บทย่อ
“อู้ว... ” คมน์ตาวาว หลังจากกระดุมเสื้อของสะใภ้ถูกแกะออกจากกัน นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือของเขาคีบเค้นเม็ดหัวนมทั้งสองข้างของแพรนวล บีบแรงจนหัวนมแดงปลั่ง แข็งตั้งสู้มือ ของคมน์ “นวลจ๋า... หัวนมสวยมาก เธอน่าฟัดเหลือเกินรู้ตัวหรือเปล่า” คมน์เปลื้องเสื้อของหล่อนออกจากลาดไหล่ ขยับออกมาถอดกางเกงจนร่างกายเปลือยเปล่า ครั้นแล้วก็โถมทับลงมากอดจูบหล่อน “อ๊า... อือ”
ตอนที่ 1
ลมหนาวของเดือนธันวาเริ่มพัดโชยมาบาดผิว เลยเวลาหัวค่ำมามากแล้ว ภายในร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปริมณฑลใกล้เมืองหลวง กำลังมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการแน่นร้าน
“ต้องรออีกนานไหมครับ”
ชายหนุ่มผู้มีชื่อว่า ‘เจมส์’ เดินเข้ามาถามหญิงสาวผู้มีใบหน้าสะสวยสะดุดตา รูปร่างเซ็กซี่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หล่อนมีชื่อจริงว่า ‘แพรนวล’ เพิ่งเข้ามาทำงานเป็นนักร้องดาวเด่นอยู่ในร้านอาหารแห่งนี้มาได้เดือนกว่าๆ ก่อนที่จะเจอกับเจมส์
“เพลงสุดท้ายแล้วค่ะ... รอนวลอีกเดี๋ยวนะคะที่รัก”
หญิงสาวหอมแก้มเขาเสียงดังฟอด เดินไปส่งชายหนุ่มให้นอนรอในรถมินิออสตินคันหรู
ครู่ใหญ่ๆ ต่อมา
ภายในร้านอาหาร บนเวทีที่ยกสูงขึ้นจากพื้นราวๆ เมตรเห็นจะได้ แพรนวลพาเรือนร่างสวยสะคราญขึ้นสู่เวที ท่ามกลางสายตาของลูกค้าภายในร้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย ต่างพากันจับจ้องเรือนร่างอะร้าอร่ามของแพรนวลที่ยึดตำแหน่ง ‘นักร้องดาวเด่น’ ประจำร้านอาหารตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาทำงาน
เจ๊วิไลเจ้าของร้านอาหารพึงพอใจมาก ที่แพรนวลเป็นเหมือนแม่เหล็กช่วยดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้าน
เจมส์นั่งรออยู่ในรถครู่ใหญ่ๆ รู้สึกว่านานผิดปกติ เพราะว่าหญิงสาวบอกเอาไว้ว่าจะร้องอีกแค่เพลงเดียวเท่านั้น แต่นี่ก็หลายนาทีผ่าน... แพรนวลก็ยังไม่ออกมา
เจมส์เดินออกมาจากรถ ตรงเข้ามาที่หน้าร้าน ยืนรออยู่ข้างนอกอีกครู่ใหญ่ๆ ควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบฆ่าเวลา ตอนนั้นจึงเห็นว่าแพรนวลยังยืนร้องเพลงอยู่บนเวทีเพราะลูกค้าของร้านอาหารขอให้ช่วยร้องต่ออีกเพลง แพรนวลขัดไม่ได้ จึงต้องตามใจลูกค้า
ชุดรัดรูปที่นักร้องสาวสวมใส่ คัดเน้นทรวดทรงจนแฟนหนุ่มรู้สึกหวงหล่อน ผ้าซาตินมันเลื่อมพลิ้วบางแนบเน้นไปกับสรีระอันรัดรึง ท่วงท่ายักย้ายส่ายสะโพกบนเวทีจนนมกระเพื่อม ทำให้หล่อนดูเซ็กซี่เหลือเกิน
‘นวลไม่เหมาะที่จะอยู่ที่นี่... ’
เจมส์รำพึงกับตัวเอง รู้สึกสงสารหญิงสาวที่ต้องมาทำงานร้องเพลงกลางคืน
เจมส์เพิ่งรู้จักกับแพรนวลได้ไม่นาน แต่เขาก็ไม่เคยดูแคลนอาชีพของหล่อน ไม่คิดว่างานกลางคืนนั้นต่ำต้อยแต่อย่างใด เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้มาก็ล้วนแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงงานสุจริตทั้งสิ้น
‘นวลทำงานกลางคืน... อาชีพเต้นกินรำกินคุณรับได้หรือคะ?’
เป็นคำพูดของแพรนวล หล่อนตอบคำถามของเจมส์ ในวันที่เพิ่งรู้จักกันใหม่ๆ เขาอยากรู้ว่าหล่อนทำงานอะไร
‘รับได้สิครับ... ผมรับได้กับทุกๆ อย่างที่เป็นคุณ ’
เจมส์ปากหวาน แต่อันที่จริงเขาก็ไม่ได้ดูถูกอาชีพเต้นกินรำกิน แต่ที่ไม่อยากให้แพรนวลทำงานกลางคืนก็เพราะว่ามีเสี่ยหื่นหลายรายซึ่งเป็นลูกค้าประจำของร้าน พยายามจะติดต่อขอออฟหล่อนออกไปหาความสำราญข้างนอก
เจมส์นึกเปรียบเทียบความงามของแพรนวลกับดอกไม้ น่าเสียดายที่ดอกไม้อย่างหล่อนจะต้องมาแย้มบานในตอนกลางคืน เบ่งบานอยู่ท่ามกลางแสงสีของราตรีกาลอันหม่นมัว ชีวิตทุกวันล้วนอบอวลไปด้วยกลิ่นเหล้าเคล้าควันบุหรี่ ต้องยืนตากสายตาหื่นๆ ของผู้ชายในร้านอาหาร
ทุกๆ คืนนวลจะถูกรายล้อมไปด้วยหมู่ภมรซึ่งเป็นชายมากหน้าหลายตา จ้องมองหล่อนด้วยสายตาแทะโลมหมายขย้ำสวาท โดนเฉพาะพวกอาเสี่ยเงินหนาที่พากันมาหลงทั้งเสียงร้องและเรือนร่างสวยสะคราญของหล่อน
“นักร้องคนนี้สวยว่ะ... สวยมาก นมใหญ่สุดๆ สะโพกน่ากระแทกเหลือเกิน... หุ่นแบบนี้ถ้าได้สักทีพี่จะไม่ลืมพระคุณเลยน้องเอ๋ย”
เป็นคำพูดของชายวัยกลางคน ท่าทางหื่นจัด ตัวใหญ่ ผิวคล้ำ หน้าตามีแต่หนวดเครา เป็นคนขับรถของเสี่ยคนหนึ่งที่แวะมาที่ร้านอาหารแห่งนี้บ่อยๆ กำลังยืนคุยอยู่กับผู้ชายอีกคนซึ่งมีอาชีพขับแท็กซี่รับจ้าง
เจมส์จ้องมองผู้ชายคนที่เพิ่งเอ่ยถึงแพรนวลด้วยน้ำเสียงและสีหน้ากลัดมัน ไอ้คนนี้ตัวใหญ่และล่ำมาก
จู่ๆ ความคิดบางอย่างก็วาบเข้ามาในสมองของเจมส์ เขายกบุหรี่ขึ้นสูบ สายตาทอดมองขึ้นไปบนเวทีจากนั้นก็หันกลับมามองผู้ชายตัวใหญ่ที่เพิ่งพูดออกมาว่ามันอยากขย้ำแฟนของตน
เจมส์อดคิดไม่ได้ ว่าจะเป็นยังไงนะ... ถ้าผู้ชายคนนี้มีโอกาสได้หลับนอนกับนวล ตอนที่ทั้งสองเปลือยเปล่าล่อนจ้อนร่วมรักกัน... ตอนที่แพรนวลร้องครางอยู่ใต้ร่าง