหนิ
“ไปไหนมาวะทิดยอด” ชายคนหนึ่งในวัยเดียวกันเอ่ยถาม
“อ้าวทิดชอบ ไปไงมาไง ไม่เจอตั้งนาน ว่าแต่เอ็งไปทำอะไรมาวะ หน้ายิ้มแปลกๆ”
“ไปวางเบ็ดมา”
“ได้ปลามั่งไหมล่ะ”
“เพิ่งไปวาง คืนนี้ค่อยไปกู้” การไปวางเบ็ดครั้งนี้คุ้มค่ากว่าทุกที ถึงไม่ได้ปลาไปขายก็ยังได้กินจนอิ่ม
“เป็นยังไงบ้างเรื่องมะลิ”
“ปล่อยไปเถอะ ฉันไม่คิดอะไรแล้ว ฉันทำมะลิมันเจ็บเองจะโทษคนอื่นก็ไม่ได้”
“แต่มันไม่เหมาะสมนะเว้ย”
“เอาอะไรมาวัดว่าเหมาะสมไม่เหมาะสม ก็เขารักกันนี่”
“ไอ้เหนือมันยังเด็ก จะเอาอะไรมาเลี้ยงดูนางมะลิ”
“ความรักไง ฉันทิ้งเขาไปมีเมียใหม่ก่อน สมแล้วที่เขาเอาคืน”
“ไม่คิดทวงคืนหรือวะ”
“ทวงยังไง พอเถอะไม่อยากโดนประณาม”
“เออ...ปลงได้ก็ดี ผู้หญิงมีมากเท่าฝูงปลาลูกคอก”
“ทิดชอบก็พูดเกินไป ผู้หญิงมีมาก ถ้าเราปักใจใครมากๆ มันก็ลืมยากนะ”
“เดี๋ยวคงลืมเอาใจช่วยนะทิดยอด”
ทิดชอบเพื่อนรุ่นพี่ห่างกันแค่ปีสองปี เดินแยกจากไป ส่วนทิดยอดกลับบ้าน ด้วยความสุขล้นออกมานอกอก
“ชบา นั่นเอ็งกลับมาแล้วหรือ” ได้ยินเสียงลูกล้างเท้าอยู่หน้าบันได้บ้าน คนเป็นพ่อจึงเอ่ยถาม
“อ่อ...จ้ะพ่อ ไปยกยอได้ปลามามากไหม แม่รออยู่ในครัว”
“ดะ...ได้อยู่พ่อ” ชบาชูถังใส่ปลาที่ไปยกยอให้พ่อดู
“ไหนๆ”
“อือ...ได้พอกินแลงอยู่นะ ไปๆ เอาไปให้แม่หมก เออ ลูกคนนี้ใช้ได้ รีบไปอาบน้ำซะประเดี๋ยวจะเป็นไข้เอานา”
“จ้าพ่อ...” ชบาถือถังใส่ปลาที่ได้จากการยกยอไปให้แม่ในครัว “แม่นี่จ้ะปลา” ชบาวางถังที่มีปลาเล็กปลาน้อยให้แม่
“เออ...ดีจะได้ทำหมกปลาซิว หมกรวมๆ กันนี่แหละ ไปตัดใบตองกับเก็บผักแมงลักมาให้แม่ที ตะไคร้ไม่ต้องตัดมานะ ในครัวมีแล้ว
“จ้ะแม่” ชบาเดินออกไปหลังบ้าน เก็บใบแมงลักที่แปลง เก็บผักอื่นๆ มาด้วย วางไว้แล้วเดินไปตัดใบตอง เพื่อให้แม่ทำห่อหมกปลาซิว สาวน้อยคิดถึงแต่เรื่องที่เพิ่งเกิดกับตัวเอง กลั้นความเจ็บในช่องแคบของตัวเอง เพื่อจะไม่ได้แสดงสีหน้าผิดปกติให้กับแม่และพ่อจับผิดได้
เธอไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ ถ้าจะแจ้งว่าเขาข่มขืน ก็ไม่เชิงเธอรู้ตัวเองอยู่ว่า แอบเต็มใจพลีกายให้เขา เพราะหลงในลีลาความหล่อ ความกำยำบึกบึนชายรุ่นลุง เขาเป็นใครกันนะทำไมถึงได้หล่อขนาดนี้ เธอทำไมไม่รู้จักเขามาก่อน
“ชบาเอ๊ย ได้หรือยังใบตองน่ะ” เสียงแหวนตะโกนมาจากในครัว ซึ่งไม่ห่างจากแปลงผักสวนครัวนัก
“ได้แล้วแม่” ชบาสะดุ้งรีบตัดใบตองริออกเอาไปให้แม่
“ไปซะนานเชียวจะกินไหมข้าวเย็น”
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะแม่” ความจริงไม่ต้องอาบแล้ว โดนผู้ชายคนนั้นอาบให้จนหมดจด คนบ้า !! ชบาลืมตัวแอบยิ้มเดินเข้าห้องนอน แทนที่จะเข้าห้องน้ำอย่างที่บอกแม่ ใจหนึ่งกลับแอบคิด ถ้าเขาเอาเรื่องนี้ไปเล่าเสียๆ หายๆ เธอจะทำอย่างไร ใจสาวไม่สู้ดี ผลัดผ้าเปลี่ยนผ้าถุงด้วยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เห็นแต่ร่องรอยที่เขาแตะต้องหลงเหลืออยู่บนตัวเธอ ทำให้ตัวสาวน้อยร้อนผ่าว รุ่มร้อนขึ้นมาทันใด
“เร็วเข้าชบาเดี๋ยวไม่ทันพระ” แหวนตะโกนเรียกลูกสาวที่แต่งตัวอยู่ในห้อง “ลูกคนนี้กำชับให้ตื่นแต่เช้า อย่ามัวโอ้เอ้ลูก กลับช้าจนได้” ปกติชบาไม่ตื่นสายหรือว่าเมื่อวานไปยกยอนานตากแดดมากอาจจะเพลียแดด