บท
ตั้งค่า

บทที่2.นางบำเรอขัดดอก 2/3

“หลานของฉันเหรอคุณนาย?” เสียงของนางคงแฝงด้วยความกังขาอย่างเห็นได้ชัด

“แหงซิ...ลูกสาวของแม่หลวยน่ะ อย่าหาว่าฉันว่าเลยนะ... ไม่เหลือแล้วมั้งป่านนี้ ก้นไวยังกับนกปลอด...” นางไม่ได้ดูถูกอลินดา แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมานั้น... บอกนางอย่างนั้น เด็กสาวคนนั้นไม่น่าจะเหลือความภาคภูมิใจของผู้หญิงดีๆ หน้าฉากหล่อนอาจจะดูเรียบร้อย อ่อนหวาน แต่แววตาของหล่อนนั้นจัดจ้าเสียจนสายหยุดเชื่อไม่ลง

ฉลวยตวัดตาค้อนขวับ แม้ไม่พอใจแต่ก็เถียงไม่ออก นางไม่รู้ว่า อลินดาเป็นอย่างที่สายหยุดพูดหรือเปล่า เพราะไม่ติดตามเป็นเงาตามตัวบุตรสาว นางหวังแค่ให้บุตรสาวเอาตัวรอดได้เป็นพอ...

“เด็กนั่นน่ะ ผิวพรรณดี จับขัดสีฉวีวรรณเสียหน่อย ขี้คร้านจะขายได้ราคาดี”

นางประเมินอลิชาให้ฉลวยฟัง หากเป็นคนอื่นคงได้ลุกเต้น เมื่อลูกหลานถูกดูแคลนซึ่งๆ หน้า แต่ที่นั่งอยู่นี่ มีแต่มารร้ายที่ผุดขึ้นมาจากขุมนรก...ฉลวยจึงนิ่งฟังโดยไม่ได้แย้งอะไร

“ถ้าโปะหนี้ของฉันได้หมด ฉันจะลองคิดดูอีกที”

ฉลวยแสร้งไว้ท่า...ในหัวสมองคำนวณตัวเลขแบบถี่ถ้วน

“ยิ่งกว่าโปะหนี้หมดเลยแม่หลวย...หล่อนจะมีเงินติดกระเป๋ากลับไปเสียด้วยซิ” สายหยุดเอ่ยเสียงกระหึ่ม

“ใครที่ไหนเหรอ...คนแถวนี้หรือเปล่า ฉันกลัวผัวฉันมีปัญหา” นางถอนใจ หากกระเป๋าหนักปานนั้น ต้องเป็นเศรษฐีมีสตางค์ และอาจจะเผลอพูดจนเข้าหูสมภพ ถึงสามีจะรักใคร่ไยดีอลิชาไม่เท่าไหร่...แต่หากทำความเสื่อมเสียมาสู่วงศ์สกุลของเขา...สมภพคงไม่ยอมอยู่เฉยๆ

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ลูกค้าของฉันไม่มีใครปากโป้ง” สายหยุดคุยโอ่ ลูกค้าแต่ละคนของนางล้วนแล้วแต่เป็นคนมีหน้ามีตา ไม่มีใครปูดเรื่องอย่างว่าให้ตนเองเสื่อมเสีย

“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีค่ะ”

“แล้วฉันจะติดต่อกลับไป แม่หลวยน่ะมีหน้าที่แค่พาเด็กนั่นมาส่ง กับรับเงินกลับไปแค่นั้นเอง”

สายหยุดอธิบาย นางยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะหากเป็นอย่างที่หวัง กำไรเนาะๆ ลอยเข้ากระเป๋านางเห็นๆ

“ได้ค่ะ” ฉลวยลากลับ พร้อมกับความคิดชั่วร้ายในหัว

ฉลวยกลับมาทันก่อนที่อลินดาจะออกจากบ้าน หล่อนใส่ชุดนักศึกษาที่ค่อนข้างเล็กไปสักนิด หากเทียบกับรูปร่างที่อวบอัด รังดุมปริ ทำท่าเหมือนจะขาดผึ่งหากเจ้าตัวหายใจเข้าแรงๆ

“อลิน...แม่ว่าเสื้อมันคับไปมั้ย?” เมื่อมารดาท้วง นักศึกษาสาวแสร้งโวย

“มันเป็นเทรนค่ะคุณแม่...ไม่คับหรอก อลินว่ากำลังดี” หญิงสาวก้มมองเสื้อนักศึกษา หล่อนเงยหน้ายิ้มหวานให้มารดา

“ตามใจ เทรนก็เทรน” นางตัดบท โบกมือให้ เมื่อกำลังมีเรื่องให้คิด

“งั้นอลินไปเรียนก่อนนะคะ” อลินดารีบหาทางชิ่ง...วันนี้เธอไม่คิดจะไปคร่ำเคร่งในห้องเรียน เมื่อมีสตางค์เต็มกระเป๋า

“อืม...เดี๋ยว...แม่วานหน่อยซิอลิน...” ฉลวยเอ่ยปากอนุญาต เธอนึกขึ้นมาได้ ในบรรดาเพื่อนฝูงของบุตรสาว นางเห็นว่าแต่ละคนนั้น น่าจะช่วยหล่อนได้ เพราะภาพลักษณ์ที่เห็น เป็นเด็กเกเรเสียเป็นส่วนใหญ่

“อะไรคะแม่?”

อลินดาเอียงคอมอง

ฉลวยยิ้มเครียด “หายานอนหลับกับยาปลุกอารมณ์ให้แม่หน่อย” นางตอบบุตรสาวก่อนจะเสหลบตา

“คุณแม่จะเอาไปทำอะไรคะ! ” เสียงแข็งๆ ย้อนถาม

“หามาเถอะน่า...แล้วแม่จะอธิบายให้ฟัง...” ฉลวยบอกปัด เริ่มละอายใจเล็กน้อย

“อลินอยากรู้ค่ะ” อลินดากังขา เธออยากรู้วัตถุประสงค์ของคนเป็นแม่

ฉลวยมองสบนัยน์ตาบุตรสาว นางถอนใจเฮือก ก่อนจะเปิดปากเล่าความคิดในใจให้อลินดาฟัง

สาวรุ่นยิ้มกริ่ม “ได้ค่ะ อลินจะหาให้...ให้อลินช่วยนะคะแม่...” หล่อนออกตัว อยากช่วยมารดาจนเนื้อเต้น เมื่อได้กำจัดศัตรูทางอ้อม อยากเห็นวันที่อลิชาถูกย่ำยี...วันนั้นอลินดาคงมีความสุข เมื่อถีบส่งคนที่ตนเองเกลียดลงไปในขุมนรก

หญิงสาวผู้นั้นเป็นหนามแหลมๆ ตำใจตนเองมาตั้งแต่เด็ก อะไรก็ตามที่อลิชาทำ คนรอบตัวมักจะชื่นชม และนำมาเปรียบเทียบกับตนเองบ่อยครั้ง ผลการเรียนของอลิชานำโด่ง จนไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนก็ไม่มีทางตามทัน ทั้งที่เจ้าหล่อนอัตคัดเหลือทน การเป็นอยู่อดๆ อยากๆ แต่มันสมองนั่นก้าวล้ำกว่าคนที่เพียบพร้อมอย่างเธอหลายขุม

อะไรก็ตามที่ทำให้หนามตำใจของตนเองตกต่ำลงได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel