ตอนที่ 2
ของผู้ชายคนนี้ ผิวเข้มๆ ของมันกับผิวขาวผ่องของหล่อนในยามที่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันคงเหมือนเอาสีดำมาทาบลงบนสีขาว
‘บ้าจริง... ’
เจมส์พยายามสลัดความคิดบ้าๆ ออกไปจากสมอง ให้ตายสิ... ไม่รู้ว่าตัวเองคิดไปได้ยังไง... แต่ก็น่าแปลกที่การจินตนาการไปว่าได้เห็นแพรนวลมีเซ็กส์กับผู้ชายแปลกหน้า... จะทำให้รู้สึกหัวใจเต้นแรง... มีอารมณ์ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ท่ามกลางแสงไฟที่สาดลงมากระทบเรือนร่างเอิบอิ่มไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาวสะพรั่ง แพรนวลดูสวยมาก สะโพก อก เอว ตึงเต็มอยู่ภายใต้อาภรณ์น้อยชิ้นของชุดนักร้องที่ทางร้านจัดเตรียมไว้ให้
ขณะที่แพรนวลกำลังโยกย้ายร่างกายช้าๆ แช่มช้อยไปกับท่วงทำนองดนตรีพลิ้วไหว สายตาของผู้ชายในร้านแทบไม่ละจากเรือนร่างของหล่อน
แพรนวลเป็นผู้หญิงนมใหญ่ จึงเห็นชัดเจนตอนที่แสงไฟฉายกราดลงมาอาบเรือนร่าง เสื้อคอกว้างเผยเนื้อหนังมังสาเย้ายวน ยิ่งเห็นชัดถึงความใหญ่ก็ตอนหล่อนก้มรับมาลัยจากลูกค้า
“ผู้หญิงคนนั้นชื่ออะไร?”
อาเสี่ยพุงใหญ่คนหนึ่งสะกิดถามเด็กเสริฟ
“ชื่อนวลครับ”
เด็กเสริฟตอบ
“ติดต่อให้ที... คนนี้ออฟได้ไหม”
เสี่ยหื่นดูเหมือนเมา น้ำเสียงจึงกระท่อนกระแท่นฟังไม่ชัดเจนนัก
“พี่นวลไม่รับออฟครับเสี่ย”
เด็กเสริฟตอบตามที่รู้ เสี่ยคนนี้เป็นลูกค้าหน้าใหม่ เพิ่งมาที่ร้านครั้งแรก แต่ท่าทางเงินหนา ใจกล้าถึงลูกถึงคน
“ฉันยอมจ่าย... เท่าไรเท่ากัน”
เสี่ยหื่นยังไม่ละความพยายาม
“งั้นผมจะลองถามพี่นวลอีกทีนะครับเสี่ย”
เจอพ่อบุญทุ่มแบบนี้ เด็กเสริฟจึงไม่อยากขัด เพราะคำว่า ‘ลูกค้าคือพระเจ้า’ คือนโยบายหลักของร้าน
ในเวลาต่อมา
“พี่นวล”
เด็กเสริฟคนเดินเข้ามาใกล้แพรนวลที่กำลังจะกลับบ้าน หลังจากหมดคิวร้องเพลง หล่อนเดินออกมาทางประตูหลังแล้ววกกลับมาที่หน้าร้าน
“มีอะไร”
แพรนวลถาม
“ไอ้เสี่ยอ้วนๆ นั่นจะออฟพี่นวล”
เด็กเสริฟบอกพลางทำปากยื่นไปยังเสี่ยร่างอ้วนกลม หัวล้านเหม่ง ใส่เสื้อเชิ้ตลายสีน้ำตาลขาว ที่คอวาบวับไปด้วยสร้อยทองเส้นโต
“ช่างเถอะ... ขอบใจที่อุตส่าห์มาบอก... ก็รู้นี่นาว่าพี่ไม่ขาย”
พูดจบแพรนวลก็เดินจากมา บังเอิญเจมส์เห็นตอนที่เด็กเสริฟยืนคุยกับนวล พอหล่อนเดินมาถึงตรงที่เขายืนสูบบุหรี่รออยู่... เจมส์ก็รีบถาม
“มีอะไรนวล”
“ลูกค้าจะออฟนวลค่ะ”
หญิงสาวบอกตามตรง แม้จะคบกันได้ไม่นาน แต่นวลก็ไม่เคยโกหกเจมส์
“ว่าแล้วเชียว... ขืนทำงานที่นี่ต่อไปนวลคงเสร็จไอ้พวกเสี่ยหื่นเข้าสักวัน”
เสียงของเจมส์บอกความหึงหวง
“นวลจะระวังตัวค่ะ”
หล่อนเดินเกาะแขนชายหนุ่มมาจนถึงรถมินิออสตินสีดำเลื่อมที่จอดเอาไว้หน้าร้าน
“ผมไม่อยากให้นวลทำงานที่นี่”
เสียงของเจมส์บอกความเป็นห่วง
“ได้ยังไง... นวลต้องทำงานค่ะ”
“นวลไปอยู่กับผมนะ”
เจมส์บอกในสิ่งที่ตัวเองครุ่นคิดมาทั้งคืน
“ไปอยู่ที่ไหนคะ?”
นวลไม่ได้คาดหวังกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ แต่ก็รู้ว่าเจมส์จริงจัง
“ที่เชียงราย... ไปอยู่ในไร่กับผม... พ่อเลี้ยงผมชื่อ ‘คมน์’ ทำไร่องุ่นอยู่ที่นั่น”
เจมส์เอ่ยถึงพ่อเลี้ยงคนนี้ให้ฟังบ่อยๆ ชื่อของ ‘คมน์’ ลอยเข้ามาในหูของแพรนวลบ่อยครั้ง
“จะให้นวลไปในฐานะอะไรคะ?”
หล่อนมองหน้าเขา
“ในฐานะภรรยาผม... นวลแต่งงานกับผมนะ”
เจมส์ตัดสินใจขอ... นวลตกใจ
“เจมส์... พูดเล่นหรือเปล่า?”
สายตาจับจ้องใบหน้าชายหนุ่ม มองลึกเข้าไปในดวงตา ราวกับว่ามีคำตอบอยู่ในนั้น
“เรื่องนี้สำคัญเกินกว่าจะเอามาพูดเล่น... แต่งงานกับผมนะครับ”
สุ้มเสียงจริงจัง นวลไม่ตอบ แต่โผเข้ากอดร่างผอมสูงของชายหนุ่มเอาไว้แน่น ดีใจจนหยาดน้ำตาซึมออกมาเปียกชุ่มไหล่ของเขา
“จะแต่งงานกับผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างนวล... คุณแน่ใจนะคะ... ว่าคุณพ่อของคุณจะไม่มีปัญหากับเรื่องของเรา”
หลังจากความตื่นเต้นดีใจผ่านพ้นไปแล้ว กลับกลายเป็นความกังวลผุดวาบเข้ามาแทนที่
“ไม่ต้องห่วงครับ... พ่อคมน์ของผมไฟเขียวอยู่แล้วครับ... พ่อคมน์รักผมตามใจผมทุกอย่าง”
เจมส์เอ่ยถึงพ่อเลี้ยง ‘คมน์’ ที่เป็นคนเลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กๆ รักและเอ็นดูเหมือนลูกในไส้
“แล้วคุณแม่ของเจมส์ล่ะ”
แพรนวลถาม
“คุณแม่ของผมเสียไปหลายปีแล้วครับ”
เจมส์ตอบ จากนั้นก็เล่าให้ฟังว่าหลังจากบิดาผู้ให้กำเนิดตนจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ‘ไปรยา’ แม่ของเขาก็ตัดสินใจมาแต่งงานใหม่กับคมน์ซึ่งเป็นเจ้าของไร่องุ่นในจังหวัดเชียงราย
“พรุ่งนี้เราไปอยู่เชียงรายกันนะ... ไปอยู่บ้านผม”
เจมส์ชวนง่ายๆ
“ค่ะ... ”